โรคบิด เป็นโรคระบบทางเดินอาหารที่รุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมาย อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยง และผลกระทบของโรคบิด อาจเพิ่มขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้น การเข้าใจสาเหตุ อาการ ผลกระทบ และวิธีแก้ไขโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์ จึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของทั้งทารกในครรภ์และแม่ท้องมาก ๆ บทความในวันนี้เราจะให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์กันค่ะ ว่า คนท้องเป็นโรคบิด นั้นจะมีอันตรายมากแค่ไหน และมีสาเหตุมาจากอะไร และวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
โรคบิดคืออะไร?
โรคบิด เป็นโรคติดเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้ ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงโดยมีเลือด และมูกปนออกมา มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร และน้ำที่ปนเปื้อน และการปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ไม่ดี ซึ่งคนท้องมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคบิด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ และขาดสารอาหาร ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูกได้ นอกจากนี้ ยังอาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด หรือการแท้งบุตร ดังนั้น คนท้องที่เป็นโรคบิดควรไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากโรคบิดที่ไม่ได้รับการรักษาอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การป้องกันการเกิดโรคบิด คนท้องสามารถรับประทานยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ได้ เช่น โลเพอราไมด์ แต่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ แต่อาการท้องเสียเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งวิธีการรักษา ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้น หรือรับประทานโยเกิร์ต และหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดหรือมัน และถ้าหากคนท้องมีอาการท้องเสียนานกว่า 2-3 วัน หรือมีอาการ เช่น มีไข้ อาเจียน หรือปวดท้องอย่างรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะการรักษาโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์ ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันผลเสียต่อสุขภาพของคนท้องและทารกในครรภ์
คนท้องเป็นโรคบิด สามารถนำไปสู่การขาดน้ำจริงหรือไม่
โรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นอย่างมากต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์ เนื่องจากโรคบิดคือการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้ ซึ่งนำไปสู่อาการท้องร่วง และปวดท้องอย่างรุนแรง ดังนั้น คนท้องที่เป็นโรคบิดจึงมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะขาดน้ำเนื่องจากการสูญเสียของเหลวจากอาการท้องร่วง
ซึ่งภาวะขาดน้ำในระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพมากมาย รวมทั้งการคลอดก่อนกำหนด ระดับน้ำคร่ำต่ำ และแม้แต่การแท้งบุตร ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์อาจแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำที่ปนเปื้อน คนท้องที่มีอาการท้องร่วง หรือบิด เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำมาก ๆ และไปพบแพทย์ ไม่ควรรับประทานยาโดยไม่ปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพ เนื่องจากยาบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต
โรคบิดส่งผลอันตรายต่อทารกจริงไหม?
โรคบิด สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นอันตรายในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อทั้งคนท้องและทารกได้ หากไม่ได้รับการรักษา เพราะโรคบิดอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เนื่องจากการติดเชื้อยังสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย และอาจทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด หรือแท้งบุตรได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์ และรับการรักษาโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันผลเสียต่อการตั้งครรภ์
ซึ่งโรคบิดอาจเกิดจากการที่มีสุขอนามัยที่ไม่ดี รับประทานอาหารและน้ำที่ไม่ปลอดภัย และการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อน ซึ่งอาการท้องเสียถือเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่ทำให้การย่อยอาหารช้าลง และอาจทำให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และรักษาสุขอนามัยที่ดี เพื่อป้องกันโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์ ในกรณีที่ท้องเสีย คนท้องควรรีบพบแพทย์ หากมีอาการเกิน 2 วัน หรือสังเกตอาการ เช่น ขาดน้ำ มีไข้ หรืออุจจาระเป็นเลือด ควรใช้ยารักษาโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์
โรคบิด เป็นโรคทางเดินอาหารที่ส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย รวมถึงสตรีมีครรภ์ ในระหว่างตั้งครรภ์ โรคบิดอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ อ่อนแอ และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อคนท้อง และทารกในครรภ์ ซึ่งการติดเชื้อแบคทีเรีย และไวรัส ถือเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้สามารถส่งผ่านอาหาร น้ำ หรือการสัมผัสกับบุคคลที่ติดเชื้อ ดังนั้น คนท้องควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการดูแลสุขอนามัยและคุณภาพของอาหาร และเครื่องดื่ม แล้วก็โรคบิดอาจทำให้เกิดการแท้งบุตรได้ ในกรณีที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา หรือไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ดังนั้น คนท้องที่เป็นโรคบิดควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของตนเอง และทารก
โรคบิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตร
โรคบิดนั้นส่งผลให้เกิดการอักเสบ และท้องเสียในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์ที่กำลังเจริญเติบโต และการวิจัยพบว่าโรคบิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตร, การคลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักแรกเกิดต่ำ ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยของการขาดน้ำ และความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ที่เกิดจากโรคบิด เพราะสามารถสร้างความเครียดให้กับทารกในครรภ์ที่กำลังเจริญเติบโต และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้
ดังนั้น คนท้องที่มีอาการบิด เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง และมีไข้ ควรไปพบแพทย์ทันที และคนท้องควรดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารรสจืด เพื่อจัดการกับอาการของโรคบิด และจะต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
คนท้องควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยารักษาโรคบิด
คนท้องเป็นโรคบิด ส่วนใหญ่จะมีอาการ ท้องเสีย ปวดท้อง และมีไข้ ควรระมัดระวังในการรับประทานยา เนื่องจากยาบางชนิดอาจไม่ปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะรับประทานยา เพื่อบรรเทาอาการของโรคบิด เพราะยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคบิด เช่น ยาปฏิชีวนะ อาจมีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ที่กำลังเจริญเติบโต
ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้จริงหรือ?
