หูฟัง สำหรับเด็ก (Kids Headphones) เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหากต้องเลี้ยงลูกในยุคดิจิทัล เนื่องจากเด็กทุกคนสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนได้ ทุกครั้งที่ทำการเลือกซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จึงควรมองหาระบบ Volume Limiting เพื่อจำกัดระดับเสียง รวมถึงให้ความสำคัญกับวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้เด็กสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
หูฟัง สำหรับเด็กคืออะไร
เป็นหูฟังที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับให้เด็กนำไปใช้งาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยจะมีความพิเศษกว่าหูฟังทั่วไปที่ระบบการควบคุมระดับเสียงที่เรียกว่า ” Volume Limiting” ซึ่งเหมาะกับเด็ก และด้วยระบบจำกัดเสียงนี้เองทำให้เด็กไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายด้านการได้ยิน นอกจากนี้หูฟังสำหรับเด็กยังเหมาะกับผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่ที่ต้องการถนอมการได้ยินของตนเองด้วย นอกเหนือจากการควบคุมระดับเสียง หูฟังสำหรับเด็กยังถูกออกแบบด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อการใช้งานไม่แข็งจนเกินไป เพื่อให้เด็กสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก
หูฟัง มีความสำคัญกับเด็กอย่างไร ทำไมต้องเลือกให้ดี
การเลือกใช้งานหูฟังสำหรับเด็กนั้นอาจเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่อาจมองข้าม แต่ในยุคปัจจุบันเด็กมักจะใช้เวลาส่วนหนึ่งไปกับการเล่นสมาร์ตโฟน, คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงการเรียนออนไลน์ ทำให้การใช้หูฟังมีความจำเป็นในชีวิตประจำวันมากขึ้นกว่าในอดีตมาก หากไม่เลือกใช้หูฟังที่ได้มาตรฐาน หรือมีเสียงที่ดังมากจนเกินไป จะทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ในอนาคต นำมาซึ่งปัญหาด้านการได้ยิน และอาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียการได้ยินในที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ดูแลสุขภาพหู ของลูกน้อยของคุณอย่างไร ให้ถูกวิธี และถูกสุขอนามัย
หลักการเลือกหูฟังสำหรับเด็กที่ถูกต้อง
การเลือกหูฟังเพื่อให้เด็กใช้งานต้องโฟกัสทั้งประเภทของหูฟัง ระบบการจำกัดเสียงสูงสุด ความเหมาะสมของวัสดุที่ใช้ในการผลิต และตรวจสอบวิธีการใช้งานก่อนทุกครั้ง เป็นวิธีที่ควรทำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะเลือกซื้อให้เด็ก
ระดับเสียงที่พอดี
ระดับเสียงที่หูฟังทั่วไปสามารถปรับได้จะอยู่ที่ 115 dB. ซึ่งถือเป็นระดับเสียงที่อันตรายต่อเด็ก หูฟังสำหรับเด็กจึงจำกัดระดับเสียงไว้สูงสุดที่ 85 dB. อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นระดับเสียงที่ปลอดภัย แต่หูของเด็กหรือของทุกคนก็ไม่ควรใช้อุปกรณ์นานมากกว่า 8 ชั่วโมง สำหรับผู้ใหญ่หากต้องการฟังระดับเสียงที่มากกว่า 85 dB. จะสามารถฟังได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
หลีกเลี่ยงหูฟังประเภท In-ear
หูฟังมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ ที่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอายุ และสถานที่ เพื่อให้ได้รับความเหมาะสมภายใต้ความปลอดภัยตลอดการใช้งาน ได้แก่
- In-ear :ลักษณะหูฟังจะเป็นแบบทรงกลมมีจุกยาง ถูกผลิตออกมาหลายขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้ หรือสรีระของศีรษะในแต่ละบุคคล หูฟังประเภทนี้สามารถลดเสียงรบกวนภายนอกได้ ทำให้มีเสียงที่ดังจนได้รับความนิยมในการใช้งานยุคปัจจุบัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟังเพลงขณะออกกำลังกาย หรืออยู่ในที่สาธารณะ เป็นต้น
- Earbuds : มีลักษณะกลมและแบน มีน้ำหนักเบาง่ายต่อการพกพา ด้วยการออกแบบที่เน้นทำให้ใช้งานได้ง่าย จึงไม่สามารถลดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีเท่าที่ควร หูฟังชนิดนี้เหมาะกับการใช้ในพื้นที่มีเสียงน้อยเท่านั้น
- Headphone (Full-Size) : มี 2 ชนิดคือแบบ Over-ear ที่ครอบกับหูได้รับความนิยมอย่างมากด้วยคุณภาพของเสียง และความสามารถในการลดเสียงรบกวนที่ดี แต่พกพาได้ลำบากเพราะมีขนาดใหญ่ อีกแบบคือ On-Ear ที่แนบกับหู พกพาได้ง่ายกว่า และสามารถป้องกันเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง หูฟังชนิดนี้เหมาะกับการใช้งานตอนที่อยู่ในห้องมากกว่าใช้งานในที่สาธารณะ
