ในฐานะผู้ปกครอง คงจะมีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นเมื่อ พูดถึงเรื่องอาหารของลูกน้อยของคุณ หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ “เด็กวัยเตาะแตะกินกล้วยได้ไหม” คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงสงสัยว่าลูกน้อยของพวกเขา พร้อมที่จะลองผลไม้ชนิดนี้หรือยัง วันนี้ theAsianparent จะพาไปทำความรู้จักกับประโยชน์ของกล้วย เด็กเล็กกินกล้วยได้ไหม ? กินแล้วดี มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลย
เด็กเล็กกินกล้วยได้ไหม ?
แน่นอนว่าเด็กเล็กสามารถรับประทานกล้วยได้เป็นปกติ เราสามารถเห็นได้ว่า กล้วยเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่หลาย ๆ บ้านให้ลูกวัยทารกรับประทาน เนื่องจากมีความหวานรสชาติดี และคุณค่าทางโภชนาการสูง ในบทความนี้ เราจะมาดูประโยชน์ของกล้วยสำหรับทารกกัน ว่ากล้วยมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ควรให้ลูกรับประทานกล้วยได้ตอนอายุเท่าไหร่ วิธีสอนให้ลูกรับประทานกล้วย สายพันธุ์กล้วยที่ปลอดภัยสำหรับทารก และกล้วยอะไรที่เด็กเล็กควรหลีกเลี่ยง และลูกสามารถกินกล้วยได้มากแค่ไหน
กล้วยมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายสำหรับทารกและเด็กเล็ก พวกมันเป็นแหล่งไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุที่ดี นอกจากนี้ กล้วยยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ กล้วยยังมีน้ำตาลธรรมชาติที่ให้พลังงานทันทีและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย!
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินกล้วยไข่ ได้ไหม? กล้วยไข่มีประโยชน์ต่อคุณแม่และทารกอย่างไร?
เด็กกินกล้วยแล้วดี มีประโยชน์!
ประโยชน์ของกล้วยสำหรับลูกน้อย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร
กล้วยมีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น โพแทสเซียม วิตามินบี 6 และไฟเบอร์ ซึ่งเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับให้ลูกน้อยของคุณรับประทานเป็นอย่างมาก โดยโพแทสเซียม ช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อ วิตามินบี 6 ช่วยพัฒนาสมอง และ ไฟเบอร์ ช่วยในการย่อยอาหาร กล้วยเป็นแหล่งพลังงานที่ดีสำหรับลูกน้อยของคุณ และยังเป็นความคิดที่ดีในการแนะนำให้พวกเขารู้จักของว่างที่มีประโยชน์ และมีคุณค่าทางโภชนาการ กล้วยเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและสามารถให้พลังงานแก่ลูกน้อยในเวลาที่พวกเขาต้องการมากที่สุด
ให้ลูกรับประทานกล้วยตอนไหนดี?
คุณแม่และคุณพ่อคงสงสัยว่าเจ้าตัวน้อยควรรับประทานกล้วยตอนอายุเท่าไหร่กันนะ? โดยทั่วไปแนะนำให้รอจนกว่าลูกน้อยของคุณจะมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าระบบย่อยอาหารของทารกเจริญเติบโตเพียงพอที่จะจัดการย่อยกับอาหารใหม่ ๆ ได้ และใช่ว่ากล้วยทุกชนิดจะปลอดภัยกับลูกน้อยนะ! การเลือกพันธุ์กล้วยที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน คุณควรเลือกกล้วยที่ไม่สุกจนเกินไป มีผิวไม่หนาหรือบางเกินไป แนะนำให้บดกล้วยให้ละเอียด หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนค่อยให้ลูกน้อยรับประทาน และจึงคอยตรวจดูอาการแพ้ หรือปัญหาทางเดินอาหารหรือเปล่า
ลองให้ลูกน้อยกินกล้วยบด!
วิธีที่จะสอนลูกน้อยของคุณ ให้รู้จักกล้วย และกินเป็น เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการพัฒนาของพวกเขา ในขั้นตอนแรกที่จะให้ลูกน้อยรับประทานกล้วยคุณควรเริ่มต้นด้วยการบดให้ละเอียด เละ คล้ายกับน้ำซุปข้น เพื่อง่ายต่อการบดเคี้ยว หากลูกน้อยของคุณยังเด็กเกินไปสำหรับอาหารแข็ง คุณควรรอจนกว่าพวกเขาจะโตกว่านี้และสามารถจัดการกับเนื้อสัมผัสที่หนาขึ้นได้ เมื่อพร้อมแล้ว คุณสามารถปั่นหรือบดกล้วยสำหรับลูกน้อยของคุณต่อไป หรือเสนอในรูปแบบอื่น ๆ เช่น หั่นเป็นชิ้นหรือแท่งก็ได้ ทำกล้วยทอด หรือ กล้วยเคลือบช็อกโกแลตก็ได้ แต่อย่าลืมระวังเรื่องความหวานล่ะ! ไม่ดีต่อร่างกายของลูก
กล้วยชนิดไหน ปลอดภัยสำหรับทารก?
