ไหน ๆ คุณแม่คนไหนบ้างเอ่ย ที่ตอนนี้กำลังตั้งท้อง หรือ ที่ผ่านมาขณะตั้งครรภ์มีกลิ่นตัว แล้วคุณแม่สงสัยกันไหมเอ่ยว่าทำไม คนท้องมีกลิ่นตัว กลิ่นตัวมาจากอะไรกัน สาเหตุ และวิธีระงับกลิ่นตัวสำหรับคนท้อง ทำยังไงไม่ให้ตัวเหม็น วันนี้ theAsianparent Thailand อยากนำข้อมูลดี ๆ มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่กัน
กลิ่นตัวเกิดจากอะไร?
กลิ่นตัว เกิดจากต่อมเหงื่อ Apocrine หลั่งของเหลวสีน้ำนมออกมา แต่เนื่องจากมีปริมาณน้อยมากจึงไม่ค่อยเห็นกัน เมื่อแบคทีเรียย่อยสลายของเหลวสีน้ำนมนี้จะทำให้เกิดกลิ่นตุ ๆ ส่วนเหงื่อใสปริมาณมากที่หลั่งออกมาจนทำให้มีรอยเปียกเสื้อที่ใต้วงแขนก็จะหลั่งโดยต่อมเหงื่อ Eccrine ช่วงแรกก็ไม่มีกลิ่น ต่อมาเมื่อมีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก็จะเกิดกลิ่นตัวขึ้นนั่นเองค่ะ
ที่สำคัญพบว่าคนอ้วน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน แม่ท้อง และแม่หลังคลอด จะมีกลิ่นตัวง่ายกว่าคนทั่วไปด้วยนะคะ แต่สำหรับคุณแม่ที่คลอดลูกไปแล้วอาจจะพิเศษกว่าคนอื่น ๆ หน่อย เพราะฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงสูงในช่วงตั้งครรภ์ ส่งผลให้กลิ่นตัวของแม่ท้องแรงขึ้นนั่นเป็นเพราะระบบการเผาผลาญของคุณแม่ทำงานมากกว่าคนปกตินั่นเอง อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดรักแร้ดำอีกด้วย โดยสาเหตุที่ทำให้คนท้องรักแร้ดำ แบ่งออกเป็น ดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย
ซึ่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดนั้นมี 2 ตัว ได้แก่ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนเอสโตรเจน รวมถึงฮอร์โมนภายในที่สร้างขึ้นจากรกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ร่างกายของคุณแม่เกิดเป็นรอยดำตามร่างกาย ไม่ได้ขึ้นแค่รักแร้เท่านั้น ได้แก่ คอ ข้อศอก เข่า และขาหนีบ บางคนอาจพบว่าไม่ได้มีแค่รอยดำ แต่ยังมีอาการคัน และมีกลิ่นร่วมด้วย
2. การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
อาจเกิดจากยีนที่ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้คุณแม่มีแนวโน้มที่จะเกิดรอยดำใต้รักแร้มากกว่าคนอื่น หากพบว่า พ่อแม่ พี่น้อง หรือเครือญาติมีอาการรักแร้ดำ
3. การโกนขนใต้รักแร้
การระคายเคืองจากการโกน หรือถอดขนใต้รักแร้ซ้ำ ๆ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ร่างกายกระตุ้นการผลิต Melanocyte เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งคุณแม่อาจเลือกใช้สบู่ หรือครีมโกนหนวดทาก่อน เพื่อช่วยป้องกันการระคายเคืองจากการโกนขนค่ะ หลังจากโกน หรือถอนก็ควรทาครีม เพื่อสร้างความชุ่มชื้นต่อผิวด้วย
4. ระดับน้ำตาลที่สูง
หากร่างกายของคุณแม่ได้รับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้อินซูลินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มการผลิตเม็ดสีผิวเพิ่มมากขึ้นได้เช่นกันค่ะ เช่นเดียวกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ก็นำไปสู่การทำให้รักแร้ดำได้
วิธีระงับกลิ่นกายคนท้อง
ถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์มีกลิ่นตัวแรงจริง ๆ อย่าเพิ่งเครียดไป สามารถแก้ได้ด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายวิธีเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมาช่วย รวมไปถึงปรับเรื่องอาหารการกินก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน
สารส้ม ถือเป็นไอเทมแรก ๆ ที่เรามักจะนึกถึงในเรื่องของการระงับกลิ่น สามารถใช้ในการกำจัดกลิ่นตัวได้ โดยเฉพาะกลิ่นตัวที่เกิดจากใต้วงแขน สามารถดับกลิ่นได้ 90% และนานถึง 24 ชั่วโมง วิธีใช้คือให้นำสารส้มมาถูรักแร้หลังอาบน้ำ ขณะที่รักแร้ยังเปียกอยู่ หากใช้เป็นประจำทุกวันก็จะสามารถระงับกลิ่นตัวได้
อย่างที่บอกไปแล้วว่า อาหารการกินย่อมส่งผลต่อกลิ่นตัวได้ด้วย แต่ในกรณีนี้ที่เราบอกว่าให้คุณแม่ตั้งครรภ์กินผักผลไม้เยอะ ๆ นั้น เป็นเพราะจะได้ช่วยลดอาการท้องผูก เพราะถ้าหากท้องผูก ระบบขับถ่ายผิดปกติ ก็จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีกลิ่นตัวได้
