อาหารว่างอร่อย ๆ ระหว่างวันที่คนไทยทุกคนต้องรู้จัก ขนมจีบและซาลาเปา มีขายตามร้านทั่วไป ไปไหนก็เจอ แต่ก่อนทานต้องคิดก่อน คนท้องกินขนมจีบ ซาลาเปาได้ไหม ต้องระวังให้ดี เพราะถ้าเลือกร้านที่ไม่สะอาด อาจทำให้อาหารติดเชื้อโรค สาเหตุของอาหารเป็นพิษได้
คนท้องกินขนมจีบ ซาลาเปาได้ไหม ?
ขนมจีบเป็นอาหารคาวที่นิยมนำมาทานเป็นของว่างระหว่างวัน เนื่องจากสามารถบรรเทาความหิวได้ดี โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ จะต้องการทานอาหารมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ด้วยขนมจีบเป็นอาหารที่หาได้ง่ายตามท้องตลาด จึงอาจเกิดความกังวลว่าจะทานได้ไหม คำตอบคือสามารถทานได้ เพราะให้พลังงานไม่สูงเกินไป แต่ก็ต้องทานแต่พอดี และไม่ควรทานบ่อย ห้ามทานแทนอาหารมื้อหลัก และยังต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดด้วย เพราะร้านค้าที่ไม่ถูกสุขอนามัย อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษได้
ส่วนซาลาเปาเองก็เหมือนกับขนมจีบ คือ แม่ท้องสามารถทานได้ตามปกติ แต่อาจต้องระวังกว่าสักนิด โดยเฉพาะซาลาเปาตามร้านทั่วไปที่มีขนาดใหญ่ ทานเพียง 1 ลูกก็ทำให้อิ่มได้แล้ว ด้วยพลังงานที่พอประมาณต่อการทานเพียง 1 ลูก ทำให้แม่ท้องไม่ควรทานไปมากกว่านั้น และเช่นเดียวกัน ไม่ควรทานเป็นมื้อหลัก จำกัดปริมาณ และทานอาหารชนิดอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร และเกิดการติดเชื้อจนอาหารเป็นพิษ
เมื่อแม่ท้องรู้แล้วว่าทานขนมจีบ และซาลาเปาได้ไหม แต่อย่าเพิ่งรีบดีใจไป เพราะยังมีข้อมูลสำคัญบางอย่างที่แม่ท้องจำเป็นต้องรู้ก่อน โดยเราจะไล่เลียงไปทีละข้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินปลาทูได้ไหม หาทานง่ายตามตลาด ต้องเลือกอย่างไร ?
ประโยชน์ของขนมจีบ
สำหรับขนมจีบถือเป็นของว่างที่ดีสำหรับคนท้อง ถือว่าเป็นของคาวที่สามารถทานได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะทำให้เสียสุขภาพ หากรู้จักการทานแต่พอดี จะทำให้ได้รับประโยชน์หลายอย่าง สำหรับข้อดีที่ได้จากการทานขนมจีบ มีดังนี้
- ขนมจีบหมู 10 ลูก ให้พลังงาน 207 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารชนิดอื่น ๆ เช่น ธาตุเหล็ก 8 %, โปรตีน 9 กรัม, แคลเซียม 2 % และวิตามินบี 2 ประมาณ 1 %
- เป็นของว่างที่ถือว่ามีพลังงานแคลอรีไม่มาก หากเทียบกับของว่างประเภทเดียวกัน ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับแม่ท้องที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- เป็นเมนูอาหารที่สามารถปรับวัตถุดิบส่วนผสมที่ใช้ในการทำได้ หากทำเอง สามารถเพิ่มผักชนิดต่าง ๆ เพิ่มเข้าไป เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากขึ้น
สิ่งที่แม่ท้องต้องระวังในขนมจีบ
ในการทานขนมจีบแต่ละครั้ง ต้องระวัง “โรคติดเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella Infection)” ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่สามารถพบได้โดยทั่วไป จากการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมแทบจะทุกชนิดทั้งมือของพ่อค้าแม่ค้า, อุปกรณ์การทำอาหาร, ภาชนะที่จัดวาง หากไม่ได้ทำความสะอาดให้ดี ก็สามารถทำให้เชื้อร้ายนี้ติดบนขนมจีบได้ นอกจากนี้การนำขนมจีบออกมาวางทิ้งไว้หลังจากปรุงเสร็จในอุณหภูมิห้องประมาณ 2 ชั่วโมงก็ทำให้มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนแล้ว การเก็บรักษาขนมจีบให้ปลอดภัยควรเก็บไว้ในตู้เย็นหรือเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสเท่านั้น
