ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2550 ที่เมืองไอสึวาคามัตสึ ในจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อ เคียวเฮ คุริตะ (Kyohei Kurita) วัย 17 ปี เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด ฟุกุชิมะ เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจ พร้อมยื่นกระเป๋านักเรียน แล้วบอกกับตำรวจว่า “ผมฆ่าแม่ของผม” เมื่อตรวจสอบภายในกระเป๋า ก็พบศีรษะของผู้หญิง ซึ่งคาดว่าศีรษะนั้นเป็นแม่ของเคียวเฮ จนเป็นที่มาของไวรัลดังในญี่ปุ่นว่า ลูกวัย 17 ปี ตัดสินใจฆ่าแม่ตัวเอง ด้วยเหตุของความเหงา
เคียวเฮตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไปมอบตัว พร้อมกระเป๋าที่บรรจุศีรษะของผู้เป็นแม่
ลูกวัย 17 ปี ตัดสินใจฆ่าแม่ตัวเอง ด้วยเหตุของความเหงา
ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2550 ช่วงเวลาประมาณ 07:00 น. ได้มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งได้นั่งรถแท็กซี่มายังสถานีตำรวจด้วยตนเอง และยื่นหลักฐานที่เป็นกระเป๋านักเรียนของเขาให้กับทางเจ้าหน้าที่ แล้วบอกว่า “ฉันเป็นคนฆ่าแม่” เมื่อตำรวจทำการตรวจสอบกระเป๋าใบนั้น ปรากฎว่า พบศีรษะของผู้หญิง ซึ่งต่อมาทราบว่าชื่อ ฮารุมิ คุริตะ (Harumi Kurita) วัย 47 ปี ซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ของเคียวเฮ จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพ และทำการตรวจค้นบ้านที่เกิดเหตุโดยทันที
จากสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นลักษณะของอพาร์ตเมนต์ ทางตำรวจได้พบศพของฮารุมิ แม่ผู้ก่อเหตุ ในลักษณะที่ถูกตัดแขน และขา และส่วนของศีรษะออก ในขณะที่แขนข้างซ้ายถูกตัดแล้วนำไปวางไว้ที่กระถางต้นไม้ เป็นลักษณะเหมือนการปลูกต้นไม้ชนิดหนึ่ง และตัดบริเวณนิ้วจัดแต่งให้เหมือนดอกไม้อีกด้วย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อะไรเป็นเหตุจงใจให้ตัวของเคียวเฮ กระทำการอุกอาจเช่นนี้
พื้นฐานของชีวิตเคียวเฮ
เคียวเฮ คุริตะ อายุ 17 ปี ผู้ก่อเหตุ
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเคียวเฮยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ในเขตโอนุมะ จังหวัดเดียวกันกับตอนที่เกิดเรื่อง เคียวเฮ เป็นเด็กที่เรียนเก่ง อัธยาศัยดี และเข้ากับเพื่อนได้ อีกทั้งยังมีความสามารถทางด้านกีฬาที่หลากหลายอีกด้วย แต่เมื่อเคียวเฮจะต้องย้ายมาเรียนมัธยมปลายที่เขต ไอซึวากามะซึ แม่ของเคียวเฮจึงได้เช่าอพาร์ตเมนต์ 2 ชั้น เพื่อหวังให้ลูกของตนนั้นเกิดความสะดวกสบายในการเดินทางไปเรียน และแม่ของเขาก็มักจะมาหาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งมาทำความสะอาด ทำกับข้าว และดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านอยู่เสมอ
