ลูกกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน สิ่งเล็กๆ ที่ผู้ใหญ่มองข้าม การเลือกอาหารให้เหมาะกับวัยลูก

ตอนลูกน้อยยังเป็นเบบี๋กินแต่นมแม่ ลูกดูจ้ำม่ำน่าฟัด แต่พอเริ่มให้อาหารเสริม ลูกกินเยอะมาก ทั้งข้าว ทั้งขนม ทั้งผลไม้  แต่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน เป็นเพราะอะไร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลูกกินเก่งแต่ไม่อ้วน ลูกกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน สิ่งเล็กๆ ที่ผู้ใหญ่มองข้าม กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน การเลือกอาหารให้เหมาะกับวัยลูก

ลูกกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน คุณแม่อาจเข้าใจว่า เมื่อลูกฟันขึ้น ควรเริ่มให้ลูกกินข้าวสวยเหมือนผู้ใหญ่ แต่ยังไม่ปรุงรสเพื่อฝึกการเคี้ยวของลูกได้แล้ว แต่ในความเป็นจริง คุณหมออธิบายว่า ลูกวัยก่อน 1 ปี กระเพาะของเขายังทำงานได้ไม่เต็มที่ การดูดซับอาหารยังไม่ดี ลูกกินเข้าไปก็แค่อึออกมา ร่างกายไม่ได้ดูดซึมไว้ จึงทำให้ลูกกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ดังนั้น คุณแม่อย่าเพิ่งใจร้อนให้ลูกกินเหมือนผู้ใหญ่เร็วเกินไป แต่ควรให้อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารกและพัฒนาการของระบบย่อยอาหารของลูกค่ะ

อาหารที่เหมาะกับลูกวัย 0-6 เดือน คืออาหารเหลว

เนื่องจากระบบการย่อยของลูกวัยนี้ยังพัฒนาไม่เต็มที่ อีกทั้งฟันยังไม่ขึ้น จึงยังไม่สามารถเคี้ยวกลืนได้ ทำได้เพียงดูดกลืนเท่านั้น โดยเด็กมีพัฒนาการการดูดกลืนน้ำคร่ำตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เมื่อคลอดออกมาเด็กจะสามารถดูดกลืนนมแม่ได้ตามสัญชาตญาณ ทันทีที่มีอะไรมาสัมผัสมุมปาก เด็กก็จะงับ และดูดกลืนทันที ธรรมชาติจึงสร้างน้ำนมแม่มาเพื่อเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย

 

อาหารที่เหมาะกับลูกวัย 6-8 เดือน คืออาหารเหลว – กึ่งเหลว

ลูกวัย 6-8 เดือนยังคงทานนมเป็นอาหารหลัก แต่สามารถเริ่มอาหารเสริม ได้แล้วเพราะเด็กวัยนี้กล้ามเนื้อช่องปากของลูกเริ่มพัฒนา เหงือกเพิ่งเริ่มแข็งแรง เริ่มเม้มอาหารกึ่งเหลวได้เล็กน้อย อาหารเสริมสำหรับเด็กวัยนี้ควรเป็นอาหารเหลวและละเอียด อาจเป็นน้ำซุป น้ำผลไม้ กล้วยบด หรือข้าวต้มบดละเอียด หรืออาหารปั่น โดยในช่วง 6-7 เดือนควรเริ่มอาหารเสริมเพียง 1 มื้อก่อน

อาหารที่เหมาะกับลูกวัย 8-10 เดือน คืออาหารกึ่งเหลว

นมยังคงเป็นอาหารหลักสำหรับลูกวัยนี้ แต่คุณแม่ควรเพิ่มอาหารเสริมเป็น 2 มื้อ เนื่องจากกล้ามเนื้อเหงือกของลูกเริ่มแข็งแรงขึ้น ฟันเริ่มโผล่ ทำให้การบดเคี้ยวอาหารทำได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามฟันของลูกน้อยยังไม่แข็งแรงพอที่จะฉีกอาหารหรือบดเคี้ยวอาหารให้ละเอียดได้ คุณแม่ยังคงต้องให้อาหารที่ค่อนข้างละเอียดกับลูกน้อย โดยใส่เนื้อสัตว์สับละเอียดเพิ่มเข้าไป และยังคงต้องใช้น้ำซุปช่วยในการกลืนของลูกไปพร้อมกัน นอกจากนี้คุณแม่อาจทำฟักทองต้มหรือแครอทต้มเป็นชิ้นนิ่ม ๆ ให้ลูกหยิบกิน เพื่อกระตุ้นพัฒนาการการเคี้ยวกลืนและหยิบจับไปในตัว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อาหารที่เหมาะกับลูกวัย 10-12 เดือน คืออาหารสับหยาบ

ได้เวลาเปลี่ยนจากอาหารกึ่งเหลวมาเป็นการสับหยาบๆ เพื่อให้ลูกได้ฝึกเคี้ยวกลืน เนื่องจากเด็กวัย 10-12 เดือนมีพัฒนการของลิ้นที่ดีขึ้นมาก สามารถใช้ลิ้นตวัดอาหารเข้าปากได้หลายทิศทาง กรามและขากรรไกรขยับไปมาเพื่อบดอาหารได้คล่องขึ้น จึงเริ่มกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันฟันก็ขึ้นหลายซี่แล้ว จึงสามารถฉีกกัดได้ดีขึ้น อาหารเสริมสำหรับเด็กวัยนี้ ได้แก่ ข้าวบดหยาบ หรือข้าวต้มแห้งๆ เนื้อสัตว์สับละเอียด อาหารที่ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ ผักผลไม้หลากหลายชนิดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ลูกหยิบจับกินได้มากขึ้น โดยเพิ่มจำนวนมื้ออาหารเป็น 3 มื้อ และลดมื้อนมให้เหลือเพียง 2-3 มื้อต่อวัน

 

อาหารสำหรับลูกวัย 1 ขวบขึ้นไป คืออาหารเหมือนผู้ใหญ่

ลูกน้อยสามารถรับประทานอาหารเหมือนผู้ใหญ่ได้แล้ว โดยเลือกที่เคี้ยวง่าย นิ่ม และชิ้นไม่ใหญ่เกินไป เด็กในวัยนี้ควรรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก วันละ 3 มื้อ และดื่มนมเป็นอาหารเสริม หากยังให้นมแม่อยู่ ควรให้นมแม่ต่อไปจนถึง 2 ปี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

นอกจากการเลือกอาหารที่เหมาะสมให้ลูกในแต่ละวัยแล้ว อาหารเสริมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อลูกน้อยด้วยค่ะ ยิ่งหากเลือกรับประทานตามวัย ยิ่งดีต่อตัวลูกอีกด้วย สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับอาหารเสริมเพิ่มเติมได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ

 

ความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับอาหารเสริมสำหรับเด็ก และโอกาสที่ลูกอาจพลาดไป อาหารเสริมเด็ก

เมื่อเราพูดถึงอาหารเสริมสำหรับเด็กที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด คุณแม่หลาย ๆ คนอาจรู้สึกยี้ ไม่ชอบ ไม่พอใจ เพราะเชื่อว่าอาหารเสริมของเด็กไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม ทั้งขนม, อาหารอ่อนกึ่งสำเร็จรูป, ฯลฯ นั้นไม่มีประโยชน์ ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง 100% และทำให้เข้าใจจุดประสงค์ของการเสริมอาหารให้ลูกผิดไป ในวันนี้เราจึงอยากสรุปความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับ อาหารเสริมเด็ก หลาย ๆ อย่าง เพื่อให้คุณแม่เข้าใจถึงหน้าที่ของอาหารเสริม และสามารถนำไปปรับใช้เพื่อประโยชน์ของลูกน้อยค่ะ

  • อาหารเสริมไม่มีประโยชน์ต่อเด็ก ความเชื่อนี้ผิด สารอาหารต่าง ๆ ในอาหารเสริมสำหรับเด็กนั้นก็มีประโยชน์ต่อร่างกายของเด็ก และยังมีส่วนช่วยในเรื่องพัฒนาการของเด็กอีกด้วย หากเด็กได้รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ และเสริมด้วยอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กก็จะช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วนขึ้นไปอีกค่ะ
  • อาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กจะทำให้ลูกกินข้าวยาก ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะ หนึ่งในเหตุผลของการคิดค้นอาหารเสริมของเด็กนั้น ก็คือ เป็นตัวช่วยให้เด็กที่มีปัญหาในการรับประทานอาหาร หรือเด็กกินยาก ได้ลองเปิดใจและได้รับประทานอาหารที่หลากหลายขึ้น ที่สำคัญ คุณแม่สามารถเพิ่มเติมความหลากหลายของอาหารเสริมสำหรับเด็กได้ ด้วยการเติมอาหารชนิดอื่น ๆ เข้าไปในมื้อเสริมนั้น เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่มากขึ้น และได้ปรับนิสัยการกินให้หลากหลายกว่าเดิม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประโยชน์ของอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กที่คุณแม่อาจยังไม่เคยรู้

