X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด อันตรายที่แม่ต้องรู้!

บทความ 5 นาที
ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด อันตรายที่แม่ต้องรู้!

เมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 38 คุณแม่หลายคนอาจเริ่มรู้สึกตื่นเต้นและกังวลเกี่ยวกับการคลอดที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่สำคัญมากเนื่องจากอาการใกล้คลอดจะเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้มักจะเป็นสัญญาณเตือนว่าเวลาคลอดใกล้เข้ามาแล้ว มาดูอาการ ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด ที่คุณแม่ควรทราบอย่างละเอียดกันดีกว่า

 

ความเสี่ยงของแม่ท้อง 38 สัปดาห์ อันตรายที่แม่ต้องรู้!

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ถึง 38 สัปดาห์ หรือประมาณ 9 เดือน จะถือว่าอยู่ในช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกพร้อมที่จะเกิดได้ทุกเมื่อ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ใกล้คลอดแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงบางอย่างที่คุณแม่ควรทราบและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การคลอดเป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยสำหรับทั้งคุณแม่และทารก ดังนี้

  • ภาวะความดันโลหิตสูงในครรภ์ (Preeclampsia) 

ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์สามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของคุณแม่และทารก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ช้า และการคลอดก่อนกำหนด โดยอาการที่ควรระวังได้แก่ ปวดศีรษะรุนแรง มองเห็นไม่ชัด ปวดท้องส่วนบน และหายใจไม่สะดวก ควรตรวจความดันโลหิตเป็นประจำและรับการตรวจเช็กร่างกายจากแพทย์ตามนัด

  • น้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด (Preterm Rupture of Membranes)

หากน้ำคร่ำแตกก่อนถึงกำหนดการคลอด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในครรภ์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด สัญญาณที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ น้ำใส ๆ ไหลออกจากช่องคลอด ซึ่งอาจมีลักษณะเหมือนปัสสาวะ แต่ไม่มีกลิ่นและไม่ควบคุมได้ ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีน้ำคร่ำแตก เพื่อรับการดูแลและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

  • ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes)

ระดับน้ำตาลในเลือดสูงระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารก และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น ทารกมีน้ำหนักมาก การคลอดยาก และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหลังคลอด ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ ปรับการรับประทานอาหารให้สมดุล และออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ ดังนั้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทั้งสำหรับคุณแม่และทารก

Advertisement
  • ภาวะทารกอยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้อง (Malpresentation)

ทารกอาจอยู่ในท่าก้น (Breech) หรือท่าขวาง (Transverse Lie) ซึ่งทำให้การคลอดทางช่องคลอดเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการเปลี่ยนท่าทารกในครรภ์ (External Cephalic Version) หรือวางแผนการคลอดด้วยการผ่าตัด (Cesarean Section) เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารก

 

ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด

 

  • ภาวะทารกน้ำหนักน้อยหรือมากเกินไป (Low or High Birth Weight)

น้ำหนักทารกน้อยเกินไปอาจเป็นสัญญาณของภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (Intrauterine Growth Restriction – IUGR) ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ การขาดสารอาหาร หรือโรคประจำตัวของคุณแม่ และหากน้ำหนักทารกมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดยาก การเกิดการบาดเจ็บขณะคลอด และการเกิดภาวะเบาหวานหลังคลอด ควรตรวจติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

  • การเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด (Preterm Labor)

การเจ็บท้องก่อนถึงกำหนดการคลอดอาจเป็นสัญญาณของการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อในครรภ์ ภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือการขาดสารอาหารอาการที่ควรระวังได้แก่ การเจ็บท้องเป็นจังหวะ น้ำคร่ำแตก หรือมีเลือดออกทางช่องคลอด ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเหล่านี้ เพื่อรับการดูแลและรักษาที่เหมาะสม

  • ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta Previa)

รกเกาะต่ำอาจทำให้เกิดการเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงใกล้คลอด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารก การตรวจอัลตราซาวนด์ในช่วงตั้งครรภ์จะช่วยตรวจพบภาวะนี้ได้และวางแผนการคลอดที่เหมาะสม ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเลือดออก เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม

  • ภาวะทารกตัวเหลือง (Jaundice in Newborn)

ภาวะตัวเหลืองเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในทารกแรกเกิด ซึ่งเกิดจากระดับบิลิรูบินในเลือดสูง ควรเฝ้าระวังอาการและตรวจระดับบิลิรูบินในเลือดของทารกตามคำแนะนำของแพทย์ การรักษาอาจรวมถึงการใช้แสงสว่างเพื่อช่วยลดระดับบิลิรูบินในเลือดของทารก

ดังนั้นการพบแพทย์ตามนัด และการตรวจสุขภาพและการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้การตั้งครรภ์และการคลอดเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีสำหรับทั้งคุณแม่และทารก การดูแลตนเองและการรับข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจในการเตรียมตัวสำหรับการคลอดที่ใกล้เข้ามา

บทความที่น่าสนใจ: เช็กด่วน 7 สัญญาณใกล้คลอด พร้อมเคล็ดลับดูแลร่างกายหลังคลอด แข็งแรงไว เบาใจเรื่องแผลเป็นจากการผ่าคลอด

 

ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด มีอะไรบ้าง 

 

ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด มีอะไรบ้าง 

 

1. ปวดท้องคล้ายมีประจำเดือน

อาการปวดท้องคล้ายมีประจำเดือนเป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยในช่วงใกล้คลอด อาการนี้เกิดจากการหดตัวของมดลูก ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด อาการปวดนี้อาจเริ่มจากเบา ๆ แล้วค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความเจ็บปวดที่ค่อนข้างหนัก ซึ่งบางครั้งอาจมีลักษณะเป็นช่วง ๆ หรือมีการหดตัวเป็นจังหวะ การสังเกตและจดบันทึกการหดตัวของมดลูกจะช่วยให้คุณแม่ทราบว่าความถี่และความรุนแรงของการหดตัวเป็นอย่างไร

 

2. มีน้ำใส ๆ หรือมูกเลือดออกจากช่องคลอด

การที่มีน้ำใส ๆ หรือมูกเลือดออกจากช่องคลอดเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าปากมดลูกเริ่มเปิดและบางลง มูกเลือดที่ออกมานั้นเป็นผลจากการที่ปากมดลูกขยายและเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ซึ่งอาจเกิดขึ้นก่อนการคลอดหลายชั่วโมงหรือหลายวัน หากพบว่ามีน้ำคร่ำไหลออกมาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นน้ำใส ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก ควรรีบไปพบแพทย์หรือโรงพยาบาลทันที

 

3. ท้องลดต่ำลง

ท้องของคุณแม่อาจลดต่ำลงเมื่อหัวของทารกเริ่มเข้าสู่กระดูกเชิงกราน การที่ท้องลดต่ำลงนี้สามารถช่วยให้คุณแม่หายใจสะดวกขึ้นเนื่องจากการกดดันที่หน้าอกจะลดลง แต่ในขณะเดียวกันอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายบริเวณกระดูกเชิงกรานและขาหนีบมากขึ้น คุณแม่อาจรู้สึกว่าเดินได้ลำบากกว่าเดิมหรือมีอาการปวดเมื่อยบริเวณเชิงกราน

บทความที่น่าสนใจ: ท้องลดก่อนคลอด อาการท้องลด เป็นอย่างไร ท้องลดตอนกี่สัปดาห์ ท้องลดคือใกล้คลอด จริงไหม

 

ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด มีอะไรบ้าง 

 

4. ปัสสาวะบ่อยขึ้น

ในช่วงใกล้คลอด คุณแม่อาจต้องปัสสาวะบ่อยขึ้นเนื่องจากทารกที่เคลื่อนลงไปในกระดูกเชิงกรานจะกดดันกระเพาะปัสสาวะมากขึ้น นอกจากนี้การที่มดลูกขยายตัวอย่างต่อเนื่องยังทำให้ความจุของกระเพาะปัสสาวะลดลง ทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ

 

บทความจากพันธมิตร
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
4 อาการคนท้อง  ยอดฮิตของแม่ตั้งครรภ์ เลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้
4 อาการคนท้อง ยอดฮิตของแม่ตั้งครรภ์ เลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้
เตรียมพร้อมลูกน้อยฉลาดและแข็งแรงตั้งแต่ในครรภ์ ด้วย นมเฉพาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์
เตรียมพร้อมลูกน้อยฉลาดและแข็งแรงตั้งแต่ในครรภ์ ด้วย นมเฉพาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์