แต่สำหรับเคียวเฮนั้น การย้ายมาเรียนในครั้งนี้กลับสร้างปัญหาให้ตัวเขาเองอย่างมาก เพราะเขาไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้ การเรียนของเขาเองก็เริ่มจะตกต่ำลง และเขาก็เริ่มที่จะเก็บตัว และขาดเรียนเป็นระยะ ในขณะที่น้องชายของเขาได้ย้ายมาอยู่ ด้วยในภายหลัง และเรียนในโรงเรียนที่อยู่เขตเดียวกัน แต่น้องชายของเขากลับสามารถปรับตัวได้ดีมีเพื่อนมาก แต่ตัวน้องชายก็จะเลี่ยงที่จะเข้าไปยุ่งกับเคียวเฮ เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนการเรียนของผู้เป็นพี่ จนทำให้ตัวของเคียวเฮรู้สึกโดดเดี่ยว และอ้างว้างมากกว่าเดิม
เหตุเริ่มต้น
เคียวเฮเริ่มขาดเรียนช่วง ม.5 เนื่องจากอาการไข้ และหลังจากนั้น เขาก็เริ่มหยุดที่จะไปเรียนอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่ง ม.6 เขาก็เลิกที่จะไปเรียนโดยเด็ดขาด และพบว่า ตลอดภาคการศึกษานั้น เคียวเฮได้ไปเรียนเพียงแค่ 5 วัน และครั้งสุดท้ายที่ไปก็เป็นช่วงวันที่ 13 เมษายน ก่อนที่จะเกิดเหตุสลด ในวันที่ 15 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน
วันเกิดเหตุ
ในวันเกิดเหตุ เป็นวันเกิดของฮารุมิ ผู้เป็นแม่ เขาจึงตัดสินใจมาทำอาหารให้ลูก ๆ ทั้งสองคนทาน ในขณะที่ตัวน้องชายพูดคุยอย่างสนุกสนานร่าเริงบนโต๊ะอาหาร เคียวเฮกลับนั่งทานอาหารเงียบ ๆ และลุกออกไปทันทีเมื่อทานเสร็จ เมื่อฮารุมิจัดการทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อย จึงได้ไปนอนในห้องเดียวกับเคียวเฮที่ชั้น 2 ในขณะที่น้องคนเล็ก นอนคนเดียวที่ห้องชั้น 1 เคียวเฮได้ตัดสินใจลงไปที่ครัว และหยิบมีดทำครัวมาที่ห้องนอนอีกครั้ง
เขาตัดสินใจใช้มีดแทงไปที่ฮารุมิ ขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ เมื่อรู้สึกตัว จึงมีการขัดขืน และต่อสู้กัน แต่นั่นก็เป็นเหมือนสิ่งที่กระตุ้นให้เขาทำร้ายผู้เป็นแม่มากกว่าเดิม จนถึงขั้นเสียชีวิต หลังจากนั้นเขาจึงได้นำใบเลื่อย ที่ได้มีการซื้อมาจากร้านวัสดุก่อสร้าง ก่อนวันเกิดเหตุ มาหั่นชิ้นส่วนร่างกายของฮารุมิออกเป็นส่วน ๆ
ตำรวจเข้าไปสำรวจที่เกิดเหตุ และพบต้นไม้ที่ความจริงคือมือของฮารุมิผู้เป็นแม่
โดยหั่นแขนออกมาแล้วนำไปวางไว้ที่กระถางต้นไม้ ลักษณะเหมือนการปลูกต้นไม้ โดยจัดให้มือเป็นดอกไม้ ของต้นนั้น และทำการแยกศีรษะออกมา ก่อนที่จะตัดขาออกจากกัน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 01:30 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม
เขายังคงใช้สื่อโซเชียลในการพูดคุย
หลังจากนั้น เขาได้นำศีรษะของฮารุมิ ยัดใส่ในกระเป๋านักเรียน พร้อมหิ้วออกไปที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ในช่วง 02:30 น. 1 ชั่วโมงหลังจากการก่อเหตุ โดยได้ทำไปนั่งดูคลิปวิดีโอต่าง ๆ ที่ตนชื่นชอบ หลังจากนั้นจึงได้ทำการโพสต์ไดอารี่ โดยให้ชื่อว่า “The Last Diary” บน SNS ว่า “ผมได้ทำบาปครั้งใหญ่ ที่ผมก็รู้ว่าไม่ควรจะทำมัน” จนมีหลายคนได้เข้าไปคอมเมนต์ต่อว่า “แรงจูงใจคืออะไร?” “ทำไปทำไม” แต่คำถามเหล่านี้ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด
กระเป๋าที่นำมาบรรจุศีรษะของ ฮารุมิ คุริตะ วัย 47 ปี ผู้เป็นแม่
