เบาใจได้เลยค่ะคุณแม่เพราะเรามีวิธีดีๆมาแนะนำกัน
-
ฝึกเล่นจำลองสถานการณ์กับลูก เตรียมความพร้อมก่อนถึงวัยเข้าเรียน
การเรียนรู้ผ่านการเล่นจะทำให้เด็กได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนาน ให้คุณแม่จะลองสถานการณ์การไปโรงเรียน สร้างบรรยากาศภายในห้องเรียนให้ลูกได้มีโอกาสเตรียมตัวให้พร้อมและรู้ตัวว่าตัวเองอาจต้องเจอสถานการณ์แบบไหน เจอกับใครบ้างเมื่อไปโรงเรียน
ฝึกให้ลูกรู้จักปรับตัวเข้ากับเพื่อนเช่นสมมุติสถานการณ์ว่าหากอยากเข้าไปเล่นกับเพื่อนไหม่ ลูกควรพูดว่าอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกในระดับหนึ่ง
-
ไปรับ-ไปส่งลูกด้วยตัวเองช่วงสัปดาห์แรก
เด็กวัย 2-3 ขวบเป็นช่วงวัยที่มีความกังวลเมื่อต้องแยกจากพ่อแม่ อาการร้องไห้งอแงช่วงไปโรงเรียนวันแรกจึงไม่ใช่เรื่องผิดปรกติอะไร สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือการสร้างความมั่นใจให้กับลูก โดยการไปส่งลูกด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่ไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน
เมื่อถึงโรงเรียนก็บอกลากันเล็กน้อย หากลูกยอมเดินเข้าไปในโรงเรียนเองก็ปล่อยให้เขาไป หรือถ้าลูกต่อรองให้ไปส่งหน้าห้องเรียน ก็ได้ แต่ไม่ต้องร่ำลากันนาน จะยิ่งทำให้เด็กรู้สึกขาดความมั่นใจเข้าไปอีก และให้สัญญากับลูกว่าจะกลับมารับตอนโรงเรียนเลิก ลูกจะได้เข้าเรียนอย่างมั่นใจว่าไม่ได้ถูกพ่อแม่ทิ้ง
และคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรแสดงท่าทีกังวลใจให้ลูกเห็นเพราะจะกลายเป็นการสร้างความกังวลใจให้ลูก ทำให้ร้องไห้หนักขึ้นไม่อยากไปโรงเรียนมากขึ้นไปอีก
-
ไปรับลูกให้ตรงเวลา
เมื่อสัญญากับลูกไปแล้วว่าจะไปรับ คุณแม่ต้องไปให้ตรงเวลา หรือไปรอลูกก่อนโรงเรียนเลิกได้ยิ่งดี เพราะเมื่อเด็กเลิกเรียนแล้ว สิิ่งแรกที่เขามองหาต้องเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยของพ่อแม่ ในช่วงสัปดาห์แรกของการไปโรงเรียนไม่ควรปล่อยให้ลูกรอหลังเลิกเรียนนานเกินไป เพราะเด็กอาจรู้สึกว่าถูกทิ้ง ทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเอง และไม่อยากไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น
-
หมั่นคุยกับลูก
หลังจากชวนลูกเล่นสมุติบรรยากาศการไปโรงเรียนไปแล้วเมื่อไปรับลูกคุณแม่ก็ควรชวนลูกคุย ถามไถ่ว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง คุณครูสวยไหม วันนี้หนูเรียนอะไรไปบ้าง เล่นอะไรกับเพื่อนคนไหนบ้าง เพื่อให้ลูกได้ทบทวนการเรียน
ให้ลูกได้แบ่งปันประสบการณ์และเปิดโอกาสให้ลูกได้พูดคุยแสดงออกถึงความรู้สึกต่างๆและความเห็นที่มีต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียนในวันนั้น ความชอบ ความไม่ชอบ และความสนุกในการเรียนและเล่นกับเพื่อนใหม่ลูกจะได้อยากมาโรงเรียนในวันต่อๆไป
-
ห้ามขู่ ห้ามบังคับ
การสร้างทัศนคติไม่ดีต่อครูให้เด็กเช่น ขู่ว่าร้องไห้เดี๋ยวครูดุ หรือจะปล่อยให้ครูตี จะเป็นการทำให้ลูกสร้างภาพคุณครูในแง่ลบ ลูกจะกลัวและไม่ไว้ใจครู กลัวครูจะทำโทษหากทำผิด หรือใช้อารมณ์ดุด่า หรือตีเมื่อลูกเริ่มร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน ก็ยิ่งทำให้เด็กเล็กเป็นกังวลจนไม่อยากไปโรงเรียน
พ่อแม่จึงควรพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล ว่าเพราะอะไรถึงต้องไปโรงเรียนคอยให้กำลังใจและเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกเพื่อให้ลูกรู้สึกอยากออกไปเรียนรู้สิ่งแวดล้อมใหม่ๆและเพื่อนใหม่ด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ
-
สอนให้ลูกรู้สึกภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง
สาเหตุหนึ่งที่เด็กไม่อยากไปโรงเรียนอาจเป็นเพราะ เขารู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าเพื่อน ทำอะไรเก่งไม่เท่าเพื่อนๆ เพราะพ่อแม่ดูแลอย่างดีไม่เคยให้ทำอะไรด้วยตัวเองเลย เด็กจึงยิ่งขาดความมั่นใจในตัวเอง และขาดความรู้สึกมั่นคงหนักเข้าไปอีก
เข้ากับเพื่อนไม่ได้จึงไม่อยากไปโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเอง เช่น อาบน้ำแต่งตัวเอง กินข้าวเอง ช่วยคุณแม่ทำอาหาร หรือช่วยหยิบข้าวของต่างๆ และชมเชยลูกทุกครั้งที่ลูกช่วยงาน หรือทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จเพื่อสร้างความรู้สึกภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเองให้ลูกทำให้ลูกรู้สึกมั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออกมากขึ้นเข้ากับเพื่อนง่าย ทำให้อยากไปโรงเรียนทุกวัน
โดยปรกติแล้วอาการโยเยไม่อยากไปโรงเรียนของเด็กเล็กจะเป็นในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการเปิดเรียน คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลมากค่ะ รอให้เด็กปรับตัวให้เข้าสังคมใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่สักระยะแล้วจะดีขึ้นเอง สำหรับเด็กที่ขึ้นอนุบาล 2 ไปจนถึง ป.3
ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ อาจมีอาการงอแงไม่อยากไปโรงเรียนบ้างเพราะติดมาจากช่วงปิดเทอมแต่ระยะเวลาในการปรับตัวจะสั้นลงไปตามวัยที่เพิ่มขึ้นแต่ถ้าถึงวัยนี้แล้วยังร้องไห้ไม่ยอมไปโรงเรียนอยู่นานเกิน 3 สัปดาห์อาจจะมีความผิดปรกติที่ส่วนอื่น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องรีบหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบ หรือพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็กเพื่อหาสาเหตุและรีบหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไปค่ะ
ที่มา : ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย, mamastory
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!