อีกหนึ่งไอเทมระงับกลิ่นกายที่เหล่าคุณแม่ตั้งครรภ์มักจะบอกต่อกัน นั่นก็คือ แป้งตราเต่าเหยียบโลก แป้งระงับกลิ่นกายที่สยบกลิ่นตัวได้ดีสุด ๆ กลิ่นเต่าหายจริง แต่เจ้าแป้งตัวนี้อาจจะต้องระมัดระวังในการใช้ เวลาที่จะต้องใส่เสื้อสีขาวนิดนึง ระวังแป้งไปโดนแล้วจะทำให้เสื้อเหลืองได้
โรลออน หรือพวกสเปรย์ดับกลิ่นกาย เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย และสามารถช่วยดับกลิ่นเต่าได้ รวมไปถึงมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถเลือกอันที่ตัวเองไม่แพ้ และใช้ทา หรือฉีดระงับกลิ่นกายได้เลย
-
ลดการทานเครื่องเทศ และอาหารมีกลิ่นแรง
เรากินอะไรเข้าไป ร่างกายเราก็มักจะขับกลิ่นเหล่านั้นออกมานั่นแหละ บางครั้งอาจมาในรูปแบบของกลิ่นตัวได้ด้วย ดังนั้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์คนไหนมีกลิ่นตัว ให้ลองสำรวจตัวเองว่ากินเครื่องเทศเยอะเกินไปหรือเปล่า ให้ลดพวกเครื่องเทศ ของมีกลิ่น เช่น กระเทียม, สะตอ, หัวหอม จะช่วยให้กลิ่นตัวลดลงได้เยอะเลย
การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เลือกสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่คับแน่นจนเกินไป เลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี อย่างเช่น ผ้าฝ้าย พยายามอย่าให้อับชื้น เพราะอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของกลิ่นตัวได้
ชุดชั้นใน เป็นสิ่งที่สัมผัสกับจุดซ่อนเร้นโดยตรง รวมไปถึงจุดอับ ข้อพับต่าง ๆ ดังนั้น จึงควรรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ ห้ามใส่ชุดชั้นในซ้ำโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้อับชื้นจนเกิดกลิ่นตัว ยิ่งไปกว่านั้น อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นได้ด้วย
การรักษาความสะอาด ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการลดกลิ่นตัวเลย ยิ่งประเทศไทยเราเป็นเมืองร้อนแบบนี้ พอร้อนแล้วก็เหงื่อออกง่าย ดังนั้น อย่าปล่อยให้หมักหมม อาบน้ำให้สะอาดทุกเช้าเย็น โดยเน้นบริเวณข้อพับ รักแร้ ขาหนีบ อาจใช้สบู่สูตรระงับแบคทีเรีย ลดกลิ่นกาย ช่วยด้วยก็ได้
จริง ๆ แล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรคิดมากจนเกิดเป็นความเครียดอยู่แล้ว เพราะสภาพจิตใจของตัวคุณแม่ จะส่งผลต้องลูกในท้องด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพอคุณแม่ตั้งครรภ์เครียดมาก ๆ ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีน ซึ่งนั่นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น ลองทำใจให้สบาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือให้อารมณ์ดี ลดความเครียดลง ก็จะสามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 สัญญาณความเครียด เช็กด่วน! มีอาการเหล่านี้ เครียดเกินไปแล้วหรือเปล่า!?
หลาย ๆ คนมักจะบอกว่าการขัดผิว ช่วยให้ผิวขาว เรียบเนียน เปล่งปลั่ง แต่การขัดผิวบ่อยจนเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ถ้าหากขัดผิวบ่อย ๆ บางครั้งอาจไปทำลายแบคทีเรียดีในผิวได้ ก็เลยส่งผลทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นมา ซึ่งการสครับผิวนั้นควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ ถ้าหากมากไปกว่านั้น จะไม่ส่งผลดีเท่าไหร่นัก
คนท้องมีกลิ่นตัว ถือเป็นปัญหาที่สามารถรักษาได้นะคะ ถ้าหากคุณแม่รู้สาเหตุว่ากลิ่นตัวนั้นเกิดจากอะไร และรู้วิธีรับมือกับกลิ่นตัวได้อย่างถูกต้อง คุณแม่ก็จะหมดกังวลเรื่องกลิ่นตัวไปได้เลยค่ะ หวังว่าวิธีรับมือกับเรื่องกลิ่นตัวที่เรานำมาฝากวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณแม่ทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
15 อาหารคนท้อง ไตรมาส 3 ท้องไตรมาสนี้กินอะไรให้ลูกแข็งแรงมาดูกัน!
ระวัง!! คนท้องเครียดอันตราย ระวังเสียลูกในท้องไป วิธีคลายเครียดคนท้อง
อาหารสำหรับคนท้อง อาหารบํารุงครรภ์ไตรมาส2 อาหารที่แม่ท้องควรกิน!
ที่มา : sanook
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!