เมล็ดเจีย ถือเป็นธัญพืชที่จะช่วยป้องกันโรค และบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งปัจจุบันเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ทำให้ผู้คนเริ่มห่วงใยสุขภาพของตัวกันมากขึ้น และเริ่มที่จะหันมารับประทานอาหารเสริม หรือธัญพืชต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้น เมล็ดเจีย ก็ถือเป็นธัญพืชที่กำลังได้รับความนิยมสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งเมล็ดเจียนั้นจะมีลักษณะรูปร่างที่มีขนาดเล็ก คล้ายเมล็ดแมงลัก แต่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย บทความสำหรับวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับ ประโยชน์ของเมล็ดเจีย กันให้มากยิ่งขึ้น ว่าทำไมเมล็ดเจียจึงเป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลย
คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเจีย
- เมล็ดเจีย 28 กรัม ให้พลังงานเพียง 137 แคลอรี
- โปรตีน 40.32 กรัม
- ไขมัน 11.89 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 35.14 กรัม
- ไฟเบอร์ 34.4 กรัม
- แคลเซียม 150 กรัม
- ธาตุเหล็ก 14.30 กรัม
- แมกนีเซียม 362 กรัม
- ฟอสฟอรัส 810 กรัม
- โพแทสเซียม 425 กรัม
- โซเดียม 41 กรัม
- ซิงก์ 10.70 กรัม
ประโยชน์ของเมล็ดเจีย มีอะไรบ้าง?
1. ช่วยลดน้ำหนัก
เมล็ดเจียมีส่วนในการที่จะช่วยลดน้ำหนักได้เมื่อรับประทานเข้าไป เพราะเมล็ดเจียนั้นจะมีคุณสมบัติพองตัวออก เมื่อถูกแช่ในน้ำ ทำให้เมื่อรับประทานเมล็ดเจียเข้าไปก็จะไปขยายตัวภายในท้อง จนทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มนาน และรับประทานได้น้อยลง ไม่ทำให้เกิดอาการหิวระหว่างวัน ส่งผลให้น้ำหนักลดลงนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ ภายในเมล็ดเจียยังมีเส้นใยอาหาร และกรดอัลฟาไลโนเลนิก ที่อาจมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมัน และลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะอ้วน และยังมีงานวิจัยพบว่า การรับประทานเมล็ดเจียวันละ 35 กรัม นาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ลดน้ำหนัก และขนาดรอบเอวลงได้จริง และระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมก็ลดลง และมีไขมันชนิดดีเพิ่มขึ้น
2. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
โดยทั่วไปแล้วธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะดีต่อการลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ รวมถึงอาจเป็นผลดีต่อคนที่ป่วยเป็นเบาหวานด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงได้มีการศึกษาพบว่า เมื่อให้คนที่ป่วยเป็นเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างดี รับประทานเมล็ดเจีย ชนิดซัลบา หรือรำข้าวสาลี ประมาณ 37 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว และลดการเกิดความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด ที่สามารถทำให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของกล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือโรคหลอดเลือดสมอง
3. รักษาความดันโลหิตสูง
ได้มีการวิจัยศึกษาเรื่องการลดระดับความดันโลหิต ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โดยพบว่าการรับประทานเมล็ดเจียแบบบดวันละ 35 กรัม นาน 12 สัปดาห์ ส่งผลให้คนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง มีระดับความดันโลหิตลดลง โดยไม่ส่งผลต่อระดับความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว ดังนั้น จึงมีการคาดว่าการรับประทานเมล็ดเจียจึงอาจมีส่วนในการควบคุมรักษาภาวะระดับความดันโลหิตสูง แต่ก็ยังไม่ได้มีการศึกษายืนยันอย่างชัดเจนปัจจุบัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคความดันโลหิตสูง อาการและแนวทางรักษา ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับความดันโลหิตสูง
4. ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
เมล็ดเจีย มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เนื่องจากภายในเมล็ดเจียนั้นมีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม และกรดอัลฟาไลโนเลนิก หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุน
5. ช่วยรักษาบาดแผลหายเร็ว
การรับประทานเมล็ด อาจมีส่วนช่วยในการรักษาบาดแผลให้หายเร็ว ไม่ติดเชื้อง่าย เนื่องจากเมล็ดเจียนั้นจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งมีฤทธิ์แก้อักเสบ และบรรเทาอาการเจ็บปวด แถมยังป้องกันการติดเชื้อของบาดแผลอีกด้วยค่ะ
6. ดีต่อระบบเผาผลาญพลังงาน
การรับประทานเป็นประจำ ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น เนื่องจากภายในเมล็ดเจียนั้นจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้นั้นมีส่วนช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายนั่นเองค่ะ
7. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานปกติ
เนื่องจากภายในเมล็ดเจีย จะอุดมไปด้วยไขมันดี และไฟเบอร์ประมาณ 34.4 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งตัวไฟเบอร์นั้นจะมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้พุงป่อง และยังลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องไม่ผูกขึ้นอีกด้วยค่ะ
8. ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายโดยเฉพาะในกลุ่มนักกีฬา หรือคนที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ การรับประทานเมล็ดเจียจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายได้ เพราะในเมล็ดเจียนั้นอุดมไปด้วยโปรตีนสูง ซึ่งมากกว่าโปรตีนที่พบในธัญพืช หรือเมล็ดข้าวชนิดต่าง ๆ
9. ช่วยบำรุงให้ผิวดูอ่อนวัย
ในเมล็ดเจีย นั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามิน มากกว่าในผลไม้ตระกูลเบอร์รี ดังนั้น การรับประทานเมล็ดเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จึงมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้ดูอ่อนวัยลง มีเส้นผมที่นุ่มสลวย เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ ประโยชน์ของเมล็ดเจีย ที่เรานำมาฝากกัน เมล็ดเจียถือเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่หลากหลายมาก ๆ เลยนะคะ ถ้าหากใครที่ยังไม่เคยลองรับประทานสามารถซื้อมาติดครัวไว้กันได้เลย เพราะถือเป็นอาหารยอดนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ รับรองรับประทานเข้าไปแล้วดีต่อสุขภาพแน่นอน ทั้งมีส่วนช่วยในการรักษาและป้องกันโรค รวมถึงช่วยบำรุงสุขภาพในด้านอื่น ๆ มากมาย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เมนูข้าวบาร์เลย์ ธัญพืช อร่อย ไฟเบอร์สูง ดีต่อสุขภาพ ที่สายกินไม่ควรพลาด
ธัญพืช อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารสำหรับคนท้อง ที่ไม่ควรมองข้าม
ไขข้อสงสัย คนท้องกินถั่วลิสงได้ไหม เป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า