สำหรับการเลือกใช้งานหูฟังสำหรับเด็กควรหลีกเลี่ยงหูฟังประเภท In-ear มากกว่าชนิดอื่น ๆ เนื่องจากลักษณะการใช้งานที่อาจเป็นอันตรายด้วยระดับเสียงที่สูง ไม่สามารถควบคุมระดับเสียงได้ จึงต้องมองหาระบบ Volume Limiting ที่ควบคุมระดับเสียงสูงสุดได้ก่อนทำการซื้อทุกครั้ง
เลือกหูฟังที่มีความทนทาน
เนื่องจากเด็กมีความซนอยู่ในตัวอยู่แล้ว ทำให้การใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ จะทำให้มีโอกาสชำรุดได้ง่ายกว่าวัยทั่วไป รวมถึงการใช้งานหูฟังด้วยเช่นกัน การเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตจึงควรคำนึงถึงความคงทน และมีความเหมาะสมภายใต้การทำงานที่มีประสิทธิภาพ เช่น ฟองน้ำรองหูต้องนุ่มไม่แข็งจนเกินไป เป็นต้น หรือเมื่อต้องซื้อควรปรึกษาความเหมาะสมกับเด็กจากทางร้านค้าก่อนตัดสินใจซื้อหูฟัง นอกจากนี้เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เสียหายสามารถพูดคุยกับลูกเพื่อทำความเข้าใจ และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
ตรวจสอบวิธีการใช้งานก่อนให้เด็กใช้
หลังจากเลือกหูฟังที่เหมาะกับเด็กได้แล้ว เมื่อจะนำมาใช้งาน ไม่ควรให้ลูกนำไปใช้ในทันที ผู้ปกครองควรตรวจสอบ และเรียนรู้วิธีการใช้งานอย่างละเอียด รวมถึงข้อควรรู้และข้อระวังในการใช้งาน ที่ต้องศึกษาก่อนทุกครั้งหลังทำการซื้อ เนื่องจากการใช้งานอุปกรณ์ในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ อาจมีความแตกต่างกัน และมีวิธีที่ใช้เก็บรักษาไม่เหมือนกัน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวของเด็ก และยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
เกิดอะไรขึ้นเมื่อเลือกหูฟังผิดวิธี
การปล่อยให้ลูกใช้งานหูฟังที่ไม่เหมาะสมในระยะเวลาสะสม จะส่งผลต่อการได้ยินของเด็กโดยตรง โดยจะมีสัญญาณเตือน ดังนี้
- เด็กไม่สามารถรับฟังเสียงการสนทนา หรือเสียงสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ในระดับปกติ
- เกิดอาการหูอื้อ หรือสูญเสียการได้ยินไปชั่วคราว
- มีเสียงดังรบกวนในหูโดยไม่สามารถหาที่มาของเสียงได้
หากไม่หยุดการใช้งานหูฟังที่ไม่เหมาะสม และใช้อย่างต่อเนื่องแม้มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น จะส่งผลให้ระบบการได้ยินของเด็กเสียหายรุนแรง หรือถาวรได้ นอกจากต้องระวังเสียงจากหูฟังแล้ว เสียงบางประเภทที่ดังมาก ๆ ก็อันตรายต่อเด็กเช่นกัน เช่น เสียงยิงปืน หรือเสียงลูกโป่ง เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คิดดีๆ ก่อนให้ลูกเล่นและเสี่ยงหูมีปัญหา เพราะเสียงลูกโป่งแตกดังกว่าเสียงปืน
จะช่วยลูกป้องกันอันตรายขณะใช้ หูฟัง ได้อย่างไร
- ติดตามดูแลอาการของเด็ก : คอยสอบถามลักษณะอาการ หรือความรู้สึกหลังจากลูกใช้งานหูฟังเพื่อให้ได้รู้ว่ามีอาการผิดปกติที่เป็นสัญญาณของปัญหาการได้ยินบ้างหรือไม่ เนื่องจากเด็กบางคนอาจไม่กล้าบอก หรืออาจไม่รู้ว่าอาการผิดปกติเกิดจากการใช้หูฟัง
- จัดการระยะเวลาการเล่นอย่างเหมาะสม : ให้เด็กเล่นสมาร์ตโฟน หรือคอมพิวเตอร์ในเวลา และระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดโอกาสเกิดความผิดปกติทางด้านการได้ยิน หรือลดโอกาสเกิดความผิดปกติด้านการมองเห็นไปได้ในตัวเช่นกัน
- ตรวจความสมบูรณ์ของหูฟัง : ตรวจเช็กอุปกรณ์ทั้งก่อน และหลังลูกใช้งาน เนื่องจากอุปกรณ์อาจมีการชำรุด ส่งผลให้มีโอกาสเกิดอันตรายกับหูของเด็กได้
- เสียงในสิ่งแวดล้อมก็สำคัญ : นอกจากจะคอยดูแลระยะเวลาการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วต้องให้ความสำคัญกับระดับเสียงภายในสิ่งแวดล้อมด้วย พยายามไม่ให้เกิดเสียงที่ดังมากเกินไปในครั้งเดียว เพราะเสี่ยงทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินแบบเฉียบพลันได้ หรือระวังไม่ให้มีเสียงดังในเวลานาน ซึ่งมีอันตรายไม่ต่างจากการใช้หูฟังเป็นเวลานาน
หากเลือกหูฟังสำหรับเด็กอย่างเหมาะสม และให้ใช้งานอย่างระมัดระวังแล้ว คุณพ่อคุณแม่คงจะสามารถมั่นใจเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่งแล้วว่าเด็กจะปลอดภัยจากการใช้งานหูฟังได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มาข้อมูล :thainakarin mercular thaiware bumrungrad
บทความที่น่าสนใจ
100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 85 ฟังเสียงหัวใจลูกกันเถอะ
เพลงกล่อมลูกในท้อง ให้ลูกในท้องหลับสบาย คลอดออกมาเป็นเด็กฉลาด
แม่ท้องฟังเพลง ดีต่อลูกในท้องยังไง เปิดเพลงแบบไหนให้ลูกฟังแล้วฉลาด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!