X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

8 เคล็ดลับเพิ่มความฉลาดให้ลูก

25 Aug, 2016

พ่อแม่ทุกคนต่างเลี้ยงลูกมาก็หวังต้องการให้ลูกได้เป็นคนเก่ง คนฉลาด เพื่อที่จะใช้ชีวิตในสังคมเมื่อเขาเติบโตขึ้นได้ดี นี่คือเคล็ดลับที่จะเพิ่มความฉลาดให้ลูกแบบง่าย ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

#1 เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

#1 เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

มีผลงานวิจัยหลาย ๆ ชิ้นต่างแสดงตรงกันไว้ว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นมีผลดีกับทารก เพราะนอกจากนมแม่จะเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนแล้ว นมแม่ยังเป็นวัคซีนธรรมชาติที่ช่วยป้องกันโรคติดเชื้ออันตรายต่อลูกน้อย และกลายเป็นอาหารสมองของลูกที่สำคัญยิ่ง นักวิจัยชาวเดนมาร์กพบว่านมแม่สามารถทำให้เด็กฉลาดขึ้นพร้อม ๆ กับสุขภาพดีด้วย ดังนั้นหากคุณแม่สามารถให้ลูกได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกินจนถึงอายุ 1 ขวบหรือมากกว่านั้น ก็จะเป็นผลดีต่อลูกในระยะยาวทีเดียว

Read : 8 วิธีให้ลูกได้กินนมจากอกแม่จนครบขวบ
#2 อย่าละเลยการอ่าน

#2 อย่าละเลยการอ่าน

ถึงแม้ว่ายุคนี้อะไร ๆ ก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างไอคิว แต่การอ่านก็คือวิธีที่เห็นผลจริงที่สุดสำหรับการพัฒนาสติปัญญาและทักษะของเด็ก ๆ ได้ในทุกวัย เริ่มต้นอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่อายุยังน้อย และส่งเสริมการเป็นนักอ่านเมื่อลูกเริ่มอ่านหนังสือเป็น พาลูกเข้าห้องสมุด และมีหนังสือติดบ้านไว้ เพิ่มความฉลาดให้ลูกเห็น ๆ
#3 เลิกกินอาหารขยะ

#3 เลิกกินอาหารขยะ

อาหารขยะไม่ใช้อาหารจานหลักที่ควรจะให้ลูกได้กินบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็ก ๆ ได้กินน้ำตาล ไขมันทรานส์ และให้พวกเขาได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ กินอาหาร 5 หมู่ที่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายและสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการทางอารมณ์และการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในช่วงสองปีแรก นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่บ่งชี้ว่า เด็กที่ไม่ได้รับสารอาหารที่ดีจะมีปัญหากับโรคติดเชื้อ ซึ่งเป็นผลกระทบที่ทำให้ต้องหยุดเรียนและล้าหลังไปจากเพื่อนด้วย
#4 เล่มเกมกันไหม

#4 เล่มเกมกันไหม

แน่นอนว่าการให้เด็กได้เล่นเกมในแอพ แทปเล็ต คอมพิวเตอร์ ดูเหมือนเป็นตัวเลือกที่ไม่มีประโยชน์ซักเท่าไหร่ แต่หากพ่อแม่สามารถเลือกเกมดี ๆ อย่างเกมที่เกี่ยวกับกระบวนการคิดกลยุทธ์และกางวางแผน หรือเกมที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ สร้างทักษะการเคลื่อนไหว และความจำสำหรับเด็กเล็ก โดยแบ่งเวลาให้เด็กได้ใช้ได้เล่นอย่างถูกต้องก็จะช่วยพัฒนาสมองของลูกได้เหมือนกัน
#5 ให้ลูกได้กินอาหารเช้าทุกวัน

#5 ให้ลูกได้กินอาหารเช้าทุกวัน

มีงานวิจัยจำนวนมากตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 เป็นต้นมา ชี้ให้เห็นว่าการกินอาหารเช้าช่วยเสริมสร้างความจำ สมาธิ และการเรียนรู้ได้ เด็กที่ไม่ได้กินอาหารเช้ามีแนวโน้มที่จะเหนื่อยง่ายกว่า อารมณ์ไม่ดี ขี้รำคาญ และมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่ช้ากว่ากลุ่มเด็กที่ได้รับประทานอาหารเช้า ถึงแม้ว่าในยุคปัจจุบันที่จำเป็นต้องเร่งรีบออกนอกบ้าน และนั่งกินอาหารเช้าบนโต๊ะอาหารที่บ้านไม่ได้เต็มที่ แต่แค่ลูกได้กินซีเรียล+นมอีกหนึ่งแก้ว ก็จัดเป็นอาหารอิ่มท้อง หรือการทำอาหารง่าย ๆ ไปทานบนรถขณะไปโรงเรียน ก็ช่วยให้ลูกได้กินมื้อเช้าและมีสมาธิ สมองที่สดใส พร้อมรับการเรียนรู้ทั้งวันได้แล้ว

