X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • พัฒนาการลูก
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • การศึกษา
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ลูกดีดตัวออกจากสังคม มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ติดอยู่ในใจไปจนถึงโต!!

บทความ 3 นาที
ลูกดีดตัวออกจากสังคม มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ติดอยู่ในใจไปจนถึงโต!!ลูกดีดตัวออกจากสังคม มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ติดอยู่ในใจไปจนถึงโต!!

นอกจากพ่อแม่จะเป็นต้นฉบับที่ลูกจะมองตามได้อย่างชัดเจนที่สุด พ่อแม่ยังเป็นบุคคลที่มีอิทธิต่อลูกมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความภูมิใจในตนเอง ฝึกให้ลูกเป็นคนที่เห็นคุณค่าของตนเอง

การมองเห็นตัวเองหรือ self esteem นั้นเป็นเรื่องที่พูดกันถึงอย่างเข้มข้นในยุคปัจจุบัน เด็กบางคนมีปัญหาดีดตัวออกจากสังคมเป็นเพราะ มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง โรคนี้เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ระยะเวลาสั้น ๆ แต่มันจะติดอยู่ในใจไปจนถึงโต

ปลดล็อคโรค มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง สร้างเซลฟ์ให้ลูกมีเซลฟ์เอสตีมได้อย่างไร

การรับรู้ถึงคุณค่าของตัวเองนั้นได้มาจากพัฒนาการ 2 ส่วนใหญ่ๆ ทางหนึ่งมาจากคำชมเชย พ่อแม่กล่าวชมเชยเมื่อลูกมีความพยายามที่จะตั้งใจทำสิ่งนั้นจนสำเร็จ หรือมีคนมาบอกกล่าวความดีผลสำเร็จ กับอีกทางคือการประเมินตัวเองว่าเป็นคนอย่างไร เด็กได้รับการฝึกให้ช่วยเหลือตนเองได้ ถ้าผลลัพธ์ต่อตัวเองออกมาทางบวก ลูกก็จะมีความรู้สึกที่ดีต่อตัวเอง มีความเคารพและมองเห็นคุณค่าของตัวเอง เกิดความภาคภูมิใจและมั่นใจ แต่ถ้าความรู้สึกเป็นไปในทางลบ ก็จะทำให้รู้สึกได้ว่าตัวเองจะไม่เป็นที่รักของพ่อแม่ ไม่เก่ง ไม่มีคุณค่า แย่มากในสายตาคนอื่น ฯลฯ ดังนั้นการสร้างให้ลูกมี self esteem หรือมองเห็นคุณค่าในตัวเองตั้งแต่ในตอนเล็ก ๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ได้กล่าวไว้ว่า “ก่อนที่จะมีเซลฟ์เอสตีม เด็ก ๆ หรือคนทุกคนต้องมีเซลฟ์ (self) ก่อน ซึ่งหมายถึงการมีตัวตนในทางจิตวิทยาว่าเราเป็นใคร ทำอะไรอยู่ และการควบคุมตัวตนให้อยู่ในร่องรอยได้จะเกิดเซลฟ์เอสตีมดี คือความภูมิใจในความสามารถที่ตัวเองทำได้ ซึ่งการสร้างตัวตนของเด็กจะเกิดขึ้นตั้งแรกเกิดจนกระทั่งอายุ 3 ขวบ พอหลัง 3 ขวบลูกจะเริ่มสร้างตัวตนที่ชัดเจนพอสมควร และจะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งการได้มองเห็นหรือมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง” พ่อแม่จึงมีผลกับ self esteem ของลูกเป็นอย่างยิ่ง

มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

สิ่งสำคัญคือการที่พ่อแม่ต้องตระหนักถึง “ตัวตน” ของตัวเองด้วยว่า พ่อแม่คือคนที่ใกล้ชิดลูกมากและเป็นคนที่ลูกรักมากที่สุด สิ่งที่ลูกพยายามแสดงให้เห็นก็เพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ ดังนั้นการเลี้ยงดูของพ่อแม่ในช่วง 3-4 ขวบปีแรกจึงมีอิทธิพลต่อการรับรู้ถึงความมีคุณค่าในตนเองของลูก ประการต่อมาคือ ทัศนคติของพ่อแม่ที่มีต่อตัวลูก พ่อแม่ต้องมีความเชื่อว่าลูกสามารถทำได้ เป็นเด็กดีและน่ารัก ซึ่งจะทำให้เด็กยอมรับในตัวตนที่พ่อแม่สร้างความมั่นใจให้ หลาย ๆ สิ่งที่พ่อแม่คิดและเชื่อจะกลายเป็นสิ่งที่ลูกเชื่อด้วย คล้ายกับกระจกสะท้อน เช่น ถ้าพ่อแม่คอยบอกว่าลูกเป็นเด็กดื้อ ซน หรือเกียจคร้าน ลูกก็จะซึมซับในตัวตนตรงนั้น แม้จะเป็นการพูดแบบไม่มีเจตนา แต่เมื่อถูกตอกย้ำบ่อย ๆ ก็จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองเป็นอย่างที่พ่อแม่ว่า ดังนั้นคำพูดที่เกิดจากพ่อแม่จึงมีผลที่มาสะท้อนต่อลูกมาก

สร้างวิธีคิดให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเอง อ่านหน้าถัดไปนะคะ >>

3 วิธีเพิ่มความคิดที่เป็นบวกช่วยลูกให้เห็นคุณค่าของตนเอง

มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

#ไม่ใช้คำพูดเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น

เด็กทุกคนนั้นมีความแตกต่างกันทั้งพรสวรรค์ หน้าตา อารมณ์ ความสามารถที่แตกต่างกัน ในฐานะที่เป็นพ่อแม่การใช้เปรียบเทียบลูกกับคนอื่นนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือลูกไม่กล้าแสดงออก ไม่มีความมั่นใจในตนเอง  ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่ควรทำคือการมองหาศักยภาพในตัวตนของลูก มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความชอบ สิ่งที่ลูกถนัด ให้ลูกเรียนรู้ว่าคุณค่าของตัวเองนั้นมาจากความสามารถ ความคิดดี ๆ ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์หน้าตา หากลูกพยายามทำสิ่งนั้นได้ดี การใช้คำพูดชมเชยในบางจังหวะก็จะทำให้ลูกได้รับกำลังใจ ยิ่งได้รับพลังบวกจากพ่อแม่มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ลูกรู้สึกมีค่าในตัวเองมากขึ้น

#2 แสดงให้เห็นว่าลูกคือคนสำคัญ

หาโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ กับลูก เช่น ไปงานกีฬาสี หรือการแสดงบนเวที เพื่อทำให้ลูกมองเห็นว่าเขาคือคนสำคัญสำหรับพ่อแม่ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อลูก คอยร่วมหัวเราะเวลาลูกทำตลก ชื่นชมกับผลงาน ให้เวลาเพื่อที่จะได้สร้างความสุขและความสนุกไปร่วมกัน

มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

#3 ยอมรับทั้งข้อดีและข้อเสียของลูก

ไม่มีใครทำอะไรได้เพอร์เฟค แม้แต่ตัวพ่อแม่เอง ลูกก็เช่นกัน ถ้าพ่อแม่ยอมยอมรับลูกในข้อดีและไม่ดีของลูกได้ ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองได้อย่างที่เป็นมองเห็นคุณค่าของตัวเองไปพร้อมๆ กับข้อไม่ดีที่ควรแก้ไขปรับปรุง การยอมรับตัวตนของลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างถูกทาง และเมื่อยอมรับลูกได้แล้วก็ช่วยกันคิดหาทางที่เหมาะสมกับลูกด้วย เช่น ลูกไม่ชอบเรียนวิชานี้สิ่งที่แก้ไขได้ไม่ใช่แค่เรียนกวดวิชา แต่พ่อแม่ร่วมด้วยช่วยกันในการหาทางทำให้รู้สึกว่าวิชาที่ลูกไม่ชอบนั้นสนุกและไม่ยากอย่างที่ลูกคิด เป็นต้น

#4 เปิดโอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจและแสดงความคิด

ลูกก็คือส่วนหนึ่งของครอบครัว ดังนั้นการตัดสินใจบางเรื่องโดยเฉพาะในเรื่องของตัวลูกเองบางอย่างพ่อแม่อาจหันมาถามความคิดเห็น แสดงความชอบหรือไม่ชอบ โอกาสให้ลูกได้ตัดสินใจเอง และสามารถโต้แย้งในเรื่อง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล หากพ่อแม่คอยสนใจและรับฟัง และคอยทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนความคิดที่ดีของลูก จะยิ่งทำให้ลูกเล็งเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น

การปลูกฝังพื้นฐานการเลี้ยงลูกดี ๆ นั้นควรเริ่มต้นทำมาก ๆ ในสามขวบปีแรก ซึ่งจะทำให้ลูกสร้างและมีตัวตนให้รู้สึกรักตัวเอง ดูแลตัวเอง ควบคุมตัวเอง มองเห็นคุณค่าและมีความมั่นใจ ซึ่งจะทำให้พัฒนาตัวตนต่อเนื่องไปในอนาคตต่อไป.


ที่มา :

www.si.mahidol.ac.th

www.breastfeedingthai.com

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

สอนลูกไว้ไม่เป็น โรคมารยาททางสังคมบกพร่อง แค่พูด "ขอโทษ"

เตือนพ่อแม่ระวังโรคใหม่ของเด็กไทย “โรคไม่รู้จักความลำบาก”!!

บทความจากพันธมิตร
เพราะการศึกษาลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพิ่มความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ด้วยประกันสะสมทรัพย์ Saving 20/10
เพราะการศึกษาลูกเป็นสิ่งสำคัญ เพิ่มความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ด้วยประกันสะสมทรัพย์ Saving 20/10
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ  ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
เผยเคล็ดลับการเรียนออนไลน์ที่จะทำให้ลูกตั้งใจเรียนมากขึ้น!
เผยเคล็ดลับการเรียนออนไลน์ที่จะทำให้ลูกตั้งใจเรียนมากขึ้น!

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • ลูกดีดตัวออกจากสังคม มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ติดอยู่ในใจไปจนถึงโต!!
แชร์ :
  • 5 พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำลายคุณค่าของลูก

    5 พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำลายคุณค่าของลูก

  • วีดีโอซึ้ง: รักแท้ที่มองไม่เห็นของแม่

    วีดีโอซึ้ง: รักแท้ที่มองไม่เห็นของแม่

app info
get app banner
  • 5 พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำลายคุณค่าของลูก

    5 พฤติกรรมที่พ่อแม่ไม่ควรทำลายคุณค่าของลูก

  • วีดีโอซึ้ง: รักแท้ที่มองไม่เห็นของแม่

    วีดีโอซึ้ง: รักแท้ที่มองไม่เห็นของแม่

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2022. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