วิธีปราบพยศลูกตัวแสบใน 1 สัปดาห์ เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกในแต่ละวัน ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ปรับความคิด ทั้งพ่อแม่ลูก โดย 7 วันนี้ก็จะมีแนวคิดดีๆ เป็นแนวทางให้พ่อแม่ไว้จัดการกับลูก โดยเฉพาะการปรับวิธีคิดของพ่อแม่ ที่ต้องไม่จับจ้องแต่สิ่งผิดๆ ที่ลูกทำ เพราะยิ่งพ่อแม่แสดงออกมากเท่าไหร่ ลูกก็จะยิ่งต่อต้านมากขึ้นเท่านั้น แล้วทำอย่างไรถึงจะดี อยากรู้ตามไปอ่านกันได้เลย
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันแรก : ห้ามตอบโต้
สิ่งสำคัญในการแก้ไขนิสัยไม่ดีของลูก คือพ่อแม่เองต้องเหนือชั้นกว่าด้วยการใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวของลูก ไม่ตอบโต้เวลาที่ลูกทำสิ่งไม่ดี เพราะถ้าพ่อแม่มีปฏิกิริยาแม้แต่ในเรื่องที่ไม่ดี ลูกก็จะรู้สึกได้รับความสนใจจากพ่อแม่ แม้ว่าความสนใจนั้นจะเป็นด้านลบก็ตาม
วิธีที่เหมาะสมที่สุดเมื่อลูกประพฤติตัวไม่เหมาะสมคือ การไม่แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ เมื่อพ่อแม่นิ่งมากพอ ลูกก็จะอารมณ์ลดลง ถึงตอนนั้นค่อยสอนว่าพฤติกรรมนี้ไม่ดีอย่างไร ค่อยๆ พูดจา เมื่อต่างฝ่ายต่างอารมณ์เย็นลงแล้ว วิธีนี้คือการปรับนิสัยลูกจากภายใน
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันที่ 2 : คิดบวกอยู่เสมอ
การมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น แทนที่จะกลัวว่าลูกจะทำอะไรไม่ดี ก็ให้คิดถึงสิ่งดีๆ คาดหวังในเรื่องดีๆ เพราะการมองเรื่องร้ายๆ ก็เหมือนกับการเติมเชื้อไฟให้เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องพฤติกรรมของลูก
เวลาที่พ่อแม่คิดบวกจะช่วยให้เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น จากนั้นก็ให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ อย่าไปวิตกกังวลจนเกินเหตุ
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันที่ 3 : พ่อแม่คือต้นแบบของลูก
ลูกไม้มักหล่นไม่ไกลต้น ถ้าอยากให้ลูกมีพฤติกรรมที่น่ารัก พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีเสียก่อน การที่พ่อแม่แสดงออกอย่างมีวุฒิภาวะ เป็นต้นแบบของพฤติกรรมที่ดี ลูกก็จะซึมซับเรื่องดีๆ เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ที่อยากให้ลูกทำ โดยพ่อแม่ต้องแสดงพฤติกรรมที่ดีเป็นตัวอย่างเพื่อสอนลูกเสียก่อน แล้วจะประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในตัวลูก
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันที่ 4 : เข้าใจลูกก่อนตัดสินลูก
เด็กๆ จะแสดงออกถึงพฤติกรรมบางอย่างด้วยเหตุผลของตัวเด็กเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องมองให้ออกว่า อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกแสดงออกเช่นนั้น แล้วค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยพ่อแม่ต้องแสดงออกถึงความเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ลูกทำเสียก่อน แล้วค่อยลงโทษหรือกำหนดกฎระเบียบในภายหลัง
