คนท้องกินละมุด ได้ไหม ประโยชน์ของละมุดดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร

คนท้องกินละมุด ได้ไหม ผลไม้นานาชนิดมักสร้างข้อสงสัยต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ว่าสามารถรับประทานได้หรือไม่ ซึ่งละมุดอาจเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยนิยมในคนทั่วไปที่รักสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้ว คนท้องกินละมุด ได้ค่ะ และรู้หรือไม่ว่า ผลไม้หวาน ๆ ชนิดนี้ กลับมีประโยชน์และสารอาหารอย่างมากต่อคนท้องอีกด้วย

คนท้องกินละมุด ได้ไหม มาไขข้อข้องใจกัน

ผลไม้ไทย ๆ รสชาติหวานหอมอย่างละมุด เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อิเล็กโทรไลต์ วิตามิน A คาร์โบไฮเดรต และพลังงาน อีกทั้งการที่คนท้องกินละมุดยังช่วยให้อาการรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนแพ้อาหารนั้นดีขึ้น เนื่องจากละมุดจะช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน ทำให้คุณแม่สามารถกินได้ตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์ แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะน้ำตาลอาจทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์เกิดภาวะเบาหวานแทรกซ้อนได้

คนท้องกินละมุด ได้ประโยชน์ดังนี้

อย่างที่ทราบกันว่าละมุดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง จึงให้พลังงานสูง ทั้งเหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์และคนที่เพิ่งคลอดใหม่ ๆ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องให้นมบุตร เพราะการให้นมลูกต้องใช้พลังงาน เกิดการเผาผลาญแคลอรี่อย่างมาก ทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานไปมากพอสมควร การรับประทานละมุดจึงทำให้ชื่นใจ แถมยังเสริมสร้างพลังให้คุณแม่มีความสดชื่น มาดูกันดีกว่าค่ะว่า ละมุดผลกลม ๆ รี ๆ มีประโยชน์อะไรบ้าง

บทความที่เกี่ยวข้อง : ผักผลไม้วิตามินซีสูง ป้องกันหวัดลูก ดีต่อสุขภาพคนท้อง สร้างเนื้อเยื่อและกระดูกทารกในครรภ์

วิดีโอจาก : จินตนาการความรู้

1. มีวิตามินซีสูง

คนท้องกินละมุด จะได้รับวิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและดูดซึมธาตุเหล็ก ป้องกันโรคหวัด อีกทั้งมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน ถ้าตอนตั้งครรภ์ขาดวิตามินซี อาจทำให้มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อขณะคลอด หรือคลอดก่อนกำหนดซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษได้

2. ละมุดอุดมไปด้วยไฟเบอร์

ละมุดเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงมาก สามารถช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์หายห่วงเรื่องการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ แต่ทั้งนี้เพื่อป้องกันการได้รับน้ำตาลมากเกินไป คุณแม่อาจรับประทานผลไม้อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ลูกพรุน แอปเปิลเขียว ก็มีกากใยสูงเช่นกัน ต้องรับประทานผลไม้ให้หลากหลายนะคะ

3. สร้างความสดชื่นภายใน

การรับประทานผลไม้ส่วนใหญ่จะให้ความสดชื่น แต่ประโยชน์ก็แตกต่างกัน ยิ่งผลไม้ที่มีน้ำเยอะ เนื้อนิ่มยิ่งมีน้ำตาลสูง อย่างละมุด ในเนื้อสุกกำลังดีจะให้รสชาติหอมหวาน กินง่าย สร้างความสดชื่นให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ ดังนั้นคุณแม่ควรปอกเปลือกใส่ตู้เย็นไว้ อย่าลืมคว้านเมล็ดออกด้วยนะคะ

4. ละมุดอุดมไปด้วยวิตามินบี 2 และ 6

วิตามินบีรวมหลากชนิดอย่าง วิตามินบี 2 และ 6อย่างวิตามินบี 2 ช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน ทำให้ร่างกายเติบโตและพัฒนาอย่างเหมาะสม รวมถึงบำรุงระบบประสาท ผิวหนัง และดวงตา ปกป้องเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ยังรวมไปถึงวิตามินบี 6 ที่ทำหน้าที่สังเคราะห์และเผาผลาญกรดอะมิโน สลายไกลโคเจนในกล้ามเนื้อและการสังเคราะห์กลูโคสจากกรดอะมิโนในกล้ามเนื้อ ช่วยให้การทำงานของระบบประสาท เช่น ซีโรโทนิน (Serotonin) ดีขึ้น นอนหลับสบาย

5. มีธาตุโพแทสเซียมเหมาะสำหรับคนตั้งครรภ์

ละมุดมีแร่ธาตุสำคัญอย่างโพแทสเซียมสูง เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และเพิ่งคลอดใหม่ ๆ ช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานปกติ รักษาความสมดุลของแร่ธาตุต่าง ๆ ในเลือดให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยป้องกันกรดไหลย้อนหรือกรดเกินในกระเพาะอาหารที่คุณแม่อาจจะเป็นบ่อยในช่วงตั้งครรภ์เดือนแรก ๆ  นอกจากนี้ละมุดยังช่วยลดความดันโลหิตสูงและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมอง เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ และโรคหลอดเลือดสมองอีกด้วย

6. ละมุดมีสารโฟเลต

โฟเลต เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งผู้หญิงที่เตรียมวางแผนมีลูกนั้นควรกินโฟเลตตั้งแต่เนิ่น ๆ  เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลตเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์และต่อเนื่องไปจนถึงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ร่างกายจะผลิต ดี เอ็น เอ และเซลล์ทั่วร่างกาย เช่น

• ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมอง
• ช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ ป้องกันความผิดปกติของท่อระบบประสาท
• ช่วยป้องกันและลดความผิดปกติของระบบสมอง และระบบประสาทของทารกในครรภ์
• ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด และความเสี่ยงของลูกน้อยมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์

ละมุด ปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 83 กิโลแคลอรี

นอกจากพลังงานจากอาหารหลักที่คุณแม่ควรได้รับในแต่ละวัน ควรทราบว่าในผลไม้ แต่ละชนิดนั้นให้พลังงานเท่าไร เช่น ละมุด 100 กรัมให้พลังงาน 83 กิโลแคลอรี เทียบได้เท่ากับละมุด 2-3 ผล และมีสารอาหารดังนี้

• คาร์โบไฮเดรต 19.96 กรัม
• เส้นใย 5.3 กรัม
• ไขมัน 1.1 กรัม
• โปรตีน 0.44 กรัม
• วิตามินบี 2, 3, 5, 6 และ 9  15%
• วิตามินซี 14.7 มิลลิกรัม 18%
• ธาตุแคลเซียม 21 มิลลิกรัม 2%
• ธาตุเหล็ก 0.8 มิลลิกรัม 6%
• ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
• ธาตุฟอสฟอรัส 12 มิลลิกรัม 2%
• ธาตุโพแทสเซียม 193 มิลลิกรัม 4%
• ธาตุโซเดียม 12 มิลลิกรัม 1%
• ธาตุสังกะสี 0.1 มิลลิกรัม 1%

เด็กเล็กสามารถกินละมุดได้มากน้อยแค่ไหน

อย่างที่ทราบข้อมูลโภชนาการ จะพบว่าละมุดเป็นผลไม้ที่มีรสหวานจัด ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ควรบริโภคเพียงเล็กน้อยหรือนานครั้ง ๆ ทั้งนี้ไม่ควรให้เด็กเล็กรับประทานละมุดโดยลำพัง เพราะอันตรายอยู่ที่ “เมล็ด” ค่ะ

เมล็ดละมุดมีสรรพคุณเป็นยาก็จริง แต่ด้วยความแข็งและแหลมคม อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก อีกทั้งผลและเมล็ดมีความลื่นและมีโอกาสจะหลุดเข้าไปในหลอดลมได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ฟันยังขึ้นไม่ครบ จึงเสี่ยงติดคอ หากต้องการให้เด็กรับประทานควรเอาเมล็ดออกก่อนพร้อมหั่นเป็นชิ้นเล็กพอคำที่เด็กจะสามารถเคี้ยวได้

