8 ซุปเปอร์ฟู้ดช่วยบำรุงสมองลูกตั้งแต่ในครรภ์

ไข่เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโคลีน โปรตีน และธาตุเหล็ก ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการใช้พัฒนาระบบการทำงานของสมอง โดยเฉพาะโคลีนที่จะทำหน้าที่สำคัญต่อการพัฒนาการทำงานของสมอง ระบบความจำ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนา ในสหรัฐอเมริกา ค้นพบว่าสมองของทารกที่มารดารับประทานอาหารที่มีโคลีนนั้นจะมีพื้นที่การจดจำ และความสามารถในการจำมากกว่า ในเมื่อไข่มีประโยชน์ต่อระบบสมองของลูกขนาดนี้ ก็อย่าพลาดทานไข่กันให้ได้ทุกวันนะคะ อย่างน้อยวันละ 1 ฟอง สำหรับคุณแม่ท้องจะต้องการโคลีน 450 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งไข่แดงจะมีปริมาณโคลีนมากกว่าไข่ขาว ในไข่ต้ม 1 ฟองจะได้รับโคลีนประมาณ 113 มิลลิกรัม

ถั่วเลนทิล เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการผลิตสารเคมีในสมอง การสร้างเยื่อหุ้มไมอีลินสำหรับหุ้มเซลล์ประสาท ทำให้การส่งสัญญาณประสาทมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีความสำคัญในการสร้างสารโดปามีนซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญานกระแสประสาทในสมอง ถั่วเลนทิลนอกจากจะมีธาตุเหล็ก ก็ยังมีวิตามินซีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมนูจากถั่วเลนเทล เช่น ซุปถั่วเลนทิล สลัดผักใส่ถั่วเลนทิล เป็นต้น

ผักโขมเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลต ซึ่งโฟเลตมีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมสร้างให้หลอดประสาทและสมองที่สมบูรณ์ของทารกในครรภ์ ในคุณแม่ตั้งครรภ์ร่างกายจะต้องการโฟเลตในปริมาณที่เพิ่มขึ้นกว่าก่อนตั้งครรภ์ถึง 50% คือจาก 400 ไมโครกรัม เพิ่มเป็น 600-1,000 ไมโครกรัมต่อวัน ผักโขมที่ปรุงสุกจะให้ปริมาณโฟเลตกับร่างกายอยู่ที่ 262.8 ไมโครกรัม ฉะนั้นการทานผักโขมในระหว่างตั้งครรภ์ก็ถือเป็นตัวช่วยที่ดีกับสุขภาพร่างกายของแม่ท้องเอง และก็ยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะความแข็งแรงสมบูรณ์ของระบบประสาท

เมล็ดฟักทองเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยซิงค์ หรือที่เรียกว่าสังกะสี ซึ่งมีความสำคัญสำหรับโครงสร้างของสมองสังกะสี เป็นส่วนหนึ่งของเอ็นไซม์ คาร์บอร์นิคแอนไฮเดรส (Carbonic Anhydrase) ซึ่งพบว่าเอ็นไซม์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงานอย่างสมดุลของระบบประสาทสมอง ระหว่างการตั้งครรภ์ร่างกายต้องการสังกะสีประมาณ 7 มิลลิกรัมต่อวัน อร่อยง่ายๆ กับเมล็ดฟักทองคือ โรยในสลัดผัก เค้กเมล็ดฟักทอง เมล็ดฟักทองคั่ว เป็นต้น

กรีกโยเกิร์ต(Greek Yoghurt) เป็นแหล่งอาหารที่มีไอโอดีน องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าการขาดสารไอโอดีนในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพ เช่น มีอัตราการคลอดก่อนกำหนดมากขึ้นกว่าปกติ ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายไม่เพียงพอ ฯลฯ ระหว่างตั้งครรภ์ควรได้รับไอโอดีนวันละ 140 ไมโครกรัมมิลลิกรัม สำหรับกรีกโยเกิร์ตจะให้ปริมาณไอโอดีนอยู่ที่ 50-100 ไมโครกรัมมิลลิกรัม ไอโอดีนสำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เพราะเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นในการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ไอโอดีนเพื่อสร้างฮอร์โมน ชื่อว่า “ธัยร็อกซิน” ฮอร์โมนนี้จำเป็นสำหรับควบคุมการทำหน้าที่ และเสริมความเจริญเติบโตตามปกติของสมอง ระบบประสาท และเนื้อเยื่อของร่างกาย สำหรับคุณแม่ท้องที่อยากทานกรีกโยเกิร์ตสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป จะทานกรีกโยเกิร์ตให้อร่อยควรผสมผลไม้สดอย่างบลูเบอร์รี่ ถั่วอัลมอนด์ หรือกล้วยหอม เป็นต้น หรือหากหากรีกโยเกิร์ตไม่ได้ให้ทานเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติก็ได้ประโยชน์ดีต่อสุขภาพแม่ท้องเหมือนกันค่ะ

มันหวานเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยเบต้า แคโรทีน ซึ่งเบต้าแคโรทีนจะถูกร่างกายแปลงเป็นวิตามินเอ ที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลางของทารก ในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายต้องการเบต้าแคโรทีนประมาณ 700 ไมโครกรัมต่อวัน (มันเทศเนื้อสีส้มจะมีความเข้มข้นของเบต้าแคโรทีนสูง)

อะโวคาโดเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว และยังมีกรดโอเลอิกสูงที่ช่วยในการสร้าง และรักษาไมอีลีนในสมองช่วยเคลือบป้องกันไขมันรอบเส้นประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง ในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายต้องการ 25-35% ของแคลอรีต่อวัน ซึ่งก็ควรมาจากไขมันไม่อิ่มตัว อะโวคาโคใช้ทาแซนด์วิช หรือจะใส่ในอาหารจานสลัดก็อร่อยได้สุขภาพ และดีต่อสมองทารกในครรภ์