แม้จะทราบกันดีว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญมาก แต่เด็กในทุกประเทศมักจะไม่ยอมกินอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน ในประเทศไทยพ่อแม่ก็เจอกับปัญหานี้ไม่ต่างจากพ่อแม่ในชาติอื่น ๆ เช่นกัน ผลการวิจัยจากบริษัทแอ็บบ็อทในสิงคโปร์ชี้ให้เห็นว่ามีเด็กจำนวนถึง 68% ที่รีบเร่งกินอาหารเช้าให้เสร็จ ๆ ไปจะได้ลุกจากโต๊ะให้เร็วที่สุด ในขณะที่อีก 27 % ที่เหลือก็เลือกกินมากจนพ่อแม่จนปัญญาที่จะเตรียมอาหารเช้าที่มีโภชนาการครบถ้วนให้ถูกใจได้ในแต่ละวัน
นอกจากต้องอร่อยถูกปากเด็กแล้ว อาหารเช้าที่เด็กกินยังต้องให้แคลอรี่เพียงพอสำหรับเด็กที่จะเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันอีกด้วย พ่อแม่มักจะปวดหัวอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรถึงจะเตรียมอาหารสุขภาพได้แบบที่เด็กยอมกินโดยไม่อิดออด
เด็ก ๆ ที่ได้รับอาหารเช้าสุขภาพที่พอเพียงจะทำให้มีพลังงานเหลือเฟือที่จะมีสมาธิในการเรียนและเล่นได้ตลอดทั้งวัน
ส่วนเด็กที่กินมั่งไม่กินมั่งจะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนและเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้ง่าย
ลูกกินน้อย ทำไงดี
เคล็ดลับดี ๆ ง่าย ๆ ต่อไปนี้จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายไม่ต้องอกสั่นขวัญแขวนกับภารกิจการเตรียมอาหารเช้าสุขภาพที่ล้มเหลวมาตลอดอีกต่อไปแล้ว
1. ทำเมนูง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
ตอนเช้ามักเป็นเวลาที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายลืมโน่นลืมนี่เป็นประจำ ถ้าคุณคิดจะทำอาหารเช้าที่ใช้วัตถุดิบหลายอย่างและใช้เวลาเตรียมมากเกินไปแล้วละก็ ลืมไปได้เลย! นอกจากจะทำให้ชีวิตตอนเช้าของคุณยุ่งมากขึ้นกว่าเดิมโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กช่างเลือกกินจะยอมกินแต่โดยดีไหมแล้ว ยังจะทำให้คุณอารมณ์เสียแต่เช้าอีกด้วย จำไว้ว่าหาอะไรง่าย ๆ ที่มีโภชนาการครบถ้วน ที่คุณรู้แน่ ๆ ว่าลูกช่างเลือกของคุณชอบกินและกินหมดจานไม่เหลือหรอ อย่างเช่นขนมปังสังขยา ไข่ต้มที่ไม่ต้มจนแข็งโป๊ก หรือข้าวโอ๊ต เป็นต้น
2. จำกัดตัวเลือก
พ่อแม่ส่วนมากจะคิดจนหัวแทบแตกว่าจะทำอะไรให้ลูกกินเป็นอาหารเช้าดี พยายามสรรหาเมนูแปลกที่คิดว่าดีแต่ยุ่งยากวุ่นวายจนคุณเองก็อารมณ์เสีย แถมเจ้าตัวเล็กช่างเลือกยังออกฤทธิ์เดชไม่ยอมกินเสียอีก
จงจำไว้เช่นกันว่าทำอะไรที่ง่าย ๆ ไม่เสียเวลามากที่แน่ใจว่าเจ้าตัวเล็กโปรดปราน เพียงแต่เมื่อเป็นอาหารเช้าที่เด็กมักงอแงไม่อยากกินคุณต้องจำกัดวงของตัวเลือกที่รู้แน่ว่าเขาชอบและไม่เคยปฏิเสธ ให้เจ้าตัวเล็กเป็นคนเลือกเองจากตัวเลือกที่คุณกำหนดไว้ โดยถามความสมัครใจว่า “วันนี้ลูกจะกินอะไรตอนเช้า แฮมชีสแซนด์วิชหรือข้าวโอ๊ตดี” วิธีนี้คุณเป็นคนเลือกว่าจะทำอะไรง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากที่รู้แน่ ๆ ว่าเขาไม่ปฏิเสธ
แถมเขายังเป็นคนเลือกเองอีกด้วยไม่ใช่โดนบังคับให้กิน คุณจะเห็นถึงการตอบสนองที่แตกต่างแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว และเห็นว่าอาหารเช้าสุขภาพสำหรับลูกไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป
3. อย่าช้า
จำไว้ว่าเวลาเป็นตัวแปรที่สำคัญที่จะทำให้เจ้าตัวเล็กยอมกินแต่โดยดีหรือไม่ เด็ก ๆ ไม่ชอบเสียเวลานาน ๆ ที่โต๊ะอาหาร ดังนั้นทำอะไรที่ง่าย ๆ ไม่เสียเวลา ทันใจเด็กแต่ดีต่อสุขภาพและให้พลังงานที่พอเพียงสำหรับเด็กในแต่ละวัน แซนด์วิชเป็นอะไรที่เด็กชอบกินเพราะทำง่าย เร็ว คุณแค่เปลี่ยนไส้แซนด์วิชให้ดูน่ากินและมีประโยชน์อย่าให้ซ้ำซากจำเจเหมือนกันทุกวัน แค่นี้ก็เรียกความสนใจจากเจ้าตัวเล็กจอมเลือกกินแล้ว
ทำให้อาหารเช้าดูน่าตื่นเต้นสนุกสนาน
4. ทำให้อาหารเช้าดูน่าตื่นเต้นสนุกสนาน
ทำอย่างไรให้สนุกตื่นเต้น เด็กชอบการ์ตูนหรือไม่ก็สัตว์และอะไรที่มีสีสันสดใส ลองทำแซนด์วิชให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ที่เจ้าตัวเล็กชอบ ใช้สีสันของผักผลไม้ตกแต่งให้ดูน่ากินและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็ก ให้มันเป็นอาหารเช้าที่น่าสนใจว่ามันทำด้วยอะไร ทำไมแม่เก่งจัง อะไรประมาณนี้
5. ทำอาหารเช้าให้เป็นเหมือนการเล่นซ่อนหา
เด็ก ๆ มักไม่ชอบกินอะไรที่ดีต่อสุขภาพ สิ่งที่คุณจะทำได้ก็คือการเรียกร้องความสนใจให้เขาสนุกกับอาหารสุขภาพและยอมกินโดยไม่รีรอ การเล่นซ่อนหาเป็นการละเล่นที่เด็กชอบและมักจะตื่นเต้นเมื่อค้นเจอและอยากรู้ว่ามันคืออะไร อร่อยไหม อย่างเช่น แซนด์วิช นอกจากจะทำให้เป็นรูปร่างที่น่าสนใจแล้ว ลองสอดไส้ที่มีประโยชน์ไว้ข้างในเด็ก ๆ มักจะชอบแอบเปิดดูว่ามีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน เมื่อค้นเจอก็มักจะดีใจ รีบเอาใส่ปาก โดยลืมนึกไปว่าตัวเองเคยไม่ยอมกินมาก่อนเวลาที่เห็นมันแผ่หราอยู่บนจานแบบไม่หลบซ่อน
สารอาหาร 10 อย่างที่เด็กต้องมี
วิธีป้องกันและรักษาโรคมือเท้าปาก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!