ขวดนม ช่วยแก้อาการโคลิคของลูกน้อยได้หรือไม่ เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แม่ ๆ ทราบไหมคะว่า ขวดนม สามารถป้องกันอาการโคลิคของลูกได้ หากเจ้าตัวเล็ก เริ่มมีอาการงอแงในช่วง 3-4 เดือนแรก ร้องเป็นชั่วโมง ๆ และอุ้มก็ไม่หยุดร้อง นั่นแปลว่า ลูกอาจมีอาการโคลิคค่ะ การใช้ขวดนมลดอาการโคลิค จะช่วยให้ลูก ได้ดูดลมเข้าท้องน้อยลง ขณะดูดนมนั่นเอง สำหรับขวดนมที่ดีนั้น เป็นอย่างไร และขวดนมแบบไหนที่จะช่วยลดอาการโคลิคของลูกได้บ้าง ก่อนอื่นเราไปรู้จักอาการของโรคนี้กันให้มากขึ้นก่อนค่ะ

 

โคลิค คืออะไร

โคลิค เป็นอาการของทารกที่มีอายุราว ๆ 2 สัปดาห์ ถึงประมาณ 4 เดือน ร้องไห้หนัก โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่สามารถกล่อมให้ลูกหยุดร้องได้ อาการโคลิคนี้ ถือเป็นอาการเป็นปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทารกทุกคน ไม่ว่าเพศชาย หรือเพศหญิง รวมทั้งทารกที่มีสุขภาพดีก็ตาม ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อาการร้องไห้ของทารกจะเกิดขึ้น เมื่อพวกเขารู้สึก หิว เหนื่อย กลัว หรือรู้สึกไม่สบายตัว จากการอับชื้นของผ้าอ้อม

แต่สำหรับอาการโคลิคนั้น ทารกจะร้องไห้หนักมากกว่าเดิม และร้องในช่วงเวลาเดิม ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงตอนเย็น หรือตอนหัวค่ำ จะส่งเสียงดัง หวีดร้อง และนานกว่าปกติ ไม่สามารถกล่อมให้หายหรือหยุดได้ ซึ่งรวม ๆ แล้วประมาณวันละ 3 ชั่วโมง หรือบางรายอาจนานกว่านั้น ทั้งนี้อาการโคลิคจะหายไป เมื่อลูกอายุ 4 เดือนขึ้นไป

 

 

สาเหตุของการเกิดอาการโคลิค

แม้ว่าปัจจุบัน ทางการแพทย์จะยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอาการนี้ที่แท้จริง แต่โดยทั่วไปแล้ว พบว่าอาการโคลิคนี้ เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น

  • การหดเกร็งของกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร
  • การกลืนลมจำนวนมากเข้าไปในท้อง
  • ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เด็กปวดท้อง
  • การถูกรบกวนจากปัจจัยภายนอกเช่น เสียง แมลง และแสงไฟ
  • การพัฒนาของระบบประสาท ที่ยังไม่สมบูรณ์ 
  • ปัญหาจากการป้อนนมที่มากเกินไป หรือการป้อนที่ผิดวิธี
  • ปัญหาทางสุขภาพอื่น เช่น กรดไหลย้อน หูอักเสบ ไส้เลื่อน แพ้นมวัว และผื่นผ้าอ้อม เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกร้องไห้ไม่หยุดรับมืออย่างไร ? ร้องไห้แบบไหนเข้าข่าย โคลิค

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขวดนม ช่วยแก้อาการโคลิคของลูกได้จริงหรือไม่

การใช้ขวดนม สามารถช่วยแก้อาการโคลิคของลูกน้อยได้ เพราะสาเหตุสำคัญของอาการโคลิคที่เกิดขึ้นกับทารกนั้น มาจากการจุกเสียด และแน่นท้อง จากการดูดลมจำนวนมาก ของขวดนมที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ ทำให้คุณแม่ จำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อขวดนมที่ได้มาตรฐาน และช่วยลดอาการกลืนลมขณะดูดขวดของลูกได้ 

สำหรับขวดนมที่ดี ที่สามารถช่วยแก้อาการโคลิคของลูกได้นั้น ควรมีฝาล็อกกันอากาศที่แน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้มีลมเล็ดลอดไปในกระเพาะของลูกได้ รวมทั้งต้องมีรูของจุกนมที่เล็กเป็นพิเศษ เพื่อควบคุมให้น้ำนมในขวดไหลช้า ไม่บังคับให้ลูกต้องรีบดูดจนเกินไป จนทำให้เกิดอาการจุกเสียด หรือปวดท้อง อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรลองซื้อขวดนมก่อนสัก 2-3 ขวด เพื่อมาลองใช้กับลูกน้อยก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ และคอยสังเกตดูว่าแบบไหนดีที่สุด จึงค่อยซื้อแบบนั้นมาใช้เพิ่มต่อไปนั่นเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เลือกขวดนมอย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย

สำหรับการเลือกซื้อขวดนมที่ดี คุณแม่ควรเลือกซื้อกับร้านค้า หรือบริษัทที่ได้รับมาตรฐาน มีการรับรองการผลิตสินค้าสำหรับเด็กโดยเฉพาะ อีกทั้งยังควรพิจารณาจากข้อดี ข้อเสีย หรือวัสดุที่ใช้ผลิต เป็นต้น เพื่อให้การใช้ขวดนมนั้น ปลอดภัย และลดอาการโคลิคของลูกน้อยได้ สำหรับเทคนิคการเลือกขวดนมที่ดีนั้น มีดังนี้

 

1. พิจารณาข้อดี และข้อเสียของวัสดุที่ใช้ผลิตขวดนม

แน่นอนว่าการเลือกซื้อขวดนมที่ดี คุณแม่จำเป็นต้องพิจารณาข้อดี และข้อเสียของวัสดุที่ใช้ผลิต ตัวอย่างเช่น ขวดนมพลาสติก ที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน ไม่แตกหักง่าย แต่ก็อาจมีสาร BPA ที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยปนเปื้อนอยู่ หรือขวดนมแบบแก้ว ที่สามารถใช้งานได้นานกว่า แต่หนักกว่าขวดนมแบบพลาสติกมาก ทั้งนี้คุณแม่จึงควรเปรียบเทียบวัสดุที่ใช้ผลิตแต่ละชนิด เพื่อนำไปเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อขวดนม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

2. พิจารณารูปทรง และลักษณะของขวดนมแต่ละชนิด

ขวดนมส่วนใหญ่ มีขนาด รูปทรง และลักษณะที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว จะมีด้วยกัน 4 รูปทรง ได้แก่ ขวดนมทรงมาตรฐาน ขวดนมคอกว้าง ขวดนมคอโค้ง และขวดนมที่มีช่องระบายอากาศ โดยแต่ละขวดนั้น มีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป หากคุณแม่อยากทำความสะอาดง่าย ก็อาจใช้ขวดนมทรงมาตรฐาน หรือหากอยากให้ลูกดื่มง่าย จับถนัดมือ ก็ใช้ขวดนมคอกว้าง หรือขวดนมคอโค้ง เป็นต้น ทั้งนี้ควรพิจารณาข้อมูลของสินค้าให้ดีทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจซื้อ

 

3. หลีกเลี่ยงการใช้ขวดนมพลาสติกใส และพลาสติกโพลีคาร์บอเนต

พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ขวดนมแบบพลาสติกใส หรือโพลีคาร์บอเนต เพราะอาจปนเปื้อนสาร BPA ที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย ให้สังเกตง่าย ๆ จากตัวอักษร PC หรือเลข 7 ที่พิมพ์อยู่บนขวดนม ซึ่งหมายถึงพลาสติกที่ไม่ทนต่อความร้อนสูงนั่นเอง ขวดนมประเภทนี้ จึงไม่สามารถทำความสะอาดด้วยการต้มได้ ต้องอุ่นด้วยไมโครเวฟเพียง หรือเครื่องล้างจานเพียงอย่างเดียว

4. เลือกซื้อขวดนมพลาสติกที่มีสีขุ่น หรือทึบแสง

การใช้ขวดนมพลาสติกที่มีสีขุ่น หรือทึบแสง ช่วยให้ลูกปลอดภัยจาการ BPA เพราะทำจากพลาสติกพอลิเอทิลีน หรือพอลิโพรไพลีนที่ไม่อันตราย ให้สังเกตง่าย ๆ จากเลข 2 หรือเลข 5 ที่พิมพ์อยู่บนขวดนม ซึ่งหมายถึงพลาสติกชนิดนี้ สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่นั่นเอง

 

5. สังเกตรอยตำหนิของขวดนมทุกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ

พยายามสังเกตรอยตำหนิ รอยแตก หรือรอยร้าวของขวดนมก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง เพราะรอยต่าง ๆ เหล่านั้น อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่อันตรายต่อลูกน้อยนั่นเอง ทางที่ดีคุณแม่ควรเลือกซื้อขวดนม ที่ห่อในบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน หรือห่อในพลาสติกที่หนาแน่น เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยตำหนิเหล่านั้นนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง : การเลือกขวดนม และจุกนมที่คุณแม่ควรรู้!! ขวดนมเด็กแรกเกิด เลือกยังไง?