สถาบันอาหารเคยสุ่มตรวจสอบขนมจีบตามร้านในไทยแต่ยังไม่พบเชื้อชนิดนี้ อย่างไรก็ตามด้วยความง่ายในการปนเปื้อนแม่ท้องที่ต้องให้ความสำคัญกับร่างกายก็ต้องระวังอยู่ดี เพราะหากรับเชื้อซาลโมเนลลาเข้าสู่ร่างกายจะทำให้อาหารเป็นพิษ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน, มีไข้, ปวดท้อง, ท้องเสีย, ปวดหัว และอ่อนเพลีย โดยอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากการทานอาหารไปแล้วภายใน 48 ชั่วโมง
ประโยชน์ของซาลาเปา
ด้วยซาลาเปาเป็นอาหารที่มีไส้หลากหลายแบบ สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ โดยโภชนาการ และสารอาหารในซาลาเปานี้เอง ก็ขึ้นอยู่กับไส้ที่แม่ท้องเลือกทาน จะมากจะน้อยก็อยู่ที่ตัวของคุณแม่เลือกเอง อิงจากไส้ที่เห็นได้ทั่วไป ภาพรวมมีดังนี้
- ซาลาเปาไส้หมูสับ และไส้หมูแดง : มีส่วนผสมของหอมกระเทียม และพริกไทยดำ ที่มีประโยชน์หลายอย่าง เช่นกระเทียมช่วยทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด สามารถช่วยแก้ปัญหาเส้นเลือดอุดตันได้
- ซาลาเปาไส้ครีม : การใช้ส่วนผสมประเภทนม เช่น นมข้น นมจืด รวมถึงและไข่ไก่สด ที่มีสารอาหารหลายชนิด ได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน D, วิตามิน B1, และวิตามิน B12 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียมด้วย
- ซาลาเปาไส้สังขยาใบเตย : ใบเตยสดมีสารคลอโรฟิลล์ ที่สามารถช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้สดชื่น และมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจด้วย
- ไส้ถั่วดำ : ถั่วดำมีแร่ธาตุอาหารสำคัญช่วยบำรุงเลือด สามารถขับสารพิษได้ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก รวมไปถึงช่วยบำรุงเส้นผมได้ด้วย
- ซาลาเปาไส้เผือก : เผือกไม่ได้มีเพียงคาร์โบไฮเดรต แต่ยังมีวิตามินต่าง ๆ และโปรตีน รวมถึงแร่ธาตุ เผือกยังขึ้นชื่อเรื่องช่วยป้องกันฟันผุด้วย
- ไส้ผักรวม : ขึ้นอยู่กับว่าไส้ผักรวมสูตรแต่ละร้านจะนำผักอะไรมาใช้บ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น อิงตามผักที่ใช้ทั่วไปในซาลาเปา เช่น ถั่วพูมีโปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส หรือเห็ดลดช่วยลดอัตราการเติบโตของ เซลล์มะเร็ง และยังช่วยล้างพิษที่สะสมในตับได้ เป็นต้น
สิ่งที่แม่ท้องต้องระวังในซาลาเปา
การทานซาลาเปาก็มีความเสี่ยงไม่ต่างจากขนมจีบ เพราะมี “เชื้อบาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus Cereus)” เป็นเชื้อที่สามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด สำหรับซาลาเปาไส้ที่ถูกระบุว่า มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนมากที่สุด คือ ไส้ครีม หากแม่ท้องคนไหนชอบไส้นี้ อาจต้องเลี่ยงไปก่อนเพื่อความปลอดภัย เพราะจากการสุ่มตรวจของสถาบันอาหารจากยี่ห้อซาลาเปา 5 ยี่ห้อ พบการปนเปื้อน 1 ยี่ห้อ
หากแม่ท้องรับเชื้อบาซิลลัส ซีเรียส เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีอาการคล้ายกับโรคติดเชื้อซาลโมเนลลาในขนมจีบ คือ ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ, ปวดท้อง, ถ่ายอุจจาระเหลว รวมถึงอาจมีอาการคลื่นไส้ด้วย เป็นต้น
ถึงแม้ทั้งซาลาเปา และขนมจีบ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคตามที่เราได้กล่าวไป แต่แม่ท้องก็สามารถป้องกันตนเองได้ด้วยการเลือกร้านค้าที่ให้ความสำคัญกับความสะอาด และเก็บรักษาอาหารได้เป็นอย่างดี จะสามารถช่วยลดโอกาสในการพบเจอกับอาหารที่ปนเปื้อนได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินชีสเค้กได้ไหม ? หอมนุ่ม กลมกล่อม แต่ต้องเลือกให้ดี
คนท้องกินหนังไก่ทอดได้ไหม เค็มมัน ราคาถูก แต่อันตรายแสนแพง
คนท้องกินแคบหมูได้ไหม กรอบมัน เคี้ยวเพลิน แต่ไม่ปลอดภัย ?
ที่มา : thairath, matichonacademy
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!