ใคร ๆ ก็รู้ว่าสลักเป็นเมนูดีมีประโยชน์ ทานแล้วดีต่อสุขภาพแน่ ๆ แต่เคยสงสัยไหมว่า คนท้องกินสลัดบ่อย ๆ ได้ไหม ของดีมีคุณค่าแบบนี้ ทานบ่อย ๆ ใครจะไปคิดว่าอาจเกิดผลเสียกับร่างกายได้มากกว่าจะเกิดประโยชน์ และน้ำสลัดหลายสูตรที่มีพลังงานมากจนน่ากลัวอีกด้วย งานนี้คุณแม่คนไหนชอบทานคงต้องระวังเอาไว้แล้ว
คนท้องกินสลัดบ่อย ๆ ได้ไหม
สลัดเป็นเมนูสำหรับคนรักสุขภาพที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีประโยชน์ แต่ด้วยข้อจำกัดทางรสชาติ และวัตถุดิบอาจทำให้หลายคนไม่ชอบได้ง่าย ๆ เช่นกัน อย่างไรก็ตามคนท้องหลายคนอาจกำลังมองหาเมนูอาหารที่ทำให้ตนเองได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ มีโภชนาการสูง ส่งผลดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ด้วยความเข้าใจว่าทานผักผลไม้ ก็คงต้องดีต่อร่างกาย จึงเลือกทานสลัดไปเลย บางคนอาจชอบทานอยู่แล้ว จึงทานบ่อยมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการทำแบบนี้เราไม่แนะนำ เพราะอาจส่งผลเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ
สลัดดีต่อแม่ท้องจริง แต่ต้องอยู่ในหลักการทานแต่พอดี เน้นอาหารให้ครบ 5 หมู่ แน่นอนว่าการทานสลัดเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องที่ดีต่อคุณแม่ และทารกแน่นอน แต่การทานมากเกินไป จะทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารจากเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน จึงควรแบ่งมื้ออาหารให้สมดุลมีครบทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้นั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินข้าวเหนียวมะม่วงได้ไหม กินเพลิน ๆ ระวังเสี่ยงเบาหวาน !
สลัดทานบ่อย ๆ ได้พลังงานสูงเช่นกัน
สาเหตุหลัก ๆ ที่เราไม่อยากแนะนำให้ทานสลัดบ่อย ๆ นอกจากจะเป็นเหตุผลด้านอาหารที่ครบ 5 หมู่ ที่คนท้องควรได้รับแล้ว ยังเป็นเพราะบางวัตถุดิบของสลัดมีพลังงานที่สูงด้วยนั่นเอง แต่ไม่ใช่ผักแน่นอน เพราะที่เรากำลังพูดถึงก็คือ “น้ำสลัด” โดยเฉพาะน้ำสลัดมายองเนส ที่มีคอเลสเตอรอลสูงจากไข่แดงดิบ ซึ่งการกินน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของไข่ดิบ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของคนท้องแน่นอน
นอกจากนี้ยังน้ำสลัดบางสูตรที่เราเห็นกันตามท้องตลาด ก็ยังมีหลายสูตรที่ให้พลังงานมากกว่าที่คุณแม่คิดไว้ โดยเฉพาะน้ำสลัดที่มีลักษณะเข้มข้น ตัวอย่างเช่น น้ำสลัดครีม 100 กิโลแคลอรี / ช้อนชา, ซีซาร์สลัด 80 กิโลแคลอรี / ช้อนชา หรือน้ำสลัดเทาซันไอแลนด์ 80 กิโลแคลอรี / ช้อนชา เป็นต้น
เลือกน้ำสลัดแบบไหนให้ปลอดภัยต่อคนท้อง ?
