อยู่กันแบบพ่อแม่ลูก แบบนี้เรียกว่า “ครอบครัว” แล้วรู้จักคำว่า “โครงสร้างครอบครัว” แล้วหรือยัง มาปูพื้นฐานสำคัญให้ลูกเข้าใจความหมาย และความสำคัญของสถาบันครอบครัว สถาบันแรกที่เป็นจุดเลี้ยงดู และเป็นตัวกำหนดทิศทางของเด็กทุกคนว่าจะโตไปเป็นแบบไหน
โครงสร้างครอบครัว หมายถึงอะไร ?
ครอบครัว คือ การรวมตัวกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ถือเป็นกลุ่มองค์กรที่มีขนาดเล็กที่สุดในสังคม โดยบุคคลในครอบครัวนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันทางกฎหมาย และสายเลือด ไม่ว่าจะเป็นการสมรส หรือการรับรองบุตรบุญธรรมเอง ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวได้เช่นกัน ดังนั้นพื้นฐานของสมาชิกในครอบครัวจึงได้แก่ พ่อ, แม่, ลูก และญาติพี่น้อง เป็นต้น โดยปกติแล้วบุคคลในครอบครัวเหล่านี้จะอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัย คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังมีหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข โดยทั่วไปโครงสร้างครอบครัว จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ครอบครัวเดี่ยว หรือครอบครัวเฉพาะ : เป็นรูปแบบครอบครัวที่สามารถพบได้มากที่สุด ครอบครัวเดี่ยวจะประกอบไปด้วย 3 ส่วน นั่นคือ พ่อ, แม่ และบุตรทั้งจากที่ให้กำเนิด และมาจากการรับรองบุตรบุญธรรม ครอบครัวเดี่ยว หรือครอบครัวเฉพาะนี้ จะไม่รวมญาติคนอื่น ๆ เข้ามา หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่า “พ่อ แม่ ลูก” นั่นเอง
- ครอบครัวขยาย หรือครอบครัวเสริม : เป็นรูปแบบครอบครัวที่ถูกพัฒนามาจากครอบครัวเดี่ยว คือ มีการเข้ามาอยู่ร่วมกันของเครือญาติ จึงไม่ได้มีแค่พ่อแม่ลูก แต่ยังมีปู่, ย่า, ตา, ยาย, ลุง, ป้า, น้า, อา หรือหลานด้วย เป็นต้น โดยไม่จำเป็นต้องมีทั้งหมดตามที่กล่าวมา แต่ถ้าหากมีพ่อแม่ลูก และญาติคนใดคนหนึ่งก็ถือว่าเป็นครอบครัวขยายได้แล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง : การแบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกันในครอบครัว แบ่งอย่างไร พ่อแม่ลูกมีหน้าที่อะไรบ้าง
วิดีโอจาก : ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
ลักษณะครอบครัวของคนไทย
โดยปกติแล้วสำหรับในสังคมไทยในอดีตคนจำนวนมากทำงานเกี่ยวกับเกษตรกรเป็นหลัก ทำให้ต้องกำลังคนในการทำงาน ครอบครัวของไทยในอดีตจึงเป็นแบบขยาย คือ มีมากกว่าพ่อแม่ลูก เพื่อช่วยกันทำงาน แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป อาชีพมีความหลากหลายมากขึ้น มีทางเลือกมากขึ้น ทำให้เกิดการกระจัดกระจายออกไปหางาน จนเกิดเป็นครอบครัวเดี่ยวอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้นแทน อย่างไรก็ตามวิถีชีวิตของครอบครัวเดี่ยวก็ยังมีข้อจำกัดมากกว่าที่คิด
เนื่องด้วยปัจจุบันหน้าที่การทำงานเป็นของทั้งพ่อและแม่ ทำให้หากมีบุตร หลายครอบครัวจึงต้องจ้างคนมาดูแลลูกของตน แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงเรื่องการเอาใจใส่ของลูกจ้าง ที่อาจจะไม่มากเท่ากับคนในครอบครัว ไม่นานครอบครัวเดี่ยวจึงกลายเป็นครอบครัวขยาย มีการรวมตัวกันของญาติบางส่วนเข้ามาอยู่อาศัย เพื่อช่วยเหลือ และคอยดูแลซึ่งกันและกัน อย่างสนิทใจมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้คนไทยยังนิยมอยู่คนเดียวจากรายงานการวิจัยสัมพันธภาพในครอบครัว สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน พบว่าปัจจุบันจำนวนคนโสดมีมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2551
บทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัว
การอยู่ร่วมกันของบุคคลในครอบครัว หากอิงจากครอบครัวเดี่ยวที่พบได้มาก พ่อแม่ และลูก จะต้องมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกัน ในมุมของพ่อแม่ หรือผู้ปกครองจะให้น้ำหนักไปที่การช่วยเหลือเลี้ยงดูลูก และพาครอบครัวให้อยู่รอดจากการทำงานหารายได้ วางแผนการใช้เงิน ส่วนลูกนั้นจะเน้นที่การตั้งใจเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ และช่วยเหลือพ่อแม่ สรุปได้ ดังนี้
หน้าที่ของผู้ปกครอง
ทั้งบิดา และมารดา ต่างมีหน้าที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เมื่อก่อนอาจเป็นภาพจำที่คนเป็นพ่อต้องเป็นช้างเท้าหน้า ออกทำงานหาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัว ส่วนมาจะมีหน้าที่เลี้ยงลูก ทำงานบ้านให้ แต่ปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้เป็นแม่เองก็นิยมออกไปประกอบอาชีพด้วย เรื่องงานบ้าน และการเลี้ยงลูก กลายมาเป็นสิ่งที่รับผิดชอบร่วมกันแทน สรุปได้ว่าผู้ปกครองมีหน้าที่ ดังนี้
- ทำงานเพื่อหารายได้มาใช้จ่ายสำหรับครอบครัว โดยงานที่เลือกทำต้องเป็นงานที่สุจริต
- มีความซื่อสัตย์ต่อคู่รักของตนเอง ไม่นอกใจซึ่งกันและกัน
- วางแผนการใช้เงินให้ดี ทั้งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน, เงินเก็บ หรือค่าเล่าเรียนนของบุตรหลาน
- ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อบุตรหลาน เพื่อให้บุตรหลานจดจำสิ่งดี ๆ และนำไปทำต่อกับผู้อื่น
- คอยอบรมเลี้ยงดูสั่งสอนบุตรหลานของตนเองแต่ในสิ่งที่ถูกต้อง และตักเตือนให้เข้าใจในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
- ดูแลความปลอดภัย และให้ความสำคัญกับโอกาสในการศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน
หน้าที่ของบุตรหลาน
สำหรับผู้เป็นลูกนั้น มีหน้าที่หลัก ๆ ในการตั้งใจเรียน และเชื่อฟังสิ่งดี ๆ จากพ่อแม่ เพราะในช่วงนี้ เป็นช่วงที่ยังไม่สามารถทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ด้วยตนเอง หน้าที่ในการพัฒนาทั้งความรู้ ความสามารถรวมถึงคอยช่วยเหลือพ่อแม่ จึงเป็นสิ่งพื้นฐานที่ลูกทุกคนควรทำไปก่อน จนกว่าจะเติบใหญ่ในอนาคต ดังนี้
- คอยช่วยเหลืองานบ้าน หรือสิ่งอื่น ๆ ที่สามารถแบ่งเบาภาระได้
- ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ใช้โอกาสที่พ่อแม่ลำบากหามาให้อย่างคุ้มค่า
- เชื่อฟังคำสั่งสอน การอบรม และนำสิ่งดี ๆ มาปฏิบัติตาม
- หาแนวทางในการพัฒนาตนเอง วางแผนสำหรับอนาคตเพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ
ความสำคัญของโครงสร้างครอบครัว
แม้จะบอกว่าเป็นกลุ่มที่เล็กที่สุดในสังคม แต่กลับเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุด เนื่องจากทุกคนไม่ว่าจะเป็นสังคมไหน ๆ จะเป็นแวดวงผู้ประกอบการ แวดวงของคนทำงานรัฐ และเอกชน คนทั่วไปที่เดินตามท้องถนน ล้วนแล้วแต่ถูกหล่อหลอม และเรียนรู้ได้เป็นครั้งแรกจากครอบครัวทั้งนั้น ครอบครัวจึงเหมือนกับคนกลุ่มแรกที่คอยรดน้ำต้นกล้าที่เปรียบเหมือนลูกน้อย ที่จะโตไปเป็นอนาคตของประเทศนั่นเอง นอกจากนี้หากไม่มีสถาบันครอบครัว ก็ทำให้องค์กรอื่น ๆ ไม่สามารถพัฒนาได้ เพราะขาดกำลังคน หรือขาดคนที่มีคุณภาพ
ครอบครัวเป็นสิ่งแรกที่ลูกได้พบเจอ ก่อนจะได้ไปมีสังคมในโรงเรียน ลูกจะเป็นอย่างไร นิสัยแบบไหน แสดงออกอย่างไรต่อหน้าผู้อื่น หากสังเกตได้เด่นชัด ก็คือภาพสะท้อนของครอบครัวนั้น ๆ ได้เช่นกัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ตั้งกฎครอบครัว อย่างไรให้ลูกเชื่อฟัง คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ไม่ควรพลาด!
หัวหน้าครอบครัวที่ดี แบบนี้เลย! 9 สัญญาณที่บอกว่า คุณโชคดีแค่ไหนที่ได้สามีคนนี้
สอนลูกยังไงให้เข้าใจ ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องมีแค่พ่อ แม่ และลูก
ที่มา : thaihealth, 2
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!