5 ความเชื่อเกี่ยวกับทารกที่(อาจ)เกิดได้กับพ่อแม่ป้ายแดง
ความเชื่อที่ 1 ทารกแรกเกิดนั้นจะมีความจุกจิกวุ่นวายจนกว่าพวกเขาจะปรับได้
ความเชื่อเกี่ยวกับทารก ความจริงที่ว่าธรรมชาติของทารกจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อเวลาที่รู้สึกไม่สบาย ไม่ว่าจะเพราะความหิว ความเหนื่อย หรือเวลาที่เปลี่ยนผ้าอ้อม และเรื่องจุกจิกอีกมากมายที่ทารกพร้อมจะส่งเสียงร้อง การที่ทารกร้องไห้นั้นก็เพราะว่าลูกไม่สามารถที่จะพูดหรือบอกความรู้สึกให้พ่อแม่รู้ได้อย่างไร ดังนั้นพวกคุณจึงต้องคอยสังเกตอาการของเบบี๋และเรียนรู้ถึงความต้องการของลูกเมื่อลูกร้องไห้ ไม่อย่างนั้นคุณก็ยังคงอยู่กับความเป็นพ่อแม่มือใหม่อยู่นั้นแหละ
ความเชื่อเกี่ยวกับทารก
ความเชื่อที่ 2 ทารกแรกเกิดต้องการนอนตลอดเวลา
ทารกแรกเกิดใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน แต่ไม่ใช่การนอนยาว ๆ ในทารกส่วนมากจะนอนหลับประมาณ 15 นาทีถึง 2 ชั่วโมง แต่ละครั้งลูกจะตื่นขึ้นมาเพื่อกินนมและพร้อมที่จะนอนต่อหลังจากกินนมอิ่ม การนอนจึงเป็นเรื่องสำคัญในช่วงชีวิตของการเป็นทารก ทารกแรกเกิดแต่ละคนอาจจะมีชั่วโมงการนอนแตกต่างกัน ซึ่งในหนึ่งวันทารกบางคนอาจจะนอนได้ประมาณ 15 ถึง 17 ชั่วโมง
Read : คัมภีร์การนอนของทารกแรกเกิดถึง 1 เดือน
ความเชื่อที่ 3 : ถ้าทารกดึงหูอาจจะบอกได้ว่ามีการติดเชื้อที่หู
ทารกชอบที่จะดึงหูตัวเองเล่นโดยไม่มีเหตุผล พวกเขาแค่ชอบที่จะจับและดึงหูเล่นเพราะพบว่ามันเป็นเรื่องสนุก หรือบางทีอาจเป็นเพราะลูกกำลังมีความสนใจเริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวแล้ว กุมารแพทย์ได้กล่าวว่าถ้าหากทารกนั้นมีอาการติดเชื้อที่หูจริง พวกเขาจะไม่เล่นกับหูของตัวเองเพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ!
Read : ลูกปวดหูบ่อยหลังเป็นหวัด เพราะหูชั้นกลางอักเสบ
ความเชื่อที่ 4 : การอุ้มลูกบ่อยจะทำให้ทารกเสียนิสัย
ทารกน้อยนั้นต้องการได้รับสัมผัสจากพ่อแม่อย่างมาก การสัมผัสของพ่อแม่นั้นทำให้ทารกรู้สึกปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนแรก ๆ ของชีวิต นักวิจัยพบว่าเด็กที่ได้รับอ้อมกอดจากพ่อแม่ที่เต็มไปด้วยความรัก และเวลาที่มีคุณภาพ เมื่อโตขึ้นจะส่งผลให้เป็นผู้ใหญ่ที่ปรับตัวได้ดี มีความวิตกกังวลน้อย และ มีสุขภาพจิตที่ดีและมีทักษะในการแก้ปัญหาที่ดีกว่า การอุ้มลูกน้อยจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อการพัฒนาสายสัมพันธ์กับพ่อแม่และพัฒนาการของทารกด้วย
Read : อุ้มลูกทุกครั้งที่ร้อง ถือว่าสปอยล์ลูกหรือเปล่า?
