โคคิวเทน (CoQ10) ป้องกันโรงหัวใจได้จริงหรือไม่? มีอยู่ในอาหารใดบ้าง?

โคคิวเทน (CoQ10) ดีต่อร่างกายของเราอย่างไร?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

โคคิวเทน หรือชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า โคเอนไซม์คิวเทน หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินผ่านหูบ้าง หรือหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน วันนี้เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับโคคิวเทนกันดีกว่าค่ะว่า โคคิวเทน มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไร และสามารถหาทานได้จากที่ไหนบ้าง

 

Coenzyme Q10 คืออะไร

โคเอนไซม์คิวเทน หรือ โคคิวเทน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายของมนุษย์เราสามารถผลิตเองได้ตามธรรมชาติ เซลล์ในร่างกายของเราจะได้โคคิวเทน เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยระดับของโคคิวเทนนั้นจะลดลงก็ต่อเมื่ออายุของเรามากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังพบว่าระดับของโคคิวเทนจะลดลงได้จากภาวะที่เปลี่ยนแปลงไปของร่างกาย อาทิ การเป็นโรคหัวใจ และผู้ที่ทานยาลดคอเลสเตอรอลที่เรียกว่า สแตติน (statins)

 

โคคิวเทน มีอยู่ในอาหารใดบ้าง?

นอกจากที่ร่างกายของเราจะสามารถสร้างโคคิวเทนได้แล้ว เรายังสามารถรับประทานอาหารที่มีโคคิวเทนได้ เพื่อเสริมความแข็งแรงของร่างกาย โดยสามารถหาได้จากอาหาร ดังต่อไปนี้

  • เครื่องในสัตว์ อาทิ หัวใจ ตับ และไต
  • เนื้อสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่
  • ปลาที่มีไขมัน ได้แก่ ปลาเทราท์ ปลาเฮอริ่ง ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน
  • ผัก เช่น ผักโขม กะหล่ำดอก และบร็อคโคลี่
  • ผลไม้ อาทิ ส้ม และสตรอวเบอร์รี่
  • พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล และถั่วลิสง เมล็ดงา และพิสตาชิโอ
  • น้ำมัน ได้แก่ น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันคาโนลา

บทความที่น่าสนใจ : อาหารว่างของทานเล่นแบบมังสวิรัติ ง่ายๆรวดเร็วและดีต่อสุขภาพ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

โคคิวเทน เหมาะสำหรับใคร?

โคเอ็นไซม์คิวเท็น กินตอนไหน ? จากข้างต้นจะเห็นได้ว่าร่างกายของเรานั้นสามารถผลิตโคคิวเทนได้เองตามธรรมชาติ แต่จะมีเฉพาะบางกลุ่มคนที่จะมีการผลิตของโคคิวเทนลดลง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นมีดังต่อไปนี้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. ผู้ที่ใช้ยาสติน

สแตตินเป็นกลุ่มยาที่ใช้ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด หรือไตรกลีเซอไรด์ในระดับสูง เพื่อช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ ถึงแม้ว่ายาชนิดนี้จะช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคหัวใจ แต่ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน อาทิ การบาดเจ็บของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง และตับเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังส่งผลถึงการสร้างกรดเมลาโลนิก ที่เป็นตัวช่วยสร้างโคคิวเทนอีกด้วย

 

2. ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ

ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ อาทิ ภาวะหัวใจล้มเหลวและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ อาจได้รับประโยชน์อย่างมาในการรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโคคิวเทน โดยการวิจัยผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวพบว่า การทานโคคิวเทน 100 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาติดต่อกัน 12 สัปดาห์ จะช่วยให้เลือดไหลเวียนจากหัวใจไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โคคิวเทน ยังมีประสิทธิภาพในการลดความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นอาการเจ็บหน้าอกที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจของคุณไม่ได้รับออกซิเจนมากเพียงพอนั่นเอง

 

3. ผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรน

โคคิวเทนสามารถช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ หากรับประทานร่วมกับสารอื่น ๆ อาทิ แมกนีเซียม และไรโบฟลาวิน นอกจากนี้ยังพบว่ายังสามารถบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ด้วยการลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และการผลิตอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดไมเกรนได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่น่าสนใจ : ลูกเป็นไมเกรน สาเหตุจากอะไร ไมเกรนในเด็ก อันตรายไหม วิธีป้องกันไมเกรนในเด็ก

 

 

4. ผู้สูงอายุ

เนื่องจากปริมาณโคคิวเทนที่ร่างกายของเราสามารถผลิตได้จะลดลงก็ต่อเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น อาหารเสริมโคคิวเทนนั้นสามารถช่วยเพิ่มระดับโคคิวเทน และช่วยปรับให้ร่างกายของคุณสมดุลมากยิ่งขึ้น โดยผู้สูงอายุที่มีระดับโคคิวเทนในเลือดสูง มีแนวโน้มที่จะมีการเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีกว่า และมีความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ต่ำกว่า ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้สูงอายุนั่นเอง