เมื่อลูกทำตัวไม่เหมาะสม พยายามให้ลูกแสดงความรู้สึกออกมา ถามลูกว่ารู้สึกอย่างไรอยู่ โกรธอยู่หรือเปล่า ไม่ชอบเรื่องอะไร คิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ ระหว่างนั้นก็อย่าปล่อยให้ลูกรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อต้องโดนลงโทษ แต่อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า พ่อแม่ยังรักลูกเหมือนเดิม แต่ต้องลงโทษเพราะลูกทำสิ่งที่ไม่ดี มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันที่ 5 : วิธีการปราบพยศลูก ต้องทำเหมือนเดิมห้ามเปลี่ยนวิธี
ไม่ว่าพ่อแม่ตัดสินใจอบรมสั่งสอนลูกด้วยวิธีไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเลย คือการทำสิ่งนั้นเหมือนเดิมห้ามเปลี่ยนวิธี จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอารมณ์ตัวเองอย่างดีและชัดเจนในเป้าหมายว่าคาดหวังให้ลูกเปลี่ยนไปอย่างไร
ช่วงการอบรมลูกให้มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น พ่อแม่ต้องสงบ ห้ามปรี๊ดแตก และอดทนให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งอดทนไหว อีกวันโมโหใส่ลูก นั่นไม่ดีแน่ๆ เพราะอย่างที่บอกไปว่า พ่อแม่คือต้นแบบของลูก ถ้าอยากให้ลูกเป็นเด็กดี ก็ต้องใช้ความอดทนผ่านพ้นช่วงการอบรมนี้ไปให้ได้
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันที่ 6 : เปลี่ยนกฎระเบียบบ้างก็ดี
ถ้าพฤติกรรมแย่ๆ ของลูก เกิดอย่างสม่ำเสมอ และเกิดจากเรื่องเดิมๆ ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนกฎระเบียบ ปรับนิดๆ หน่อยๆ เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น แทนที่จะปล่อยให้เรื่องปกติประจำวันมาก่อปัญหากวนใจ
อย่าปล่อยให้เรื่องเดิมๆ เกิดขึ้นในบ้าน ถ้าปัญหาที่เกิดมันเกิดจากเรื่องเดิมซ้ำๆ บางทีก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยน เช่น ลูกมักจะหงุดหงิดเรื่องระเบียบในบ้าน อย่างการกำหนดช่วงเวลาในการเล่นมือถือหรือแท็บเลต พ่อแม่ต้องลองปรับกฎ อาจจะขยายเวลาให้ลูกเล่นเพิ่มได้นิดหน่อย หรือกำหนดกฎเกณฑ์ขึ้นเสียใหม่ ลองเปลี่ยนช่วงเวลาที่เคยตกลงกันไว้ แล้วรอดูพฤติกรรมของลูกต่อไป
วิธีปราบพยศลูกตัวแสบวันที่ 7 : เริ่มชิลล์แล้วสรุปผล
วันที่ 7 วันสุดท้าย ที่พ่อแม่ต้องทบทวนว่าช่วงเวลาตลอด 1 สัปดาห์นั้นเป็นอย่างไรบ้าง ลองวิเคราะห์ดูว่าลูกและตัวคุณเองเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน หลังจากพบว่าสิ่งไหนสำเร็จและวิธีไหนไม่เวิร์ค พ่อแม่ก็ทำใจให้สบาย ถือว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อนซะ จากนั้นลองวิเคราะห์ดูว่าใน 1 สัปดาห์ที่่ผ่านมา วิธีไหนมีประสิทธิภาพที่สุด ทำแล้วเห็นผลชัดเจน ก็จดเอาไว้เพื่อใช้วิธีนั้นต่อไปในอนาคต
การจะปรับเปลี่ยนนิสัยลูกให้สำเร็จใน 1 สัปดาห์ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การปราบพยศลูกตัวแสบที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในหลายๆ ด้าน ก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้ในสัปดาห์เดียว ต้องค่อยๆ ใช้เวลาปรับเปลี่ยน อีกไม่นานลูกก็จะมีพฤติกรรมที่น่ารัก เพียงแต่พ่อแม่ห้ามท้อเด็ดขาด
ที่มา : sg.theasianparent.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูกขี้อาย เข้าสังคมไม่ได้ แม่ต้องปรับวิธีเลี้ยง
กลัวลูกโตไปเป็นเด็กขาดความมั่นใจ ทำไงดี
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!