Read : เทคนิคทําอาหารเช้าให้ทันก่อนลูกไปโรงเรียน
#6 สอนให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง

#6 สอนให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง

นักจิตวิทยาเด็กแนะนำให้พ่อแม่ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ลูก ๆ มีความมั่นใจในตนเอง โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังโต เช่น การให้ลูกได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือเล่นกีฬาในสังคมร่วมกับเด็กคนอื่น เพื่อทำให้ลูกรู้จักความกล้าแสดงออก มีความกล้าคิด ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมความฉลาดให้กับลูกได้

Read : 17 วิธีเลี้ยงลูกให้มีความมั่นใจ
#7 ให้ลูกเล่นเท่ากับได้ออกกำลังกาย

#7 ให้ลูกเล่นเท่ากับได้ออกกำลังกาย

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งอิลินอยส์แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างชัดเจนระหว่างความแข็งแรงของร่างกายกับความสำเร็จทางวิชาการของเด็ก ๆ ประถม โดยการให้เด็กได้เล่นกีฬาออกกำลังกายนั้นจะช่วยสร้างความมั่นใจและเสริมสร้างความเป็นผู้นำของเด็กได้ ดังนั้นการปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระหลังจากเลิกเรียน หรือการสนับสนุนให้ลูกสนใจในกีฬาที่เขาชอบอย่างใดอย่างหนี่ง ก็จะเป็นส่วนเพิ่มความฉลาดให้ลูกได้ดีทีเดียว
#8 ส่งเสริมเด็กขี้สงสัย

#8 ส่งเสริมเด็กขี้สงสัย

เมื่อพ่อแม่สังเกตว่าลูกเป็นเด็กขี้สงสัย ช่างสังเกต คอยถามนู้นนี่ตลอดเวลา ควรคิดเสมอว่านั้นคือสิ่งที่ทำให้ลูกได้ความรู้และเป็นบทเรียนนอกตำราที่สำคัญสำหรับพวกเขา ดังนั้นควรส่งเสริมและเป็นไกด์ในการช่วยลูกให้หาคำตอบจากความคิดของเขา หรือสนับสนุนความสนใจของลูกด้วยการตั้งคำถามต่าง ๆ สอนให้ลูกได้ทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ พาลูกออกไปท่องเที่ยวและได้เจอเรียนรู้กับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในที่ต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นการช่วยพัฒนาความช่างสงสัยและส่งเสริมต่อสติปัญญาของลูกได้
ถัดไป
img

บทความโดย

Napatsakorn .R

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 8 เคล็ดลับเพิ่มความฉลาดให้ลูก
แชร์ :
  • ก็เลิกกันแล้วให้มันจบๆ ไป ผัวเมียเลิกกัน ทำไมต้องด่ากัน?

    ก็เลิกกันแล้วให้มันจบๆ ไป ผัวเมียเลิกกัน ทำไมต้องด่ากัน?

  • ทำไมไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ การห้ามน้ำตา ทำร้ายใจเด็ก มากกว่าที่คิด!

    ทำไมไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ การห้ามน้ำตา ทำร้ายใจเด็ก มากกว่าที่คิด!

  • ถามถูกจุด ลูกฉลาดได้จริง: เคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย

    ถามถูกจุด ลูกฉลาดได้จริง: เคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย

  • ก็เลิกกันแล้วให้มันจบๆ ไป ผัวเมียเลิกกัน ทำไมต้องด่ากัน?

    ก็เลิกกันแล้วให้มันจบๆ ไป ผัวเมียเลิกกัน ทำไมต้องด่ากัน?

  • ทำไมไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ การห้ามน้ำตา ทำร้ายใจเด็ก มากกว่าที่คิด!

    ทำไมไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ การห้ามน้ำตา ทำร้ายใจเด็ก มากกว่าที่คิด!

  • ถามถูกจุด ลูกฉลาดได้จริง: เคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย

    ถามถูกจุด ลูกฉลาดได้จริง: เคล็ดลับ ตั้งคำถามกระตุ้นสมองตามวัย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว