เชื้อราแมว เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวหนังได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ เป็นโรคติดต่อได้ง่ายโดยเฉพาะจากสัตว์เลี้ยงอย่างน้องแมว เชื้อราแมว มักแพร่กระจายโดยการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์หรือบุคคลที่ติดเชื้อ แม้ว่าจะส่งผลต่อผิวหนังเป็นหลัก แต่ก็สามารถส่งผลต่อเล็บ หนังศีรษะ และเส้นผมได้เช่นกัน เรามาดูกันว่า เชื้อราแมวคืออะไร รักษา และสามารถป้องกันได้อย่างไร
เชื้อราแมว (Microsporum canis)
เชื้อราแมวเป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของกลากเกลื้อน มันคือเชื้อราก่อโรคที่ขึ้นตามผิวหนัง เยื่อเมือก ผม เล็บ ขน และพื้นผิวอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดกลากเกลื้อนและโรคที่เกี่ยวข้อง มันสามารถแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนได้ เชื้อราเป็นโรคติดต่อได้ง่าย และสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลานาน ทำให้ง่ายต่อการแพร่กระจาย
เชื้อราแมวสามารถติดต่อกับมนุษย์ได้อย่างไร
เชื้อราแมวเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายในมนุษย์ เชื้อราสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ขนของสัตว์ หรือวัตถุอื่น ๆ ที่สัตว์ที่ติดเชื้อแล้วมาสัมผัสกับคน มนุษย์สามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสกับดินที่ปนเปื้อน เชื้อราสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาทางผิวหนังได้หลากหลาย
บทความที่เกี่ยวข้อง : รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ กัญชาแมว แคทนิป ของโปรดน้องแมว ที่ทาสแมวต้องอ่าน!
การวินิจฉัยโรคเชื้อราแมว
โดยทั่วไปแล้ว การติดเชื้อราแมวนั้น สัมพันธ์กับอาการผมร่วง ในขณะที่การติดเชื้อราในสัตว์เลี้ยงจะทำให้เกิดแผลอักเสบที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งอาจทำให้ขนร่วงหรือไม่ก็ได้ เชื้อราแมวมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการในสัตว์บางสายพันธุ์ โดยเฉพาะแมวขนยาวมักเป็นแหล่งสะสมของการติดเชื้อ
ในการตรวจหาเชื้อรา ในกรณีที่ไม่แสดงอาการ ส่งตรวจด้วยการวิเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์จากตัวอย่างบริเวณที่สงสัยว่าเป็นเชื้อรา ในกรณีของพาหะชั่วคราว
สาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อราแมว
การติดเชื้อราของแมว มักจะเกิดในสัตว์เลี้ยงที่มีขนยาว เนื่องจากเกิดความชื้นที่ขน เช่น การอาบน้ำแล้วเป่าขนให้ไม่แห้งสนิท หรือการไม่ทำความสะอาดสัตว์ให้สะอาดหลังจากสัตว์ออกไปเล่นนอกบ้าน (เปื้อนดิน, เปื้อนหญ้า) แล้วสะสมไปเรื่อย ๆ จนเกิดเชื้อราขึ้นในสัตว์ และนำมาติดต่อสู่คนได้นั่นเองค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตู้เป่าขนแมว นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้การเป่าขนน้องแมว เป็นเรื่องง่าย!
อาการของโรคเชื้อราแมว
การติดเชื้อราแมว อาจทำให้
- ผิวหนังระคายเคือง
- มีขุยรอบ ๆ และจะค่อย ๆ ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
- ขนร่วง
- เป็นสะเก็ดบนผิวหนัง
- การติดเชื้ออาจทำให้เกิดผื่นแดง เป็นวงกลม คล้าย ๆ กลากเกลื้อน
- อาการคัน
- หากเกาแล้ว ไปจับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ก็จะทำให้ติดเชื้อเพิ่มได้อีก
เชื้อราแมวเป็นโรคติดต่อได้ง่าย และสามารถแพร่กระจายจากสัตว์สู่สัตว์ และจากคนสู่คน สิ่งสำคัญคือต้องใช้มาตรการป้องกันและรักษาโรคนี้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ผิวหนัง และถ้าเชื้อไปติดที่ศีรษะ ก็จะให้ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ได้อีกด้วย
วิธีการรักษาเชื้อราแมว
การรักษา และฆ่าเชื้อเชื้อราแมว ซึ่งเป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดกลากที่ผิวหนัง ต้องใช้หลายวิธีรักษาร่วมกัน เพื่อกำจัดการติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลารักษาประมาณ 3 ถึง 4 สัปดาห์
- แชมพูต้านเชื้อรา ใช้เพื่อทำลายผนังเซลล์ของเชื้อรา
- ลดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม รักษาความสะอาดในบ้าน ฆ่าเชื้อภายในบ้านเพื่อให้แน่ใจว่าบริเวณที่ปนเปื้อนทั้งหมดได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม
- ยาเฉพาะที่ เช่น ครีมและขี้ผึ้ง สามารถทาโดยตรงกับบริเวณที่เป็นเพื่อฆ่าเชื้อรา
- ยารับประทาน เช่น ยาเม็ดหรือแคปซูล ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อราจากภายใน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทาสแมวมือใหม่ต้องอ่าน! เลือก ทรายแมว อย่างไรให้ถูกใจน้องแมว !
การป้องกันการติดเชื้อราแมว
การป้องกันการติดเชื้อทั้งในสัตว์และในคนทำได้ดีที่สุดโดยการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเหมาะสม ให้สัตว์เลี้ยงรับการดูแลจากสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่อาจติดเชื้อ
- ล้างมือ และล้างบริเวณอวัยวะต่าง ๆ หลังเล่นกับสัตว์เลี้ยงให้สะอาดทุกครั้ง
- รักษาความสะอาดในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง และฆ่าเชื้ออยู่เสมอ เช่น โซฟา ที่นอน พรม หรือบริเวณอื่น ๆ ที่สัตว์เลี้ยงอยู่บ่อย ๆ
- ไม่ควรนอนร่วมกับสัตว์เลี้ยง หากจำเป็นต้องนอนให้รักษาความสะอาดให้ดี และฆ่าเชื้อเป็นประจำ
- ถ้าเกิดมีคนในบ้านติดเชื้อราแมว ให้รีบรักษา และนำสัตว์เลี้ยงไปรักษาด้วย
- พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อรา
โดยสรุปแล้ว เชื้อราแมว เป็นโรคติดต่อจากเชื้อรา ที่สามารถทำให้เกิดอาการได้หลากหลาย ทั้งในคนและสัตว์ การตรวจหาและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่ร้ายแรงได้ การรักษาที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การใช้ยาต้านเชื้อรา ยาทาเฉพาะที่ และแสงอัลตราไวโอเลต เพื่อป้องกันการติดเชื้อ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบุคคล และสัตว์ที่ติดเชื้อนั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
รวมเคล็ดลับ วิธีกำจัดกลิ่นฉี่แมว ที่ได้ผลจริง ทาสแมวต้องรีบอ่าน!
รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ กัญชาแมว แคทนิป ของโปรดน้องแมว ที่ทาสแมวต้องอ่าน!
น้ำพุแมว ดี อย่างไร อีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยง ที่เหล่าทาสแมว ไม่ควรพลาด!
ที่มา : wikipedia, Rama Channel
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!