7 อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ใครที่กินอาหารแล้วกลัวอ้วน กินอาหารเพื่อสุขภาพไม่อ้วนแน่นอน

อาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลาย ๆ คนที่กินอาหารแล้วกลัว หรือกังวลว่ากินอาหารอะไรที่ดีต่อสุขภาพกันอยู่ใช่ไหม วันนี้ทางเราเลยหา อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารกินแล้วไม่อ้วนมาให้ได้ดูกัน ว่าจะมีอะไรบ้างที่กินแล้วดี กินแล้วไม่อ้วน

1. อะโวคาโด

มาที่อาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างแรกกันเลย อะโวคาโด เป็นผลไม้พื้นของประเทศเม็กซิโก และอะโวคาโดนั้นยังเป็นที่นิยมในหมู่คนที่รักสุขภาพมาก ๆ อีกด้วย อะโวคาโดมีวิตามิน และแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอยู่มากมาย ถึงแม้ว่าอโวคาโดนั้นจะเป็นผลไม้ ที่มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ไขมันในอะโวคาโดนั้นเป็นไขมันที่ดีไฟเบอร์สูง

คุณค่าทางอาหาร

• ช่วยลดน้ำหนัก

ใครที่กำลังอยากที่จะลดน้ำหนัก การทานอะโวคาโดจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เนื่องจากอะโวคาโดนั้น เป็นผลไม้ที่มีไปเบอร์สูง แต่มีคาร์โบไฮเดต และน้ำตาลนั้นในปริมาณที่ต่ำ รวมทั้งยังมีกรดโอเลอิก ที่ยังช่วยเรื่องของการกระตุ้นสมองให้อิ่มเร็ว ไม่หิวบ่อย อีกทั้งยังสามารถช่วยลดไขมันไม่ดีในเลือดให้ลดลงอีกด้วยนะ

• ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

อะโวคาโด นั้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งที่รวบรวมไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเอาไว้ หากได้รับประทานอะโวคาโดอย่างเป็นประจำก็จะช่วยเรื่องของการลดไขมันที่ไม่ดี และเป็นคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ซึ่งช่วยให้ไม่เกิดไขมันสะสมในเส้นเลือดได้

• โปรตีนสูง

โปรตีนในอะโวคาโดนั้นมีอยู่สูงมาก โดยโปรตีนในอะโวคาโดนั้นเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีจึงไม่ทำให้ท้องผูกจึงเกี่ยวโยงกับการช่วยลดน้ำหนัก

• บำรุงสายตา

นอกจากอะโวคาโดนั้นมีวิตามินเอที่บำรุงเรื่องสายตาแล้ว อะโวคาโดยังมีสารที่เรียกว่าลูทีน และซีแซนทีน ที่มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคฃต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อมได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 เมนูอะโวคาโด จะสายไหนก็อร่อยไปพร้อม ๆ กับมีสุขภาพที่ดีได้

2. บร็อคโคลี่

บร็อคโคลี่เรียกได้ว่าเป็นผักที่ได้รับความนิยมรับประทานกันเป็นอย่างมาก  บร็อคโคลี่จัดอยู่ในกลุ่มดอกกะหล่ำ มีลักษณะเป็นดอกสีเขียวเข้ม มีรสชาติออกไปทางหวานกรอบ และบร็อคโคลี่สามารุที่จะนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายอย่าง บล็อคโคลี่อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินดี แมกนีเซียม เหล็ก เบต้าแคโรทีน ลูทีน แคโรทีนอยด์ โฟเลต มีสารซัลโฟรา และสารอินดอลซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ นอกจจากนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย

คุณค่าทางอาหาร

• บำรุงหัวใจ
• ช่วยในการบำรุงสายตา
• ลดการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
• ปกป้องผิวจากมะเร็งผิวหนัง
• ป้องกันการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม

3. เลมอน

เลมอน มีปริมาณวิตามินซีสูง เส้นใยที่ละลายน้ำได้ และสารประกอบพืชที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เลมอนอาจจะช่วนลดน้ำหนัก และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคโลหิตจาง นิ่ว ไต ปัญหาทางเดินอาหาร และมะเร็ง เลมอนไม่เพียงแต่เป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีรสชาติ และกลิ่นที่ดีอีกด้วยนะ

คุณค่าทางอาหาร

• ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันหวัด
• เลมอนมีสารที่ช่วยต่อต้านมะเร็งอยู่หลายชนิด
• ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
• มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
• น้ำเลมอนช่วยบำรุงตับและกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีได้มากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติตลอดทั้งวัน
• ช่วยทำความสะอาดลำไส้ กำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้