กล้วยคาเวนดิช เป็นหนึ่งในกล้วยสายพันธุ์ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการให้ลูกน้อยรับประทานกล้วยชนิดนี้ คาเวนดิชเป็นกล้วยที่มีรสหวาน เนื้อเนียน และย่อยง่าย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น วิตามินบี 6 วิตามินซี และโพแทสเซียม นอกจากนี้ คาเวนดิชยังหาซื้อได้ทั่วไปและเป็นกล้วยชนิดที่มีราคาย่อมเยาที่สุด จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบจำกัด
หรือในประเทศไทยคุณแม่อาจจะคุ้นเคยกับกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และกล้วยไข่ก็ดีต่อลูกน้อยเช่นเดียวกัน รสชาติดี ย่อยง่าย ลูกน้อยได้ประโยชน์เต็ม ๆ !
กล้วยที่เด็กวัยเตาะแตะควรหลีกเลี่ยง
แม้ว่ากล้วยจะเป็นของว่างที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็กวัยหัดเดิน แต่ก็มีบางประเภทที่ควรหลีกเลี่ยง ต้นแปลนทินเป็นสายพันธุ์ของกล้วย แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยหัดเดินเนื่องจากมีปริมาณแป้งสูง กล้วยสีเขียวหรือไม่สุกยังมีแป้งในปริมาณสูง และย่อยยาก ก่อให้เกิดอาการท้องอืด จึงเป็นของว่างที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยเตาะแตะ ทางที่ดีควรรับประทานผลไม้สุกที่มีรสหวานกว่าเพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีที่สุด
Musa acuminata กล้วยที่ดีที่สุดสำหรับเด็กวัยหัดเดิน
Musa acuminata เป็นหนึ่งในสายพันธุ์กล้วยที่ดีที่สุดสำหรับเด็กวัยหัดเดิน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น รวมทั้งวิตามินซี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก นอกจากนี้สายพันธุ์นี้ยังมีรสชาติอ่อนและหวาน ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กวัยหัดเดินที่เพิ่งเริ่มรับประทานอาหารแข็ง นอกจากนี้ยังมีใยอาหารมากมายซึ่งช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารของลูกน้อยให้ดีขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด เนื้อสัมผัสของกล้วยนี้นุ่มและเคี้ยวและกลืนง่าย ทำให้เป็นอาหารมื้อแรกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทารก
เด็กวัยเตาะแตะสามารถกินกล้วยได้มากแค่ไหน
ปริมาณกล้วยที่เด็กวัยหัดเดินสามารถกินได้อย่างปลอดภัยในแต่ละวันคือ 1/4 ถ้วย นี่เป็นปริมาณที่ปลอดภัยสำหรับเด็กวัยหัดเดินที่จะบริโภค ถึงแม้กล้วยจะเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่สำคัญ หากลูกกินกล้วยมากเกินไป อาจมีอาการท้องไส้ปั่นป่วนหรือท้องเสียได้ เพราะมีน้ำตาลและไฟเบอร์สูง สิ่งสำคัญคือต้องค่อย ๆ แนะนำกล้วยให้กับอาหารของเด็กวัยหัดเดินและอย่าให้เกินปริมาณที่แนะนำ
How to ป้อนกล้วยให้เด็กวัยหัดเดิน
ผู้ปกครองมักกังวลเกี่ยวกับการให้ลูกรับประทานกล้วย โดยเฉพาะเด็กวัยหัดเดิน เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่ากล้วยเป็นอันตรายจากการสำลัก โดยเฉพาะในเด็กวัยเตาะแตะที่ยังไม่ได้พัฒนาทักษะการเคี้ยว โชคดีที่มีวิธีอื่น ๆ ในการป้อนกล้วยให้เด็กวัยหัดเดินได้อย่างปลอดภัย เช่น การแช่แข็งกล้วยเป็นก้อนหรือเพิ่มลงในอาหารอื่น ๆ ด้วยวิธีนี้ พ่อแม่สามารถปล่อยให้ลูกวัยเตาะแตะได้รับประโยชน์จากกล้วยโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสี่ยงต่อการสำลัก สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่กล้วยทุกชนิดที่ปลอดภัยสำหรับเด็กวัยหัดเดิน และผู้ปกครองควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะแนะนำกล้วยให้กับเด็กวัยหัดเดิน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เมนูกล้วย ยิ่งกินยิ่งฉลาด เมนูง่าย ๆ คุณแม่ทำได้คุณลูกชอบทาน
จบไปแล้วกับเกร็ดความรู้ดี ๆ จะเห็นได้ว่ากล้วยถือเป็นตัวเลือกของอาหาร หรือของว่างที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กเล็กวัยหัดเดิน เนื่องจากมีประโยชน์ทางโภชนาการและย่อยง่าย เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กเล็กวัยหัดเดินของคุณแม่ และคุณพ่อปลอดภัย สิ่งสำคัญคือต้องติดตามการบริโภคกล้วยอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าหากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้สำลักหรือแพ้ได้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกพันธุ์กล้วยที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าลูกวัยเตาะแตะของคุณได้รับประโยชน์ทางโภชนาการสูงสุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อาหารเพื่อสุขภาพ เมนูกล้วย รสชาติอร่อย ๆ ได้ประโยชน์คนท้อง!
เหตุผลที่ว่าทำไม คนท้องต้องกินกล้วย ประโยชน์ของกล้วยกับคนท้อง
กินกล้วยก่อนออกกำลังกาย กินง่ายให้พลังงานดี กินก่อนออกกำลังกายดีหรือไม่?
ที่มา : rakluke.com