อาการปวดหัวเป็นอาการทางการแพทย์ทั่วไปที่สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย อย่างไรก็ตาม หลายคนไม่ทราบว่าอาการ ปวดหัวคิ้ว อาจเป็นปัญหาที่อาจมาจากอาการปวดศีรษะรูปแบบหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในบริเวณรอบดวงตา และมักมีอาการปวดบริเวณหน้าผาก ขมับ รวมไปถึงบริเวณรอบดวงตาร่วมด้วย อาการปวดหัวคิ้วมีสาเหตุที่แตกต่างกันเล็กน้อย และความรุนแรงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
สาเหตุที่เป็นไปได้ ที่ทำให้เกิดอาการ ปวดหัวคิ้ว
อาการปวดหัวคิ้วเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการปวดหัวที่เกิดมาจากอารมณ์ หรือความรู้สึกที่มีความตึงเครียด มักเกิดจากความตึง และจุดกระตุ้นในกล้ามเนื้อ และพังผืดบริเวณคิ้ว และขมับ บริเวณที่เกิดการตึงเหล่านี้ อาจส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งอาจลามไปถึงบริเวณโดยรอบไม่ว่าจะเป็นดวงตา หน้าผาก และบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า ความเครียดรวมไปถึงความเมื่อยล้า ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการปวดหัวคิ้วได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังสามารถเกิดได้จากภาวะต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น ไซนัสอักเสบ และอาการปวดตาที่อาจทำให้ปวดหัวคิ้วได้เช่นกัน เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ปวดหัวข้างซ้าย ปวดหัวข้างเดียว มีสาเหตุจากอะไร และอันตรายอย่างไร
วิดีโอจาก : คุยเรื่องสมอง กับหมอนุ่ม
สัญญาณ และอาการของความเสี่ยงปวดหัวคิ้ว
สัญญาณ และอาการที่พบได้บ่อยที่สุดอย่างหนึ่งของอาการปวดหัวคิ้ว คือ ความรู้สึกหม่น ๆ ตุบ ๆ ที่บริเวณเหนือคิ้วโดยตรง ความเจ็บปวดนี้อาจรุนแรงขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของดวงตา หรือเมื่อคุณสัมผัสกับแสงที่จ้ามากเกินไป เช่น การมองหน้าจอมือถือ หรือจอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น อาการทั่วไปอื่น ๆ ได้แก่ ความไวต่อแสง และเสียงที่เพิ่มขึ้นจะสามารถทำให้มีอาการปวดรอบขมับ และดวงตาได้
ในบางบุคคลอาการปวดอาจส่งผลกระทบไปถึงการปวดคอ และไหล่ หากอาการปวดหัวคิ้วยังคงอยู่นานกว่า 2 – 3 ชั่วโมง หรือมีท่าทีว่าไม่ได้บรรเทาลง มีอาการที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ อย่ารอช้า ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจโดยด่วน
3 วิธีช่วยบรรเทา รักษาอาการปวดหัวคิ้ว
เมื่อพูดถึงการรักษาอาการปวดหัวบริเวณคิ้ว มีตัวเลือกอยู่หลายช่องทางที่เราสามารถช่วยแนะนำได้ ตัวเลือกแรก คือ ใช้ยาบรรเทาปวดที่จำหน่ายโดยเภสัชกร เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นต้น สิ่งนี้สามารถช่วยลดความเจ็บปวด และการอักเสบที่เกิดจากอาการปวดหัวได้ อีกทางเลือกหนึ่งคือการประคบเย็น หรือประคบน้ำแข็งที่บริเวณนั้นเพื่อลดอาการบวม สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ หรือจะเป็นวิธีสุดท้าย คือ การไปพบแพทย์สามารถช่วยระบุสาเหตุของอาการปวดที่อาจซ่อนอยู่ และพิจารณาว่าจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีไหนหรือไม่
1. ยาแก้ปวดที่ขายตามร้านยา
ยาแก้ปวดที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ร้านยาต่าง ๆ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือพาราเซตามอล (Paracetamol) นอกจากนี้ยังมียาชนิดอื่น ๆ แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรสอบถามเภสัชกร หรือแพทย์ก่อน อย่าตัดสินใจซื้อยาใด ๆ มาทานเองโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การกินยาง่าย ๆ นี้ เป็นวิธีทั่วไปที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวบริเวณคิ้วได้ ยาเหล่านี้ทำงานโดยลดการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดหัวชั่วคราว นอกจากนี้ให้แน่ใจว่าศึกษาวิธีการกิน และจำนวนการกินอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
2. เพิ่มการพักผ่อนง่าย ๆ ที่บ้าน
การเยียวยาอาการปวดที่บ้าน สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวบริเวณคิ้ว และความรู้สึกไม่สบายที่เกี่ยวข้องกับอาการนี้ได้ ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก เช่น ให้พักผ่อนให้เพียงพอ และใช้การประคบเย็นบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อลดการอักเสบ และบวมในบริเวณนั้น นอกจากนี้การดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น ร่วมกับการรับประทานยาที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้อาการปวดบรรเทาได้เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในบางกรณีการทาน้ำมันหอมระเหย เช่น ลาเวนเดอร์ หรือยูคาลิปตัส หรือครีมทาเฉพาะที่ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์เช่นกัน สุดท้ายการประคบอุ่น หรือการอาบน้ำอุ่นให้สบายตัว สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบริเวณที่มีอาการปวดได้ด้วย
3. ตัวเลือกสำคัญคือการเข้าพบแพทย์
นอกเหนือจากการกินยาที่ซื้อมาจากร้านยา และการเยียวยาบรรเทาอาการปวดด้วยตนเองที่บ้านแล้ว ยังมีตัวเลือกการรักษาทางการแพทย์สำหรับผู้ที่มีอาการปวดหัวบริเวณคิ้วอีกด้วย ถือเป็นวิธีโดยทั่วไปที่ควรทำ กรณีอาการปวดไม่หาย หรือรุนแรงมากขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้รับประทานยาที่แตกต่างจากตัวยาเดิม หรือแนะนำการทำกายภาพบำบัดบรรเทาอาการปวด เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงว่าอาการปวดมาจากไหน หากมีสาเหตุที่ร้ายแรง เช่น โรคร้ายต่าง ๆ การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ จะทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์ ?
หากอาการปวดหัวคิ้วของคุณมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ สับสน หรืออาเจียน เป็นต้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้หากอาการปวดหัวคิ้วของคุณยังคงอยู่ และไม่ดีขึ้นกินเวลาหลายชั่วโมง คุณควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจ สามารถช่วยแยกแยะอาการ และสาเหตุของอาการปวดได้ รวมไปถึงอาการปวดที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้แม้อาการปวดจะไม่หนัก เป็นแล้วหาย แต่ถ้าหากเป็นบ่อย หรือทำให้ไม่สบายใจ การเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจ และรับคำแนะนำในการรักษาก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
จะป้องกันอาการปวดหัวคิ้วได้อย่างไรบ้าง ?
หนึ่งในวิธีที่ช่วยในการป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการอาการปวดหัวคิ้ว คือ การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก ด้วยการเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ปวดกรณีรู้ที่มาของอาการอย่างแน่ชัด โดยปกติแล้วหากไม่ได้มีโรคร้ายใด อาการปวดหัวคิ้วมักมาจากหลายสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้ เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า การรับประทานอาหาร และผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เป็นต้น โดยเฉพาะการจัดการระดับความเครียด จะช่วยป้องกันอาการปวดหัวคิ้วได้ในระยะยาว เพราะคนส่วนมากมักมีอาการปวดจากสาเหตุความเครียดเป็นหลัก นอกจากนี้หากคุณรู้สึกปวดหัว สิ่งสำคัญ คือ อย่าลืมที่จะบรรเทาอาการปวด อย่าปล่อยไว้ เพราะคิดว่าจะหายไปเอง
สาเหตุของอาการปวดหัวคิ้วนั้นบางรายก็ยากที่จะระบุได้ ทั้งจากสาเหตุความเครียด อาการแพ้ หรือความเมื่อยล้าของดวงตา เป็นต้น แต่อาการปวดเหล่านี้สามารถวนกลับมาได้ จนหลายคนรู้สึกว่าชินแล้ว คงไม่ต้องหาหมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด เพราะอาการปวดหัวไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายได้ด้วย หากสงสัยในอาการตนเอง อย่าพลาดที่จะไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำตอบที่ชัดเจนที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องปวดหัว กินพาราได้ไหม ปวดหัวไมเกรน อันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า
5 วิธีรักษาอาการปวดหัว ให้กับคุณแม่ที่ทำได้เอง
อาการปวดหัวตอนท้อง คนท้องปวดหัวกินยาอะไร ตั้งครรภ์ ปวดหัวแบบนี้อันตรายหรือเปล่า
ที่มา : rama.mahidol.ac.th, phyathai.com