อาการไอ เกิดจากอะไร อาการไอเป็นอาการที่พบบ่อยมากของการเจ็บป่วย แต่หลายคนไม่ทราบว่าสาเหตุของการไอคืออะไร ซึ่งเราได้รวบรวมสาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการไอแห้ง ไอมีเสมหะ พร้อมกับวิธีการรับมือกับสาเหตุที่เกิดขึ้นให้ทุกคนได้รู้กันแล้ว ซึ่งแต่ละสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ก็เป็นได้ ซึ่งสิ่งที่เราได้นำมาให้ทุกคนได้รู้กันนั้นอาจไม่ได้มีเพียง อาการไอ เท่านั้น แต่รวมถึงอาการแพ้ โรคหวัด โรคหอบหืด และอาการอื่น ๆ ตามไปด้วย
อาการไอ เกิดจากอะไร ?
บอกเลยค่ะว่าและเมื่อไหร่ที่คุณได้ทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ของการไอ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือกับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างดีมาก ๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญไปกว่านั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการรักษาเพื่อกำจัดอาการไอ สิ่งนี้ก็จะช่วยลดความรุนแรงของอาการ และช่วยบรรเทา อาการไอ ให้ดีขึ้นได้มาก ๆ เลยล่ะค่ะ เอาเป็นว่าเรามาดูสาเหตุ อาการไอ ไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ
1. สาเหตุของอาการไอ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของการไอ คือ การติดเชื้อไวรัส ซึ่งการติดเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อยนั้น ยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสโคโรนา เป็นต้น ซึ่งโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วล้วนทำให้เกิดอาการไอได้ทั้งนั้น เพราะการติดเชื้อเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายผลิตเสมหะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสามารถขับออกได้ในรูปแบบของอาการไอ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ของการไอ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืด เป็นต้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้สามารถนำไปสู่การอักเสบในทางเดินหายใจ และการผลิตเสมหะเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย ส่งผลให้เกิดอาการไอแห้ง ๆ หรือไอมีเสมหะ แถมยังมีสาเหตุอื่น ๆ ของการไอ ได้แก่ การสูบบุหรี่ มลพิษทางอากาศ และยาบางชนิด เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการไอของลูก บอกโรคอะไรได้บ้าง
2. สาเหตุของอาการไอแห้ง
อาการไอแห้งเกิดจากหลายปัจจัย รวมทั้งสารระคายเคืองในอากาศ ภูมิแพ้ หอบหืด และกรดไหลย้อน เป็นต้น สิ่งที่เราสามารถพบได้บ่อยจากสารระคายเคือง ยกตัวอย่างเช่น ฝุ่น ควัน และมลภาวะในอากาศ โดยส่วนใหญ่สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดอาการไอแห้งได้ นอกจากนี้อาการแพ้ยังทำให้เกิดอาการไอแห้งได้ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากร่างกายของเราพยายามที่จะขับสารระคายเคืองออกจากทางเดินหายใจด้วยนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอโรคหอบหืดก็ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการไอแห้ง เนื่องจากทำให้เกิดการอักเสบในทางเดินหายใจ ในส่วนของกรดไหลย้อนก็อาจทำให้เกิดอาการไอแห้ง ๆ ได้เหมือนกัน เนื่องจากกรดในกระเพาะอาหารทำให้ระคายเคืองที่บริเวณคอ และปอดนั่นเองค่ะ
3. สาเหตุของการไอมีเสมหะ
อาการไอมีเสมหะมักเกิดจากการติดเชื้อ เช่น เป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ สาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ ได้แก่ หอบหืด ภูมิแพ้ และน้ำมูกไหลลงคอ ภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม และไซนัสอักเสบ อาจทำให้ไอมีเสมหะได้เช่นกัน หากบุคคลมีอาการไอมีเสมหะนานกว่าสองสามสัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ
4. วิธีแก้อาการไอ
การไออาจถือเป็นเรื่องธรรมดาของร่างกายในการล้างสิ่งระคายเคืองในทางเดินหายใจออกมา เช่น ฝุ่น และเศษละอองชนิดอื่น ๆ โดยอาการไอสามารถเป็นได้ทั้งแบบแห้ง หรือแบบไอปกติ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปแล้วเกิดมีเสมหะร่วมด้วย สิ่งที่จะช่วย ช่วยบรรเทาอาการไอได้นั้น เราอาจจะต้องทำการดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ซึ่งหากเราดื่มน้ำมาก ๆ สิ่งนี้จะช่วยให้เสมหะบางลง และทำให้มีการขับออกได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย ในส่วนของเมนทอลคอร์เซ็ตก็สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ และลดอาการไอได้เหมือนกัน และนอกจากวิธีอื่น ๆ ที่น่าสนใจแล้วนั้นการสูดดมไอน้ำก็ยังสามารถช่วยให้เสมหะคลายตัวและทำให้ทางเดินหายใจโล่งได้มากเลยทีเดียวค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไอ เกิดจากอะไรได้บ้าง อันตรายไหม มีวิธีรักษายังไง
5. การเยียวยาอาการไอแห้ง
อาการไอแห้งเกิดจากการระคายเคืองในลำคอ หรือปอด ซึ่งอาจเกิดจากภูมิแพ้ เป็นหวัด หรือเป็นไข้หวัด หนึ่งในวิธีแก้ไอแห้งที่พบได้บ่อยที่สุดคือการดื่มน้ำมาก ๆ เช่น น้ำเปล่า และชาสมุนไพร นอกจากนี้คุณอาจจะลองสูดไอน้ำจากการอาบน้ำอุ่นหรือใช้เครื่องทำความชื้นในห้องนอนของคุณได้ บอกเลยค่ะว่าเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้อาการที่ไอที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ดีขึ้นได้มาก ๆ เลยล่ะค่ะ นอกเหนือจากนี้เราอาจจะใช้ยาในการรักษาร่วมด้วย อาทิเช่น ยาแก้แพ้ และยาลดน้ำมูก ช่วยในการรักษาได้เช่นกัน หากอาการไอแห้ง ๆ ของคุณยังคงอยู่นานกว่าหนึ่งสัปดาห์ เราไม่ควรนิ่งนอนใจจนเกินไปนะคะ เราควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อที่คุณหมอจะได้รักษาได้อย่างถูกวิธีนะคะ
6. การรักษาอาการไอมีเสมหะ
โดยทั่วไปแล้วการไอแบบมีเสมหะเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ และต้องได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากการไอแห้ง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการไอประเภทนี้คือ หลอดลมอักเสบ ซึ่งเป็นการอักเสบของทางเดินหายใจที่อาจเกิดจากไวรัส หรือแบคทีเรีย โดยทั่วไป การรักษาอาการไอแบบมีเสมหะจะเน้นไปที่การลดการอักเสบ และทำให้เสมหะคลายตัว ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ ยาลดน้ำมูก และยาอื่น ๆ นอกจากนี้ การดื่มน้ำมาก ๆ และใช้เครื่องเพิ่มความชื้นสามารถช่วยลดความรู้สึกไม่สบายและทำให้เสมหะขับออกได้ง่ายขึ้นเหมือนกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตัวช่วยคุณแม่ยุคใหม่ รับมือ อาการไอ ช่วงปลายฝนต้นหนาว
7. สาเหตุทั่วไปของการไอ
อาการไอเป็นอาการทั่วไปที่มักบ่งชี้ถึงการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย อย่างไรก็ตาม อาการไอยังสามารถเกิดขึ้นได้อีกหลายสาเหตุยกตัวอย่างเช่น ภูมิแพ้ หอบหืด การสูบบุหรี่ และยาบางชนิด เป็นต้น เท่านั้นยังไม่พอ สิ่งที่จะทำให้เราเกิดอาการไอขึ้นมาได้นั้น อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุเหล่านี้ได้เช่นเดียวกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
- การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ และปอดบวม
- โรคหอบหืดและปัญหาการหายใจอื่น ๆ เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง
- โรคภูมิแพ้ เช่น ไข้ละอองฟางหรือไรฝุ่น
- โรคกรดไหลย้อน (GERD)
- การสูบบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่มือสอง
- การสัมผัสกับสารมลพิษและสารระคายเคือง
- ยา เช่น ACE inhibitors และ beta-blockers
8. การรักษาอาการไอ
การรักษาอาการไอ อาการไอสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะทั่วไป เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้คัดจมูก และยาขับเสมหะ ซึ่งยาเหล่านี้สามารถลดการอักเสบในทางเดินหายใจ และช่วยสลายน้ำมูกได้ ทำให้เราสามารถขับเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น หรือบางคนก็อาจใช้ยาระงับอาการไอตอนกลางคืนเพื่อช่วยหยุดอาการไอตอนกลางคืนได้เช่นกัน แต่ไม่ควรใช้นานเกิน 14 วัน หากไอนานกว่านี้ ให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ครอบคลุมมากขึ้น
จากข้อมูลข้างต้น อาการไอถือเป็นอาการทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาวะต่าง ๆ อาการไอแห้งอาจเกิดจากภูมิแพ้ การติดเชื้อทางเดินหายใจ หอบหืด และยาบางชนิด ในส่วนอาการไอมีเสมหะอาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ เป็นต้น ซึ่งในการหาวิธีรักษาที่ดีที่สุดสำหรับการไอ สิ่งสำคัญคือต้องทราบสาเหตุ และวิธีการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม หากอาการยังไม่ดีขึ้น ทางที่ดีเราควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุดค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แก้อาการลูก ไอเรื้อรัง 6 วิธีบรรเทาอาการไอ ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วยนาน
ทารกไอ ลูกน้อยไอ ลักษณะอาการไอของทารกที่คุณแม่ควรรู้
ลูกไอแห้งๆ ไอเสียงวี้ด ไอตอนกลางคืน ลูกไอแบบไหนอันตราย วิธีสังเกตอาการไอของทารก
ที่มา : bangkokhospital.com, th.mamypoko.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
