คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจกำลังตื่นเต้นกับการเตรียมตัวต้อนรับสมาชิกใหม่ และยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง วันนี้เรามีลิสต์ 12 ของใช้เด็กอ่อน ที่ควรซื้อไว้ให้พร้อม เพื่อช่วยให้การดูแลลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายขึ้นค่ะ
12 ของใช้เด็กอ่อน ที่ควรซื้อไว้ให้พร้อม
1. ผ้าอ้อมสำเร็จรูป: สิ่งจำเป็นอันดับแรก ๆ เลยค่ะ เพราะลูกน้อยจะฉี่และอึบ่อยมาก ผ้าอ้อมสำเร็จรูปช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมได้สะดวก รวดเร็ว และรักษาความสะอาดได้ดี ควรเลือกขนาด Newborn หรือ S สำหรับเด็กแรกเกิด และอย่าลืมเลือกยี่ห้อที่อ่อนโยนต่อผิวลูกน้อยนะคะ
2. ที่ดูดน้ำมูก: ช่วงแรกเกิดลูกน้อยอาจมีน้ำมูกเยอะ ที่ดูดน้ำมูกจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูดน้ำมูกออกได้ง่าย ลดอาการคัดจมูก ช่วยให้ลูกหายใจสะดวก และนอนหลับสบายขึ้นค่ะ
3. สำลีแผ่นและคอตตอนบัด: ใช้ทำความสะอาดดวงตา จมูก และใบหูของลูกน้อย ควรเลือกแบบที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี และมีหัวสำลีที่นุ่ม เพื่อไม่ให้ระคายเคืองผิวบอบบางของลูก
4. ผ้าขนหนูเนื้อนิ่ม: เลือกผ้าขนหนูที่ทำจากผ้าฝ้าย เนื้อนุ่ม ซับน้ำได้ดี ไม่ระคายเคืองผิว ใช้เช็ดตัวลูกน้อยหลังอาบน้ำ หรือเช็ดทำความสะอาดร่างกายค่ะ
5. ปรอทวัดไข้: ใช้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกน้อย เพื่อเช็คว่าลูกมีไข้หรือไม่ ควรเลือกปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล ใช้งานง่าย อ่านค่าได้รวดเร็ว และแม่นยำ
6. ชุดเครื่องนอนเด็กอ่อน: ควรเลือกชุดเครื่องนอนที่ทำจากผ้าฝ้าย เนื้อนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ลูกน้อยรู้สึกร้อน ประกอบด้วย ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม
7. ผ้าห่อตัวเด็ก: ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนอยู่ในครรภ์มารดา ลดอาการสะดุ้งตื่น และช่วยให้ลูกนอนหลับได้นานขึ้น
8. กรรไกรตัดเล็บเด็ก: เล็บของลูกน้อยจะยาวเร็วมาก คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นตัดเล็บให้ลูก เพื่อป้องกันลูกน้อยข่วนหน้าตัวเอง ควรเลือกกรรไกรตัดเล็บเด็ก ที่มีปลายมน ขนาดเล็ก จับถนัดมือ
9. สบู่ – แชมพูสำหรับเด็ก: เลือกสบู่และแชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารเคมี ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและดวงตาของลูกน้อย
10. อ่างอาบน้ำ: ควรเลือกอ่างอาบน้ำสำหรับเด็ก ที่มีขนาดพอเหมาะ ทำความสะอาดง่าย และมีฐานรองกันลื่น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
11. แผ่นยางปูกันเปื้อน: ใช้ปูรองพื้น เวลาเปลี่ยนผ้าอ้อม หรืออาบน้ำให้ลูก เพื่อป้องกันไม่ให้ที่นอนหรือพื้นเปียกเลอะเทอะ
12. ชุดเด็กแรกเกิด: ควรเตรียมชุดสำหรับเด็กแรกเกิด ทั้งแบบเสื้อแขนสั้น แขนยาว กางเกงขายาว ขายาว ถุงมือ ถุงเท้า และหมวก เลือกขนาด Newborn หรือ 0-3 เดือน และเลือกเนื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกคนนะคะ ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกน้อยค่ะ

ชวนคุณแม่ และคุณพ่อ ช้อปสุดคุ้ม โปรปังงานเบบี้แฟร์ 9-20 มกราคม 2568
หากคุณพ่อคุณแม่ยังเตรียมของไม่ครบ เราขอแนะนำอีเวนต์สุดปัง! งานใหญ่รับต้นปี Central x theAsianparent Baby Fair ครั้งแรกของปีรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ช้อปกี่ครั้งก็ยังฟิน งานนี้ต้องบอกเพื่อน ๆ ชวนกันมาช้อปแหลก พลาดไม่ได้ งานแฟร์แม่และเด็ก ช้อปครบ ราคาถูก ได้ของดี คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