การตั้งครรภ์เป็นระยะที่อ่อนแอสำหรับผู้หญิง และปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคบิด อาจกลายเป็นปัญหาได้ ซึ่งโรคบิดนั้นจะเป็นการติดเชื้อในทางเดินอาหาร ที่เกิดจากแบคทีเรียหรือปรสิต ซึ่งอาจทำให้ท้องเสียเป็นเลือด หรือมีอาการปวดท้อง และร่างกายขาดน้ำได้ ในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ซึ่งทำให้คนท้องมีโอกาสเกิดโรคบิดได้ง่ายขึ้น แม้ว่าโรคบิดจะไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์โดยตรง แต่อาจทำให้แม่ท้องที่ขาดน้ำ และอิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล อาจนำไปสู่การแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด หรือการตายคลอดได้ ดังนั้น คนท้องควรขอคำแนะนำจากแพทย์ หากสงสัยว่ามีอาการของโรคบิด
วิธีป้องกันอาการท้องร่วงระหว่างตั้งครรภ์
ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ คืออาการท้องร่วง ซึ่งอาจเกิดจากหลากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การรับประทานอาหาร และความเครียด และอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูก หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา ดังนั้น วิธีป้องกันอาการท้องร่วงระหว่างตั้งครรภ์ ได้แก่ การดื่มน้ำมาก ๆ และการรับประทานอาหารรสจืด และสิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์หากอาการยังคงอยู่หรือแย่ลง
คนท้องไม่ควรรักษาด้วยตนเอง และควรปรึกษากับแพทย์ ก่อนรับประทานยา หรืออาหารเสริมสมุนไพร เพื่อหยุดอาการท้องเสีย เพราะอาการท้องเสียเป็นเรื่องปกติในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระบบย่อยอาหาร แต่ก็อาจเป็นอาการของภาวะที่ร้ายแรงกว่าได้เช่นกัน ซึ่งคนท้องที่อยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับอาการของตนเอง และไปพบแพทย์หากจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับการตั้งครรภ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคท้องร่วง อาการเป็นยังไง? วิธีดูแลรักษาเมื่อเป็นโรคท้องร่วง
ดังนั้น คนท้องเป็นโรคบิด ถือเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับทั้งแม่ท้องและทารกในครรภ์ สิ่งสำคัญคือต้องใช้มาตรการป้องกัน และไปพบแพทย์ทันทีที่มีอาการ และรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ฝึกการมีสุขอนามัยที่ดี และหลีกเลี่ยงอาหาร และเครื่องดื่มที่ปนเปื้อน ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ จะสามารถลดความเสี่ยงของโรคบิดในระหว่างตั้งครรภ์ได้อย่างมาก และควรรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลสุขภาพเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องเจ็บหัวนม เป็นเพราะอะไร ? เป็นอันตรายหรือเปล่า
เผยเคล็ดลับ! แก้ปัญหา คนท้องผิวแห้ง ดูแลอย่างไร ให้ผิวชุ่มชื้นอย่างถูกวิธี
คนท้องเลเซอร์ขนได้ไหม ? แม่ท้องอยากสวย จะทำได้หรือเปล่านะ ?
ที่มา : Pobpad