แต่หลังจากนั้นเคียวเฮ ได้พิมพ์ต่ออีกว่า “ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเลย แต่หลังจากนี้ผมอาจจะเสียใจก็ได้” ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ตัวเขาเองไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดแต่อย่างใด หลังจากนั้นก็มีคนถามว่า “แล้วหลังจากนี้คุณจะทำยังไงล่ะ” เคียวเฮจึงได้ตอบกลับไปว่า “ฉันก็มีความผิดไง” หลังจากนั้น ไดอารี่นี้ก็ได้ถูกทำการลบออกจากระบบในช่วงบ่ายของวันที่ 16 พฤษภาคม หลังจากที่มีการประกาศการจับกุมเคียวเฮในคดี “ฆ่าตัดศีรษะแม่ตนเอง”
การบำบัดช้าเกินที่จะทำไม่ให้เกิดเหตุสลด
ก่อนเกิดเหตุในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 เคียวเฮได้เข้ารับการตรวจสอบ และบำบัดทางจิตวิทยา และผลวินิจฉัยสรุปออกมาให้เห็นว่า ตัวของเคียวเฮนั้น มีความไม่มั่นคงทางจิต เนื่องจากเขามีลักษณะของการเก็บตัว ไม่พูดคุย เริ่มปล่อยให้มีผมยาวรุงรัง และไม่สามารถเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีเท่าที่ควร แต่ยังไม่ทันได้เริ่มขั้นตอนของการรักษา ก็เกิดเหตุสลดเกิดขึ้นก่อนแล้ว
เมื่อถูกถามถึงเหตุจูงใจในการฆาตกรรมในครั้งนี้ ปรากฎว่าเขาให้คำตอบเพียงว่า “เขาแค่อยากฆ่าคน อยากลองฆ่าหั่นศพดู ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ และตอนแรกคิดว่าจะฆ่าน้องชายของตัวเอง แต่พอดีวันที่เกิดเหตุ แม่มาหาแล้วมานอนที่ห้อง เขาจึงเลือกที่จะฆ่าแม่แทน” ซึ่งเขายังบอกต่ออีกว่า “ก็ไม่ได้เกลียด ไม่ได้โกรธอะไร ก็แค่รู้สึกอยากฆ่าคนเท่านั้นเอง”
ผลจากเหตุอาชญกรรม
เมื่อข่าวออกไป ทางโรงเรียนจึงได้มีประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว และเปิดให้มีนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยกับนักเรียน และผู้ปกครองของเด็ก และบางคน ก็เกิดอาการกลัวกับข่าวที่เกิดขึ้น จนไม่กล้าไปเรียนอีกเลย
จากข่าวของเคียวเฮในครั้งนี้ ทำให้คนในสังคมรู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากมากว่า คนเราจะสามารถฆ่าใครก็ได้ เพียงเพราะอยากลองฆ่าเท่านั้นหรือ และที่สำคัญ คนที่เขาได้ฆ่านั้น เป็นคนในครอบครัวของเขาเองด้วยซ้ำ
คำตัดสินของศาลที่สร้างความงงงวยให้กับสังคม
แต่ที่เกินคาดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น คือคำตัดสินของศาลเยาวชน ที่เห็นว่าเดียวเฮเป็นเพียงเด็กที่มีอายุแค่ 17 ปี ซึ่งยังถูกจัดว่าเขาเป็นเพียงแค่เยาวชนคนหนึ่ง และถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าแม่ของเขาเอง แต่ก็เป็นการฆาตกรรมที่มีคนตายเพียงคนเดียว ศาลจึงได้พิจารณาว่า มูลเหตุจากการฆาตกรรมนั้นมาจากสภาพจิตใจที่ไม่ปกติ เป็นผลต่อเนื่องมาจาก การไม่เป็นที่ยอมรับ ความเหงา ความโดดเดี่ยว ความสูญเสียตัวตน จึงตัดสินให้เขาได้รับเข้าการบำบัดเยียวยาแบบไม่มีกำหนด จนกว่าสภาพจิตจะดีขึ้น แล้วจึงจะส่งตัวคืนสู่สังคมเมื่อพร้อม
ที่มา : rakuten.co.jp , kojitena , goo.ne.jp
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
พบเคสแปลก เด็กแรกเกิดไม่ร้อง ลืมตาตื่นมา ทำหน้าซีเรียส ไม่ร้องสักแอะ
พ่อแท้ๆฆ่าลูก เกิดเหตุน่าเศร้าพ่อแท้ๆฆ่าลูก เพราะพ่อชอบลูกสะใภ้
คลิปตัดแขน ตัดขาเด็กบราซิล เผยแพร่สู่ออนไลน์แล้ว ฆ่าคนแบบป่าเถื่อน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!