คลิกรับของสมนาคุณ งานเบบี้แฟร์ ยกขวนสินค้า ลดราคาสุดคุ้ม
ลดแรงส่งท้ายปี จัดใหญ่ จัดหนัก จัดเต็ม ครั้งแรกของปีรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี #ช้อปครบจบในที่เดียว #ช้อปสบายไม่ต้องขนกลับ พบสินค้า ลดสูงสุด 70% วันที่ 9 ม.ค. 68 – 20 ม.ค. 68 ที่ BCC Hall ชั้น 5 เซ็นทรัล ลาดพร้าว เวลา 10.00 – 20.00 น. (จันทร์-พฤหัสบดี) และ 10.00 – 21.00 น. (ศุกร์-อาทิตย์) อย่าลืม! บอกต่อเพื่อน ๆ มาช้อปด้วยกัน
เอาใจคุณแม่ คุณลูก ทุกครอบครัว กับโปรเด็ดโดนใจ!
ช้อปคุ้มๆ พร้อมส่วนลดและของรางวัล 3 ต่อ
- ต่อที่1 : สมาชิก My Little Club Plus รับส่วนลดเพิ่ม 5% สินค้าที่ร่วมรายการ
- ต่อที่2 : ใช้คะเเนนลดเพิ่มและรับเครดิตเงินคืนจาก The 1 และเครดิตการ์ดสูงสุด 30%
- ต่อที่3 : ทุกๆ การสั่งซื้อครบ 2,000 บาทขึ้นไป รับฟรีของสมนาคุณ/คูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท *คูปองส่วนลดแทนเงินสด สำหรับใช้ในการสั่งซื้อสินค้าครั้งถัดไป ตามเงื่อนไขที่กำหนด
รับฟรี!! กระเป๋าและของสมนาคุณ ที่หน้างาน มูลค่ากว่า 500 บาท (จำนวนจำกัด) เพียงลงทะเบียนล่วงหน้า ที่นี่ >> คลิกเลย
7 ปัจจัยสร้างลูกน้อยสมองดีตั้งแต่ในครรภ์
1. อายุคุณแม่
คุณแม่ที่มีเจ้าตัวน้อยในวัย 30 มีแนวโน้มที่ลูกจะฉลาด ตามการวิจัยของ the London School of Economics ทั้งนี้การที่ลูกฉลาดอาจไม่ได้เป็นเพราะอายุของแม่ แต่พบว่าแม่ที่มีลูกคนแรกในวัยสามสิบนั้น มักจะมีการศึกษาที่สูงขึ้น มีรายได้มากขึ้น มีความสัมพันธ์ที่มั่นคงมากขึ้น มีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น มีการวางแผนก่อนจะมีบุตร และมีการหาความรู้ในการดูแลครรภ์เป็นอย่างดี
บทความแนะนำ เชื่อหรือไม่!! คุณแม่ ท้องอายุ 30 ปี ส่งผลให้ “ลูกฉลาดแข็งแรง” ที่สุด

2. ความรักและการเอาใจใส่เจ้าตัวน้อย
คุณแม่ที่แสดงออกถึงความรักที่มีต่อเจ้าตัวน้อย เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ลูกมีสุขภาพดี มีความสุข และรู้สึกผ่อนคลาย การสื่อความรักด้วยการพูดคุยกับลูกในท้องอย่างอ่อนโยนจะส่งผลดีต่อความจำ และอารมณ์ของเจ้าตัวน้อย นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างพื้นฐานด้านภาษาที่ดีอีกด้วย
บทความแนะนำ “คุยกับลูกในท้อง” วิธีที่พ่อมิค-แม่เบนซ์ส่งผ่านความรักถึงลูกสาวในท้อง (ชมคลิป)
3. น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม
การที่คุณแม่น้ำหนักเพิ่มมากเกินไประหว่างตั้งครรภ์ส่งผลให้ลูกตัวโต คลอดยาก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อสมองของเจ้าตัวน้อย แต่หากคุณแม่น้ำหนักเพิ่มน้อยเกินไปก็ส่งผลให้ทารกศีรษะและสมองเล็ก ทำให้ลูกมีระดับไอคิวต่ำ ทั้งนี้น้ำหนักที่เหมาะสมของคุณแม่ท้องควรเพิ่มขึ้น 10-12 กิโลกรัมตลอดการตั้งครรภ์
บทความแนะนำ คุมน้ำหนักตอนท้องอย่างไร ให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์พอดี

