9 ประโยชน์ของเมล็ดเจีย (Chia Seeds) กินแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมล็ดเจีย ถือเป็นธัญพืชที่จะช่วยป้องกันโรค และบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งปัจจุบันเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ทำให้ผู้คนเริ่มห่วงใยสุขภาพของตัวกันมากขึ้น และเริ่มที่จะหันมารับประทานอาหารเสริม หรือธัญพืชต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้น เมล็ดเจีย ก็ถือเป็นธัญพืชที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งเมล็ดเจียนั้นจะมีลักษณะรูปร่างที่มีขนาดเล็ก คล้ายเมล็ดแมงลัก แต่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย บทความสำหรับวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับ ประโยชน์ของเมล็ดเจีย กันให้มากยิ่งขึ้น ว่าทำไมเมล็ดเจียจึงเป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลย

 

คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเจีย

  • เมล็ดเจีย  28 กรัม ให้พลังงานเพียง 137 แคลอรี
  • โปรตีน 40.32 กรัม
  • ไขมัน 11.89 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 35.14 กรัม
  • ไฟเบอร์ 34.4 กรัม
  • แคลเซียม 150 กรัม
  • ธาตุเหล็ก 14.30 กรัม
  • แมกนีเซียม 362 กรัม
  • ฟอสฟอรัส 810 กรัม
  • โพแทสเซียม 425 กรัม
  • โซเดียม 41 กรัม
  • ซิงก์ 10.70 กรัม

 

ประโยชน์ของเมล็ดเจีย มีอะไรบ้าง?

 

 

1. ช่วยลดน้ำหนัก

เมล็ดเจียมีส่วนในการที่จะช่วยลดน้ำหนักได้เมื่อรับประทานเข้าไป เพราะเมล็ดเจียนั้นจะมีคุณสมบัติพองตัวออก เมื่อถูกแช่ในน้ำ ทำให้เมื่อรับประทานเมล็ดเจียเข้าไปก็จะไปขยายตัวภายในท้อง จนทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มนาน และรับประทานได้น้อยลง ไม่ทำให้เกิดอาการหิวระหว่างวัน ส่งผลให้น้ำหนักลดลงนั่นเองค่ะ

นอกจากนี้ ภายในเมล็ดเจียยังมีเส้นใยอาหาร และกรดอัลฟาไลโนเลนิก ที่อาจมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะอ้วน และยังมีงานวิจัยพบว่า การรับประทานเมล็ดเจียวันละ 35 กรัม นาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ลดน้ำหนัก และขนาดรอบเอวลงได้จริง และระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมก็ลดลง และมีไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

2. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

โดยทั่วไปแล้วธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะดีต่อการลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ รวมถึงอาจเป็นผลดีต่อคนที่ป่วยเป็นเบาหวานด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงได้มีการศึกษาพบว่า เมื่อให้คนที่ป่วยเป็นเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างดี รับประทานเมล็ดเจีย ชนิดซัลบา หรือรำข้าวสาลี ประมาณ 37 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว และลดการเกิดความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ที่สามารถทำให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง

 

3. รักษาความดันโลหิตสูง

ได้มีการวิจัยศึกษาเรื่องการลดระดับความดันโลหิต ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โดยพบว่าการรับประทานเมล็ดเจียแบบบดวันละ 35 กรัม นาน 12 สัปดาห์ ส่งผลให้คนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง มีระดับความดันโลหิตลดลง โดยไม่ส่งผลต่อระดับความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว ดังนั้น จึงมีการคาดว่าการรับประทานเมล็ดเจียจึงอาจมีส่วนในการควบคุมรักษาภาวะระดับความดันโลหิตสูง แต่ก็ยังไม่ได้มีการศึกษายืนยันอย่างชัดเจนปัจจุบัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคความดันโลหิตสูง อาการและแนวทางรักษา ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับความดันโลหิตสูง

4. ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

เมล็ดเจีย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เนื่องจากภายในเมล็ดเจียนั้นมีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม และกรดอัลฟาไลโนเลนิก หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. ช่วยรักษาบาดแผลหายเร็ว

การรับประทานเมล็ด อาจมีส่วนช่วยในการรักษาบาดแผลให้หายเร็ว ไม่ติดเชื้อง่าย เนื่องจากเมล็ดเจียนั้นจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งมีฤทธิ์แก้อักเสบ และบรรเทาอาการเจ็บปวด แถมยังป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลอีกด้วยค่ะ

 

6. ดีต่อระบบเผาผลาญพลังงาน

การรับประทานเป็นประจำ ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น เนื่องจากภายในเมล็ดเจียนั้นจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้นั้นมีส่วนช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายนั่นเองค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

7. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานปกติ

เนื่องจากภายในเมล็ดเจีย จะอุดมไปด้วยไขมันดี และไฟเบอร์ประมาณ 34.4 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งตัวไฟเบอร์นั้นจะมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้พุงป่อง และยังลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องไม่ผูกขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

 

8. ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย

สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายโดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬา หรือคนที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ การรับประทานเมล็ดเจียจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้ เพราะในเมล็ดเจียนั้นอุดมไปด้วยโปรตีนสูง ซึ่งมากกว่าโปรตีนที่พบในธัญพืช หรือเมล็ดข้าวชนิดต่าง ๆ

 

9. ช่วยบำรุงให้ผิวดูอ่อนวัย

ในเมล็ดเจีย นั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามิน มากกว่าในผลไม้ตระกูลเบอร์รี ดังนั้น การรับประทานเมล็ดเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้ดูอ่อนวัยลง มีเส้นผมที่นุ่มสลวย เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย เป็นต้น

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ ประโยชน์ของเมล็ดเจีย ที่เรานำมาฝากกัน เมล็ดเจียถือเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่หลากหลายมาก ๆ เลยนะคะ ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยลองรับประทานสามารถซื้อมาติดครัวไว้กันได้เลย เพราะถือเป็นอาหารยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ รับรองรับประทานเข้าไปแล้วดีต่อสุขภาพแน่นอน ทั้งมีส่วนช่วยในการรักษาและป้องกันโรค รวมถึงช่วยบำรุงสุขภาพในด้านอื่น ๆ มากมาย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เมนูข้าวบาร์เลย์ ธัญพืช อร่อย ไฟเบอร์สูง ดีต่อสุขภาพ ที่สายกินไม่ควรพลาด

ธัญพืช อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารสำหรับคนท้อง ที่ไม่ควรมองข้าม

ไขข้อสงสัย คนท้องกินถั่วลิสงได้ไหม เป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า

ที่มา : pobpad, kapook

บทความโดย

Suttida Butdeewong