วิธีทำน้ำละมุดเย็นชื่นใจสำหรับคุณแม่

ก่อนอื่นเรามาทราบเคล็ดลับการเลือกซื้อละมุดกันก่อน อย่างแรกให้คุณแม่ลองจับที่ผิวของผลเบา ๆ ถ้าผิวไม่นุ่มมาก จับแล้วไม่เละ ไม่บุ๋มลงไป และไม่แข็งมาก ก็เป็นอันว่าผลนั้นใช้ได้ นอกจากนี้ ผลต้องมีลักษณะภายนอกอย่างผิวที่ดูเกลี้ยงกลม มีสีน้ำตาลเป็นธรรมชาติและขั้วไม่หัก ก็จะได้ละมุดคุณภาพดี

ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ

• เนื้อละมุดปอกเปลือก คว้านเมล็ดเรียบร้อย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• น้ำแข็งป่น หรือน้ำแข็งหลอดเล็ก ๆ 1 แก้ว
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย (เตรียมไว้ค่อย ๆ เติม)

วิธีทำน้ำละมุดปั่น

• นำผลละมุดมาปอกเปลือกและคว้านเมล็ดออกเอาแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้น ๆ เตรียมใส่ถ้วยไว้
• นำเนื้อลุะมดใส่เครื่องปั่น จากนั้นเติมเกลือ น้ำแข็งและน้ำเปล่าลงไป
• อาจผสมกล้วยน้ำว้าไปสักครึ่งลูก หรือใบสะระแหน่ ลงไปเพิ่ม 2-3 ใบ
• ปั่นจนละเอียดให้เนื้อเข้ากัน ลองชิมดู ซึ่งคุณแม่สามารถเพิ่มผลไม้รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้ดีขึ้น
• นำน้ำละมุดปั่นรินใส่แก้ว ตกแต่งแก้วด้วยเนื้อและใบสะระแหน่ พร้อมดื่มเย็น ๆ ชื่นใจ

ข้อควรระวังในการรับประทานละมุด

อาหาร ผลไม้ ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม คนเราควรรับประทานทุกอย่างด้วยปริมาณที่พอดี และรู้จักเลือกอาหารนั้น ๆ อย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

1. ควรรับประทานผลสุกเท่านั้น

คุณแม่สังเกตไหมคะว่า ละมุดจะมีผลแข็ง ๆ ขั้วเขียว ๆ นั่นคือละมุดที่ยังไม่สุก จะให้รสชาติฝาดและเฝื่อนเกินไป เนื้อแข็งรับประทานยาก  การกินละมุดดิบส่งผลอันตรายต่อผิวหนังเนื่องจาก ผลดิบยังมียางที่มีความเข้มข้นสูง เสี่ยงที่จะเกิดแผลในปาก หรือมีอาการระคายเคืองในลำคอ

2. ละมุดเป็นผลไม้ที่มีระดับน้ำตาลสูง

ดังที่กล่าวไว้เสมอว่า ละมุดหรือผลไม้ชนิดที่มีน้ำ เนื้อนิ่มมักจะให้น้ำตาลสูง ซึ่งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือเบาหวาน ควรระมัดระวังการกินในปริมาณที่มากเกินไปด้วย

3. อาการแพ้ละมุด

แม้จะพบได้น้อยมาก หรือแทบจะไม่คนแพ้ละมุดเลย แต่คุณแม่ก็ควรระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้อาการแพ้กำเริบ อย่าลืมว่าการกินผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม ร่างกายก็จะได้รับสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน

แม่ท้องสามารถทานละมุดได้ก็จริง แต่ยังมีสิ่งที่ต้องระวัง ซึ่งต้องคอยสังเกต และปฏิบัติตามข้อแนะนำที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพของคุณแม่ และความปลอดภัยของทารกน้อยในครรภ์

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สะตอ ของอร่อยจากปักษ์ใต้ คนท้องกินได้ไหม มีประโยชน์และโทษยังไง

น้อยหน่า คนท้องกินได้ไหม ผลไม้หน้าฝน รสหวาน ดีต่อครรภ์ด้วยหรือเปล่า

ข้าวโพด คนท้องกินได้ไหม รสชาติหวานแสนอร่อย แต่จะดีต่อแม่และเด็กหรือไม่

ที่มาข้อมูล : mthai  , hellokhunmor