ความเชื่อที่ 5 : แม่ที่กำลังให้นมลูกนั้นควรกินอาหารคลีน
ทารกนั้นสามารถรับรสได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จากสายรก และ ต่อยอดมาถึงการที่ลูกกินนมแม่ ดังนั้นเมื่อคุณแม่กินอะไรก็ควรต้องระมัดระวังเรื่องของอาหารที่จะส่งผลต่ออาการภูมิแพ้ของลูกได้ เช่น กลูเทน หรือแป้งสาลี ผลิตภัณฑ์จากนม และถั่วเหลือง หรือผักต่าง ๆ ที่ส่งผลต่ออาการจุกเสียดแน่นท้องต่อทารกได้หากคุณแม่กินเข้าไปเช่น หัวหอม ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว หรือพวกเครื่องเทศ ซึ่งปัจจุบันการกินคลีนเริ่มเป็นที่นิยม หากคุณแม่สมัยใหม่ต้องการจะกินอาหารคลีนก็สามารถทำได้แต่ควรศึกษาข้อมูล หรือข้อคำแนะนำเกี่ยวกับในเรื่องของโภชนาการจากคุณหมอนะคะ
Read : อาหารคลีนคืออะไร คนท้องกินคลีนได้ไหม
เรามีความเชื่อที่โบราณว่าไว้เกี่ยวกับเด็กทารกมาฝากเพิ่มเติมกัน
1 ความเชื่อที่ว่า พาทารกแรกเกิดกลับบ้านวันแรกต้องทำการเรียกขวัญก่อน
ในสมัยโบราณนั้นมักนิยมทำคลอดกับหมอตำแย หรือไม่ก็หมอประจำหมู่บ้าน เพราะเส้นทางการเดินทางไปมาไม่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน และ หลังจากที่หมอตำแยทำคลอดแล้วก็จะเป็นผู้ทำการเรียกขวัญให้กับทารกที่เกิดใหม่ ๆ โดยการบอกกล่าวผีบ้านผีเรือนเพื่อขออนุญาตให้เด็กน้อยเข้าอาศัยอยู่ในบ้านได้อย่างปกติสุข การทำเช่นนี้คนโบราณเชื่อว่าจะทำให้เด็กอยู่เย็นเป็นสุข
2 ความเชื่อที่ว่า ห้ามจับแก้มเด็ก เพราะจะทำให้เด็กไม่ยอมกินนม
ผู้เฒ่าผู้แก่สมัยโบราณมักห้ามว่าอย่าไปจับ หรือหยิกแก้มเด็กเล่น เพราะทำให้ลูกกินนมน้อยลง หรือไม่ยอมกินข้าว กลายเป็นเด็กกินยากไป ข้อห้ามนี้อาจเป็นเพราะว่า การหยิบหรือจับแก้มเด็กแรง ๆ จะทำให้กระทบไปถึงเหงือก หรือผิวที่กำลังบอบบางของเด็กเล็ก
3 ความเชื่อที่ว่า ถ้าลูกทำท่าโก้งโค้ง แสดงว่ากำลังเรียกน้องให้มาเกิด
เมื่อเจ้าตัวเล็กทำท่าโก่งโค้ง คือ ก้มมองลอดขาตัวเองไปข้างหลัง เรามักจะได้ยินปู่ย่าพูดขึ้นมาว่า สงสัยอยากจะมีน้อง แม่จะมีน้องอีกคน เพราะคนโบราณเชื่อว่าเด็กทำท่านี้เป็นการเรียกให้น้องอีกคนมาเกิดหรือมาเป็นเพื่อนกัน และ ไม่นานคุณแม่ก็มักจะตั้งท้องลูกอีกคน
ความเชื่อเกี่ยวกับทารก
4 ความเชื่อที่ว่า เด็กซนคือเด็กฉลาด
คำพูดนี้เรามักจะได้ยินใครต่อใครก็พูดบ่อย เหตุที่คนโบราณมีความเชื่อว่า เด็กที่ซุกซนเมื่อโตขึ้นจะเป็นฉลาด เพราะว่า การที่เด็กนั้นมีความสงสัย ชอบที่จะซักถาม และ ชอบทดลองทำนู่นนี่ ใคร่รู่สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา จะเป็นการช่วยให้ได้ใช้ความคิด และ มีพัฒนาทางสมองที่ดีนั้นเอง
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ ข้อมูลคุณภาพ และ สังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ เอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่ และ เด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้ คุณแม่ ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่ และเด็ก โภชนาการแม่ และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และ จิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และ มีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
Source : www.momjunction.com , https://th.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
4 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับเบบี๋ตัวน้อย
5 ความเชื่อเดิมๆ ที่ไม่ปลอดภัยกับทารก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!