การเลือกน้ำสลัดเป็นสิ่งสำคัญต่อคนท้องอย่างมาก จากที่กล่าวไปแล้วว่าอาจมีปริมาณของพลังงานมากกว่าที่คิด โดยปกติแล้วให้เลือกน้ำสลัดสูตรใสไปเลย อะไรที่มาแบบเข้ม ๆ ข้น ๆ มักจะพบแคลอรีมาด้วยเสมอ โดยน้ำสลัดที่เราแนะนำมีทั้งหมด 3 สูตร ดังนี้
- น้ำสลัดฝรั่งเศส : ทำมาจากน้ำมันมะกอก, เกลือ, น้ำส้มสายชู, น้ำเชื่อม และมัสตาร์ด มีปริมาณไขมันต่ำมาก
- น้ำสลัดงา-โชยุ : มีส่วนผสมของซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น, งาคั่ว, น้ำมันงา, น้ำมันพืช, น้ำเชื่อม และเกลือ
- น้ำสลัดอิตาเลียน : เป็นน้ำสลัดที่ทำมาจากน้ำมันมะกอก, กระเทียม, หัวหอม, น้ำส้มสายชู และน้ำมะนาว
แต่ถ้าหากคุณแม่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ด้วย ยิ่งต้องเลี่ยงสูตรที่เข้มข้น ต้องเลือกสูตรใส เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับปริมาณของพลังงานมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังต้องระวังความหวานจากการปรุงน้ำสลัด กรณีที่ทำทานเองด้วย
มีอาการแพ้ท้องต้องเลือกน้ำสลัดให้ดี
หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้องอยู่ แน่นอนว่าคงไม่ถูกกับน้ำสลัดที่มีกลิ่นเฉพาะ หรือมีกลิ่นแรง เช่น บัลซามิก, แอนโชวี่ หรือบลูชีส เป็นต้น เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้มีกลิ่นของตัววัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ และมีกลิ่นสัมผัสแรง อาจพบเจอได้ในน้ำสลัด แม่ท้องจึงต้องระวังให้ดี นอกจากนี้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทุกคนต้องพึงคำนึงเสมอว่า น้ำสลัดไม่ว่าสูตรไหนก็ทำมาจากน้ำมัน หรือมีน้ำมันเป็นส่วนผสมอยู่ปริมาณมากน้อยแล้วแต่ละสูตร จึงไม่ควรราดน้ำสลัดลงบนผักที่ทานมาก ควรราดแต่พอดี เนื่องจากร่างกายจะใช้เวลาในการย่อยน้ำมันนาน และยังส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนตามมาได้ด้วยนั่นเอง
ผักสดดิบกับผักสุกแบบไหนดีกว่ากัน ?
สลัดมีส่วนผสมหลักกว่า 90 % คือผักแน่นอน หลายคนอาจทำทานเอง เพราะเป็นเมนูที่สามารถทำได้ง่ายอยู่แล้ว จึงเน้นใช้ผักสดแบบดิบ ๆ อันไหนทานสดได้ก็สดไปเลย ไปต้องไปผ่านความร้อนใด ๆ จริง ๆ แล้วข้อดี และข้อเสียนั้นมีความแตกต่างกันในแต่ละแบบ ซึ่งคนท้องก็สามารถทานได้ทั้ง 2 แบบ อยู่ที่ว่าชอบแบบไหน ดังนี้
- ผักสดดิบ : มีสารอาหารที่มากตามธรรมชาติ การไม่นำไปปรุงผ่านความร้อนใด ๆ จะยิ่งทำให้สารอาหารอยู่ครบถ้วน แต่ถ้าหากล้างไม่สะอาด ก็จะทำให้มีเชื้อโรคต่าง ๆ ตามธรรมชาติหลงเหลือจนเป็นอันตรายต่อคุณแม่ หรือทารกในครรภ์ได้เช่นกันหากทานมาก ๆ
- ผักปรุงสุก : หากนำผักไปปรุงให้สุกผ่านความร้อน แน่นอนว่าจะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ได้มาก เป็นวิธีการทำความสะอาดอาหารขั้นพื้นฐาน แต่การนำไปปรุงยิ่งมากเท่าไหร่สารอาหารอาจจะลดลงตามไปด้วยได้ ซึ่งแน่นอนว่าสารอาหารอาจมีน้อยกว่าผักสด แต่ก็ไม่ได้น้อยกว่ามาก และยังมีประโยชน์อยู่ดี
โดยสรุปแล้วการนำผักไปทำสลัดทานนั้น ไม่ว่าจะแบบผักสด ๆ หรือทำให้สุกก่อน ก็ทำได้ทั้งนั้น เพียงแต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ความปลอดภัยที่ต้องมาก่อน หากทานแบบสดก็ต้องล้างน้ำให้สะอาดที่สุด เพราะเราเองก็มองไม่เห็นเชื้อโรค หากจะนำไปผ่านความร้อน ก็ต้องใช้ความร้อนที่มากพอจะฆ่าเชื้อด้วยนั่นเอง
การเลือกน้ำสลัดสูตรที่เหมาะสมเมื่อต้องทานสลัด เป็นวิธีที่ป้องกันร่างกายของคนท้องได้ดี ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากมื้ออาหารมากขึ้น ประกอบกับเสริมความปลอดภัยของสลัดด้วยการล้างผัก หรือลวกผัก เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่มาจากธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ควรทำ และอย่าลืมจำกัดปริมาณของน้ำสลัดด้วยนะ เพื่อเลี่ยงน้ำมันที่ย่อยได้ยาก หากทำตามนี้ได้หมด คุณแม่ก็คงทานสลัดได้อย่างปลอดภัยแล้ว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินปีโป้ เยลลี่ได้ไหม ของหวานยอดฮิต แต่โทษยอดฮอต
คนท้องกินปอเปี๊ยะทอดได้ไหม กินเพลิน ๆ น้ำหนักพุ่งได้ง่าย ๆ เลยนะ !
คนท้องกินข้าวต้มมัดได้ไหม คนท้องห่อข้าวต้มมัดแล้วคลอดยากจริงหรือ ?
ที่มา : pregnancyfoodchecker, cal-cal