เมื่อเราปรับความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อที่ผิดของอาหารเสริมสำหรับเด็กแล้ว สิ่งที่อยากนำเสนอในลำดับต่อไปก็คือ ประโยชน์ของอาหารเสริมที่คุณแม่อาจยังไม่เคยรู้มาก่อน เช่น

  • ช่วยในเรื่องพัฒนาการของเด็ก อาหารเสริมสำหรับเด็กนั้นมีส่วนช่วยในเรื่องพัฒนาการ ตามรูปแบบของอาหาร เช่น อาหารเสริมแบบกึ่งเหลวนั้น จะช่วยเด็กในการหัดกลืน อาหารเสริมแบบเนื้อหยาบก็จะช่วยในเรื่องของการหัดเคี้ยว ส่วนอาหารเสริมที่เป็นขนมชิ้นเล็ก ก็ช่วยในเรื่องกล้ามเนื้อมัดเล็กและการหยิบจับของลูกได้
  • อาหารเสริมช่วยให้เด็กไม่ขาดสารอาหาร อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่า อาหารเสริมของเด็กอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะธาตุเหล็ก สารอาหารหลักที่สำคัญต่อเด็กควรได้รับอย่างเพียงพอ มีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของเด็ก, การพัฒนาสมอง และระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นการได้รับอาหารเสริมตามวัย จะช่วยป้องกันในเรื่องนี้ได้

 

สารอาหารสำคัญในอาหารเสริม ที่ช่วยในเรื่องพัฒนาการของลูกได้

 

เนื่องจากอาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็กในท้องตลาดนั้นก็มีจำนวนไม่น้อย เพื่อให้คุณแม่สามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก คุณแม่ควรเลือกซื้ออาหารเสริมเด็กที่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยในเรื่องพัฒนาการของลูกดังต่อไปนี้

  • ธาตุเหล็ก สารอาหารที่มีส่วนสำคัญทั้งในเรื่องของการเจริญเติบโตและพัฒนาการ, การพัฒนาสมอง และระบบภูมิคุ้มกันของลูก
  • DHA สารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาสมองและสายตาของเด็ก เป็นโครงสร้างสำคัญของเซลล์สมองและจอประสาทตา
  • วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการของลูก เช่นวิตามินบี ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมอง วิตามินซีช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา เป็นต้น
  • จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ของร่างกายนั้น มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่ายของลูก เมื่อระบบขับถ่ายดี ก็จะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ทำให้ลูกมีพัฒนาการด้านอื่น ๆ ที่ไม่สะดุด

จะเห็นได้ว่า อาหารเสริมนั้นมีประโยชน์ต่อลูกมากมายเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณแม่ต้องใส่ใจในการเลือกและทำอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ มีสารอาหารที่จำเป็นต่อลูกอย่างครบถ้วน เพื่อประโยชน์ที่ลูกจะได้รับอย่างเต็มที่ และเพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยของเขาค่ะ

ที่มา pantip.com, https://babycarefirst.blogspot.com/


The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

อาหารเสริมก่อนนอนช่วยให้ลูกหลับดีขึ้นจริงหรือ

สูตรอาหารเสริมเด็ก 6 เดือนขึ้นไป

อาหารเสริมตามวัยสำหรับเด็ก มีประโยชน์มากกว่าที่คิด

10 ผลไม้หลังคลอด คุณแม่หลังคลอด กินผลไม้ชนิดไหนถึงจะดีต่อร่างกาย

10 อาหารเพิ่มน้ำหนักลูก ลูกกินอะไรถึงจะน้ำหนักขึ้นอย่างปลอดภัย