 

หากคุณแม่ท่านไหน ยังไม่รู้ว่าขวดนมแบบไหนที่เหมาะสำหรับลูกน้อย และช่วยแก้อาการโคลิค หรืออาการสำลักจากการดูดนมได้นั้น ลองมาทำความรู้จักกับ ขวดนมเด็กคอกว้าง ที่สามารถป้องกันโคลิค และกันสำลักกันค่ะ

Mama’s Choice ขวดนมเด็กคอกว้าง ป้องกันอากาศเข้า Anti Colic Baby Bottle

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

 

ขวดนมพิเศษ ที่มีตัวล็อกกันอากาศ ป้องกันลมเข้าท้องของทารก ช่วยลดโอกาสที่ลูกน้อยจะท้องอืด และมีอาการโคลิค แถมรูของจุกนมยังออกแบบพิเศษให้คล้ายหัวนมแม่ เพื่อควบคุมการไหล ดูดง่าย ไม่บีบบังคับให้ทารกต้องรีบดูด จนอาจทำให้ลมเข้าท้องได้ค่ะ สำหรับตัวขวดนมยังผลิตจากซิลิโคน food grade ที่ปลอดภัย ไร้สารเคมีปนเปื้อน ลูกน้อยสามารถสัมผัสได้ โดยไม่ต้องกลัวอันตราย

ที่สำคัญตัวขวดยังมีความยืดหยุ่น บีบได้ มีดีไซน์โค้งมน ที่ช่วยให้ลูกน้อย ได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก โดยการจับและบีบขวดนมได้ แถมยังมีคอที่กว้างเป็นพิเศษ ที่จะช่วยให้คุณแม่เทนมใส่ และทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังไม่มีสาร BPA ตาเลต และ PVC ที่อันตรายต่อลูกน้อยอีกด้วย โดยขวดนมนี้ มีให้เลือก 2 ไซส์ คือขนาด 150 มิลลิลิตร (5 ออนซ์) และ 250 มิลลิลิตร (8 ออนซ์) และมีให้เลือก 2 สี คือสีฟ้า และสีเหลืองตามชอบค่ะ 

แม้อาการโคลิคอาจมีที่มาจากหลายสาเหตุ แต่เชื่อกันว่าสาเหตุหลักคือทารกมีอาการอึดอัดท้อง ไม่สบายตัว เนื่องจากมีลมเข้าท้องมากเกินไป ดังนั้น Mama’s Choice จึงออกแบบขวดนมพิเศษ ที่มีฝาล็อกกันอากาศแน่นหนา ป้องกันไม่ให้ลมเล็ดลอดเข้าท้องของทารกระหว่างที่ดูดนม แถมรูของจุกนมยังเล็กเป็นพิเศษ เพื่อควบคุมให้น้ำนมไหลช้า ไม่บีบบังคับให้ทารกต้องรีบดูด จนอาจทำให้ลมเข้าท้องได้ค่ะ

 

ข้อดีของ Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle

  • มีตัวล็อกกันอากาศ ป้องกันลมเข้าท้องของทารก ลดโอกาสที่ลูกน้อยจะท้องอืดและมีอาการโคลิค
  • ผลิตจากซิลิโคน food grade ปลอดภัย ไร้สารเคมีปนเปื้อน ลูกน้อยสัมผัสได้ไม่ต้องกลัวอันตราย
  • ตัวขวดนมยืดหยุ่น บีบได้ ดีไซน์โค้งมน ให้ลูกน้อยได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กโดยการจับและบีบขวดนม
  • จุกนมออกแบบพิเศษให้คล้ายหัวนมแม่ รูเล็กเพื่อควบคุมการไหล นิ่มยืดหยุ่น ดูดง่าย
  • คอขวดนมกว้างเป็นพิเศษ ช่วยให้คุณแม่เทนมใส่ได้ง่าย และทำความสะอาดได้ง่ายด้วยค่ะ

 

 

การเลือกซื้อขวดนมที่ดี จะช่วยป้องกันอาการโคลิค และการสำลักของลูกน้อยได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณแม่แต่ละคน ว่าขวดนมนั้นเหมาะสมกับลูกน้อยหรือไม่ หากเมื่อไหร่ที่ขวดนมเริ่มบุบเบี้ยว มีกลิ่นเหม็น หรือมีรอยขีดข่วน ก็ควรเลือกซื้อขวดนมใหม่ เพราะหากใช้ไปนาน ๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ขวดนมคอแคบ ขวดนมคอกว้าง ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนให้ลูกดี

ขวดนมสำหรับเด็ก ขวดนมแบบไหนเหมาะกับลูกน้อย ขวดนมแบบไหนถึงจะดี

เตรียมพร้อมแต่เนิ่น ๆ วิธีเลิกขวด ฝึกยังไงให้ลูกเลิกขวดนมได้ภายใน 1 ปีครึ่ง

ที่มา : 1, 2, 3

บทความโดย

Napatsakorn .R