 

5. ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน

ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน และความผิดปกติของไมโตคอนเดรียมีความเชื่อมโยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน เพราะว่าผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนั้นมีระดับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันต่ำ และยาต้านเบาหวานบางชนิดนั้นมีส่วนผสมที่ทำให้โคคิวเทนนั้นมีปริมาณที่ลดลง ทั้งนี้การทานอาหารเสริมโคคิวเทนจะส่งผลทำให้ร่างกายของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานนั้นสามารถควบคุมปริมาณระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

6. คู่สมรสที่มีภาวะมีบุตรยาก

การเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะมีบุตรยาก โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อคุณภาพของตัวอสุจิและไข่ แต่การวิจับพบว่าโคคิวเทนสามารถช่วยลดความเครียด และปรับให้ร่างกายของเราเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้อย่างปกติ

 

7. ผู้ที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย

เนื่องจากโคคิวเทน มีคุณสมบัติเกี่ยวกับการให้พลังงานแก่ร่างกายด้วย จึงทำให้โคคิวเทนกลายเป็นอาหารเสริมยอดนิยมในหมู่นักกีฬา และผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพทางกายภาพ โดยการทานโคคิวเทนจะช่วยลดการอักเสบที่ได้รับจากการออกกำลังกายอย่างหนัก และช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้ไวขึ้น

บทความที่น่าสนใจ : การออกกำลังกายสามารถช่วยโรคไบโพลาร์ ได้อย่างไร?

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ใครสามารถทานอาหารเสริมโคคิวเทนได้บ้าง?

สำหรับการทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโคคิวเทนนั้นมีการแนะนำว่าให้ทานในช่วงเย็น หรือกลางคืน เพราะร่างกายของเราจะได้นำสารอาหารที่ได้มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ยังสามารถทานร่วมกับอาหารที่มีไขมันได้อีกด้วย เนื่องจากโคคิวเทน สามารถละลายในไขมันได้ ทั้งนี้การทานอาหารเสริมโคคิวเทนก็ยังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับอายุและคุณสมบัติของผู้รับประทานดังต่อไปนี้

 

  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ควรทานอาหารเสริมโคคิวเทน เว้นแต่จะได้รับจากคำสั่งของแพทย์เพื่อเสริมสร้างเซลล์ในร่างกาย
  • บุคคลที่อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถทานโคคิวเทนเป็นอาหารเสริมได้ตั้งแต่ 30 ถึง 200 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับผู้ที่ได้เข้ารับการรักษากับแพทย์ในโรคต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้โคคิวเทนอาจมีปริมาณที่แตกต่างกันออกไป

 

 

 

ผลข้างเคียงของการทานอาหารเสริมที่มีโคคิวเทน?

ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่เป็นโรคหัวใจที่กำลังรับประทานอาหารเสริม หรืออาหารที่มีจำนวนของโคคิวเทนมากจนเกินไปอาจส่งผลกระทบ หรือผลข้างเคียงแก่ร่างกายได้ ดังต่อไปนี้

  • ปวดท้องบริเวณด้านบน
  • เบื่ออาหาร
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • ปวดหัว และเวียนศีรษะ
  • นอนไม่หลับ
  • เมื่อยล้า
  • อาการคัน หรือเกิดผื่นที่ผิวหนัง
  • หงุดหงิด หรือกระสับกระส่าย

นอกจากนี้การที่ทานอาหารเสริมโคคิวเทนระหว่างตั้งครรภ์ หรือในช่วงของการให้นมบุตรนั้นยังไม่ได้มีผลการวิจัยออกมาว่าปลอดภัย ดังนั้นหากคุณกำลังอยู่ในช่วงดังกล่าว กรุณางด เว้น และหยุดรับประทานไปก่อน

 

อย่างไรก็ตามการทานโคคิวเทนเป็นอาหารเสริมนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องระวังในเรื่องของผลข้างเคียงที่จะตามมาด้วย ทั้งนี้ก่อนที่จะรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโคคิวเทนควรที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ส่งผลลบมากกว่าผลดีต่อร่างกายของเรานะคะ

 

บทความที่น่าสนใจ :

โอเมก้า-3 คืออะไร สำคัญกับแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์อย่างไร

ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม

วิตามินและอาหารเสริม 7 ประการ ที่ดีที่สุด เพื่อต่อสู้กับความเครียด

ร่วมแชร์ความเห็นหรือประสบการณ์ เกี่ยวกับโคเอนไซม์คิวเทน ได้ที่นี่!

โคเอนไซม์คิวเทน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง จะหาทานได้จากไหนบ้างคะ

 

ที่มา : mountsinai, healthline, healthline

บทความโดย

Siriluck Chanakit