5. การเคลื่อนไหวของทารกลดลง

เมื่อทารกเติบโตมากขึ้นและพื้นที่ในมดลูกแคบลง การเคลื่อนไหวของทารกอาจลดลงบ้าง แต่คุณแม่ควรยังคงรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารกอย่างน้อยวันละ 10 ครั้ง ถ้าการเคลื่อนไหวลดลงอย่างมากหรือหยุดเคลื่อนไหว ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าทารกมีปัญหาหรือขาดออกซิเจน

 

6. มดลูกบีบตัว (Braxton Hicks Contractions)

มดลูกบีบตัวตัวเป็นจังหวะที่เกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอหรือไม่เจ็บปวดมาก เรียกว่า อาการมดลูกบีบตัว หรือ Braxton Hicks Contractions เป็นอาการที่เกิดจากมดลูกหดตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด แต่ถ้าอาการหดตัวนี้เริ่มเป็นจังหวะสม่ำเสมอและเจ็บปวดมากขึ้น อาจเป็นสัญญาณว่าเริ่มเข้าสู่การคลอด คุณแม่ควรจดบันทึกความถี่และระยะเวลาของการหดตัวเพื่อให้แพทย์สามารถประเมินสถานการณ์ได้

 

7. การเปิดของปากมดลูก

แพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์จะตรวจสอบการเปิดของปากมดลูกเพื่อดูว่าพร้อมสำหรับการคลอดหรือไม่ การเปิดของปากมดลูกเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเวลาคลอดใกล้เข้ามาแล้ว ปากมดลูกจะเปิดและบางลงเพื่อให้ทารกผ่านออกมาได้ การตรวจสอบนี้มักจะทำในระหว่างการตรวจครรภ์หรือเมื่อคุณแม่มีอาการมดลูกบีบตัวเป็นระยะเวลานาน

การรู้จักและเข้าใจอาการใกล้คลอดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่เตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดได้ดีขึ้น เมื่อคุณแม่เริ่มรู้สึกถึงอาการเหล่านี้ ควรจดบันทึกและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัยหรือความกังวลใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ทันที เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และทารก การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งทางกายและใจจะช่วยให้กระบวนการคลอดเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ในช่วงนี้ คุณแม่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากนี้การเตรียมของใช้สำหรับทารกและการเตรียมความพร้อมในบ้านจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกพร้อมรับมือกับการคลอดและการดูแลทารกหลังคลอดได้มากขึ้น

 

ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด มีอะไรบ้าง 

 

ที่มา: nhs.uk, whattoexpect.com, babycenter.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

ตั้งครรภ์ 37 สัปดาห์ อาการคนท้อง และพัฒนาการของทารกในครรภ์

น้ำเดิน ภาวะเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายสำหรับคุณแม่ใกล้คลอด

อาการคนท้องไตรมาส 3 ความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด และสัญญาณใกล้คลอด

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Siriluck Chanakit

  • หน้าแรก
  • /
  • ไตรมาส 3
  • /
  • ท้อง 38 สัปดาห์ อาการใกล้คลอด อันตรายที่แม่ต้องรู้!
แชร์ :
  • 7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

    7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

  • วิจัยชี้! คนท้องทำงานกะดึก เพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก-คลอดก่อนกำหนด

    วิจัยชี้! คนท้องทำงานกะดึก เพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก-คลอดก่อนกำหนด

  • คนท้อง น้ำคร่ำน้อย ทำไงดี? 4 วิธีเพิ่มน้ำคร่ำ ที่คุณแม่ทำได้

    คนท้อง น้ำคร่ำน้อย ทำไงดี? 4 วิธีเพิ่มน้ำคร่ำ ที่คุณแม่ทำได้

  • 7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

    7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

  • วิจัยชี้! คนท้องทำงานกะดึก เพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก-คลอดก่อนกำหนด

    วิจัยชี้! คนท้องทำงานกะดึก เพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก-คลอดก่อนกำหนด

  • คนท้อง น้ำคร่ำน้อย ทำไงดี? 4 วิธีเพิ่มน้ำคร่ำ ที่คุณแม่ทำได้

    คนท้อง น้ำคร่ำน้อย ทำไงดี? 4 วิธีเพิ่มน้ำคร่ำ ที่คุณแม่ทำได้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว