อาบน้ำลูกอย่างไร ปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่กังวล วันนี้ theAsianparent นำวิธีการอาบน้ำลูกมาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
อาบน้ำอย่างเดียวได้ไหม ?
การอาบน้ำแค่น้ำอย่างเดียว ไม่ได้ล้างสิ่งสกปรดที่หลงเหลืออยู่ในผ้าอ้อม ถ้าสิ่งสกปรกยังตกค้างอยู่ในผ้าอ้อม หรือเสื้อผ้า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทารกมีผิวที่บอบบาง แพ้ง่ายได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการอาบน้ำควบคู่ไปด้วย ไม่ควรใช้น้ำเปล่าอย่างเดียว เนื่องจากน้ำเปล่ามีคลอรีน ทำให้ผิวลูกบอบบาง ส่งผลทำให้ผิวแห้งได้ หากปล่อยไว้นาน ผิวของลูกจะเกิดอาการแพ้อย่ารุนแรง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ความปลอดภัยในการอาบน้ำ ของเด็ก สิ่งที่ควรทำและวิธีการป้องกันระหว่างอาบน้ำ
ควรอาบวันละกี่ครั้ง
- ทารกแรกเกิด – 1 เดือน : อาบวันละ 1 ครั้ง เช็ดตัว 1 ครั้ง สระผม 1 ครั้ง หรือตามสภาพอากาศ ฤดูหนาวควรวันละ 1 ครั้งเท่านั้น
- ทารกอายุมากกว่า 1 เดือน : อาบวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น สระผม 1 ครั้ง
เวลาในการอาบน้ำ
ไม่ควรเลือกช่วงเวลาที่ลูกง่วง และหากลูกหลับไม่ควรปลุกลูกมาอาบน้ำ ปล่อยให้เขานอนให้เต็มอิ่มไปก่อน เพราะการปลุกกะทันหัน อาจทำให้ลูกเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ และอาจทำให้เกิดอาการป่วยได้ และคุณพ่อคุณแม่ควรอาบน้ำตามสภาพอากาศ เช่น หากวันไหนอากาศร้อนมาก ๆ อาจจะต้องอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง แต่ถ้าวันไหนมีอากาศที่หนาวเย็น อาบน้ำให้ลูกเพียงวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว ช่วงเวลา 10 โมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเอาลูกอาบน้ำ และช่วงเย็นเวลา 3 – 4 โมง เป็นเวลาอาบน้ำที่กำลังดี
ไม่ควรให้ลูกลงอ่างในขณะที่สายสะดือยังไม่หลุด
เด็กทารกมีผิวที่บอบางมาก ๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ อาจจะต้องใส่ใจเรื่องของสุขอนามัยเป็นพิเศษ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สุด และหากสายสะดือของทารกยังไม่หลุดออก ไม่ควรเอาลูกลงอ่างอาบน้ำ เพราะความสกปรกในน้ำ จะทำให้ทารกมีโอกาสติดเชื้อได้ ควรรอให้สายสะดือแห้งและหลุดตามธรรมชาติเสียก่อน ระหว่างนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถเช็ดตัวให้ลูกได้
อุปกรณ์ในการอาบน้ำ
- อ่างอาบน้ำใบใหญ่สำหรับอาบ
- อ่างอาบน้ำใบเล็กสำหรับสระผม
- แผ่นปูพื้นกันลื่น
- ผ้าเช็ดตัว
- ผ้าเช็ดผม
- สำลี
- สบู่เหลว
- แชมพูสระผมเด็ก
- ฟองน้ำ หรือ ผ้าขนหนูผืนเล็ก
- ผ้าอ้อม
- เสื้อผ้าสะอาด
ขั้นตอนในการอาบน้ำ
อาบน้ำลูกอย่างไร ขั้นตอนการอาบน้ำ
- ผสมน้ำอุ่มเตรียมไว้ในอ่างอาบน้ำ คุณแม่ต้องทดสอบอุณหภูมิก่อนทุกครั้ง โดยเอาหลังมือ แตะจุ่ม ๆ ลงในน้ำ หรือเพื่อความชัวร์อาจจะใช้เป็นเทอร์โมมิเตอร์วัดความร้อนเพื่อความมั่นใจอีกครั้งก็ได้ค่ะ
- จับทารกนอนบนผ้ารอง ถอดผ้าห่อตัว และเสื้อผ้าออก
- เช็ดตาด้วยสำลีชุบน้ำอุ่น และใช้สำลีก้อนใหม่เช็ดใบหูทีละข้าง
- ใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำในอ่าง บิดหมาด ๆ แล้วเช็ดบริเวณซอกหู และ ซอกคอ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกไม่ยอมอาบน้ำ ทำไงดี? ปัญหาปวดหัวของผู้ปกครองเมื่อลูกไม่ยอมอาบน้ำ
ขั้นตอนการสระผม
อาบน้ำลูกอย่างไร ขั้นตอนการสระผม
- ให้คุณแม่ใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่อตัวลูกไว้ โดยคุณแม่ที่ถนัดมือขวาให้อุ้มลูกด้วยมือซ้าย ใช้แขนหนีบที่ตัวลูกทั้งลำตัว จับศีรษะและไหล่ของลูกด้วยฝ่ามือ ใช้นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วกลางปิดที่ใบหูทั้งสองข้าง มือขวาใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำมาลูบผมให้เปียกทั้งศีรษะ ระวังอย่าให้น้ำเข้าตาและเข้าหู
- บีบแชมพูสระผมของเด็ก ค่อย ๆ ลูบยาสระผมบนผมลูก
- ล้างยาสระผมออกให้หมด เช็ดให้แห้ง
- วางลูกลงบนผ้ารองที่เตรียมไว้ จากนั้นแก้ผ้าห่อตัวลูกออก ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็ก หรือฟองน้ำชุบน้ำอุ่นพอหมาด ๆ ลูบไล้ให้ทั่วบริเวณลำตัวลูก
ขั้นตอนการถูสบู่
- ให้นำสบู่มาถูกับมือคุณแม่ก่อน แล้วจึงค่อยมาลูบที่ตัวลูกตั้งแต่คอถึงเท้า โดยเฉพาะซอกคอ ซอกแขน และซอกขา
- ใช้แขนซ้ายรองใต้บริเวณไหล่และศีรษะ ส่วนมือก็อ้อมมาจับใต้รักแร้ของลูก ค่อย ๆ วางลูกลงในอ่างอาบน้ำใบใหญ่ ล้างสบู่ด้านหน้าออกให้หมด
- จากนั้นเปลี่ยนมามาล้างสบู่ด้านหลังลูก โดยให้บริเวณลำตัวด้านหน้าของลูกอยู่บนแขนขวาของคุณแม่ แล้วจึงนำลูกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ ซับตัวให้แห้งทันที โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบ ข้อพับ อวัยวะเพศ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำวิธีการเลือกซื้อสบู่ให้ลูกอย่างปลอดภัย ป้องการอาการ “แพ้สบู่”
การทำความสะอาดอวัยวะเพศ
- อวัยวะเพศลูกสาว : ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดจากท้องน้อย ไปจนถึงทวารหนัก เช็ดจากหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด และไม่เช็ดเข้าไปในช่องคลอดลูก
- อวัยวะเพศลูกชาย : ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดจากท้องน้อย ไปจนถึงอวัยวะเพศถึงทวารหนัก แล้วไม่ต้องพลิกปลายอวัยวะเพศออกมาทำความสะอาด จากนั้นซับให้แห้ง ก่อนใส่ผ้าอ้อม หากมีผดสามารถทาครีมป้องลดผด หรือป้องกันผดก่อนก็ได้ สามารถทาแป้งได้บริเวณแก้มก้มและขาหนีบ แต่ไม่ควรโรยแป้งตรงอวัยวะ
ที่มา : (Happymom),(Johnsonsbaby)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!