4. อาหารทะเล ปลา และโอเมกา-3
นักวิจัยพบว่าทารกที่เกิดจากคุณแม่ที่มีระดับกรดไขมันโอเมกา-3 หรือดีเอชเอในเลือดสูงกว่า จะมีความสามารถในการจดจ่อได้ยาวนานกว่า โดยพบว่าในเด็กอายุ 6 เดือนจะจดจ่อได้ดีกว่าเด็กที่คุณแม่มีระดับดีเอชเอต่ำกว่าถึงสองเดือน นอกจากนี้ยังพบว่า การที่คุณแม่รับประทานปลามากขึ้นระหว่างตั้งครรภ์สามารถเพิ่มไอคิวของลูกได้ และการรับประทานปลาในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกดูเหมือนจะมีผลต่อคะแนนการทดสอบไอคิวของลูกมากกว่า เมื่อเที่ยบกับคุณแม่ที่รับประทานปลาในภายหลัง
องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) แนะนำให้รับประทานอาหารทะเลไม่เกิน 340 กรัมต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 2 มื้อต่อสัปดาห์ โดยให้รับประทานปลาที่หลากหลายและเลือกอาหารทะเลที่มีสารปรอทต่ำ เช่น กุ้งทะเล ปลาแซลมอน ปลาดุกทะเล ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน และปลากะตัก
บทความแนะนำ สุดยอดอาหารบำรุงครรภ์ 10 อย่าง
5. เบคอนและไข่
ดร. เจอรัลด์ เวสแมน บรรณาธิการบริหาร the Federation of American Societies for Experimental Biology journal กล่าวว่า เบคอนและไข่ช่วยเพิ่มพลังสมองให้ลูกในครรภ์ เนื่องจากโคลีนซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการพัฒนาสมองในส่วนของการจดจำข้อมูลใหม่และระลึกถึงความทรงจำที่เก็บไว้
บทความแนะนำ โคลีนพัฒนาสมองทารกตั้งแต่ในครรภ์

6. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์มีประโยชน์ต่อการหายใจของเจ้าตัวน้อยในครรภ์ และการพัฒนาระบบประสาทอัตโนมัติ จากการศึกษาของ The American Physiological Society พบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า คุณแม่ที่ยังคงออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์มีลูกที่ฉลาดกว่า นอกจากนี้การศึกษาของ the University of Montreal พบว่า หากคุณแม่ท้องออกกำลังกายเพียง 20 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยเพิ่มการทำงานของสมองทารกแรกเกิดได้ การเต้นแอโรบิคช่วยเพิ่มการทำงานของไมโทคอนเดรียในสมองของแม่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ โดยจะส่งผ่านไปทางรกและเป็นประโยชน์ต่อสมองของทารกในครรภ์เช่นเดียวกัน
บทความแนะนำ 7 วิธีออกกำลังกาย แม่ตั้งครรภ์ควรลอง
7. คลอดในสัปดาห์ที่ 41
ตามรายงานของวารสาร JAMA Pediatrics พบว่า ทารกที่คลอดเมื่ออายุครรภ์ 41 สัปดาห์ เมื่อเข้าสู่วัยเรียนจะมีคะแนนสอบที่สูงกว่า และมีเปอร์เซ็นต์ที่จัดอยู่ในกลุ่มปัญญาเลิศสูงกว่า ในขณะที่มีเปอร์เซ็นต์ในกลุ่มสติปัญญาต่ำน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม หากเด็กอยู่ในครรภ์แม่นานถึง 42 สัปดาห์ถือว่าตั้งครรภ์เกินกำหนดคลอดอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และลูกได้
อยากให้ลูกมีพัฒนาการสมองดี แม่ต้องสร้างและบำรุงลูกด้วยโภชนาการที่ดีมาตั้งแต่ตอนที่ลูกอยู่ในท้อง และเมื่อลูกคลอดออกมาแล้วอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงสมองก็ยังมีความจำเป็นอย่างต่อเนื่อง และนอกจากอาหารก็ต้องกระตุ้นพัฒนาการสมองลูกด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสมตามวัยลูกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อาการยอดฮิตตอนท้องไตรมาส 3
การซื้อของใช้เด็กอ่อนก่อนคลอดทำให้โชคร้ายรึเปล่านะ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!