4. ผักโขม

ผักโขมนั้นอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และกรดอะมิโนทีจำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้สนวิตามินหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินเค และยังเป็นผักที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้แล้วในผักขมยัังอุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซีม และแมงกานีส ซึ่งถ้าร่างกายได้ขาดสารอาการเหล่านี้จะทำให้ร่างกายนั้นอ่อนแรง และกำลังในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายทำงานได้ไม่ค่อยเต็มที่ ผักโขมนั้นมีแระโยชน์อยู่หลากหลายชนิดเลย

คุณค่าทางอาหารของผักโขม

• บำรุงสายตา
• ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด, มะเร็งกระเพาะอาหาร
• เสริมสร้างบำรุงกำลัง
• ช่วยดับพิษในร่างกาย
• บำรุงครรภ์ และบำรุงนม

บทความที่เกี่ยวข้อง : 6 ผักเพื่อสุขภาพ กินผักอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด และควรกินเท่าไหร่ถึงจะดีต่อสุขภาพ?

5. ผักเคล

ผักเคล เรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งผักใบเขียว ผักเคลนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และผักเคลนั้นไม่ได้อัดแน่นไปด้วนสารต้านอนุมูลอิสระเหมือนผักอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยธาตุเหล็กในปริมาณมาก ถึงขนาดที่เนื้อสัตว์ก็ยังสู้ไม่ได้เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นคือยังมีแคลเซียมที่สูงกว่านมวัวถึง 3 เท่ากันเลยทีเดียว และสูงกว่าผักขมถึง 14 เท่าเลย อีกทั้งผักเคลนั้น ยังมีแคลอรีต่ำ มีไฟเบอร์ที่สูง และไม่มีไขมัน

คุณค่าทางอาหาร

• มีแคลเซียม มากกว่า นม ช่วยบำรุงกระดูกเหมาะสำหรับคนแพ้นมวัว
• วิตามิน K ช่วยสร้างความแข็งแรงของกระดูก
• วิตามิน C มากกว่าผักโขม 10%
• มีธาตุเหล็ก มากกว่า เนื้อวัว
• มีกรดไขมัน Omega 3 ช่วยลดคอเลสเตอรอล
• แคลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ
• มีโฟเลต และวิตามินบีช่วยบำรุงสมอง
• ค่าสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่าแครนเบอร์รี่ที่ 1,750 ตามค่า ORAC ของ USDA

6. แซลมอน

ปัจจุบันการรับประทานเนื้อปลาแซลมอนเป็นเรื่องง่าย เพราะไม่ว่าที่ไหนก็มีจำหน่าย จะเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เจอปลาแซลมอนหั่นให้เรียบร้อยพร้อมรับประทานหรือจะเดินห้างก็จะเจอร้านอาหารญี่ปุ่นเรียงยาวให้เราเลือก นอกจากความอร่อยของปลาแซลมอนที่หนึบหนับ และหวานแบบธรรมชาติ คุณประโยชน์ของมันก็แจ๋วไม่แพ้กับรสชาติเหมือนกัน

คุณค่าทางอาหาร

• ช่วยรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
• ช่วยรักษาสุขภาพหัวใจ และระบบหลอดเลือด
• รักษาสายตา และป้องกันโรคประสาทจอตาเสื่อม
• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ในเด็กเล็ก
• อุดมด้วยวิตามินดี ดีต่อร่างกาย
• ช่วยให้นอนหลับลึก และหลับสนิทตลอดทั้งคือ

7. มันเทศ

มันเทศ เป็นพืชที่มีหัวอยู่ใต้ดิน มีเนื้อในหลากหลายสีสีนตามแต่ละสายพัันธุ์ เช่น สีขาว สีเหลือง สีแดง หรือสีม่วง เป็นต้น ในันเทศมีเอนไซม์ที่สามารถเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลได้ โดยมันเทศจะมีรสหวานยิ่งขึ้น เมื่อมีการเก็บไว้เป็นเวลานาน หรือนำไปทำหรือปรุงอาหาร วิธีประกอบอาหารส่วนใหญ่ที่คนนั้นนิยมไปทำ คือ นำไปต้ม นึ่ง อบ หรือนำไปทอด ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย ผู้คนจึงเชื่อกันว่ามันเทศอาจจะมีผลดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน

คุณค่าทางอาหาร

• รักษาภาวะขาดวิตามิน เอ
• ป้องกันอาการท้องผูก
• รักษาโรคเบาหวาน
• รักษาและป้องกันโรคมะเร็ง
• ป้องกันภาวะตับอักเสบ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพยอดฮิต ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

วิธีออกกำลังกาย 8 ประเภทที่ดีที่สุด สำหรับการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพดีระยะยาว

ข้าวเพื่อสุขภาพ กินข้าวแบบไหนถึงสุขภาพดี แล้วข้าวแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

เพื่อสุขภาพที่ดีขณะทำงานจากที่บ้าน เผย 11 เคล็ด(ไม่)ลับ ฉบับ Work From Home

ขออขบคุณข้อมูลจาก : nobitter , bigc