5 อาหารที่ไม่ควรกินดิบ อาหารดิบกินแล้วเสี่ยงตายไม่ควรกิน
ท่ามกลางกระแสโรตีดิบที่ เป็นที่พูดถึงกันมาก ในช่วงสามสี่วันที่ผ่านมา เมื่อมีผู้หญิงท่านหนึ่งโพสผ่านโซเชี่ยลมีเดียวว่า เธอไปซื้อโรตีดิบมากกินแล้วมันอะไรอร่อย ทำให้เกิดอาการตามกระแสกันไปทำตาม มีทั้งเด็กและคนมากมาย ที่หันไปซื้อ โรตีดิบกิน ซึ่งทางโภชนาการแล้วนี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรเลย เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า 5 อาหารที่ไม่ควรกินดิบ มีอะไรบ้าง อาหารอะไรที่ไม่ควรกินดิบ ถ้ากินแล้วมันอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ
โรตีดิบ
ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ เพราะว่ามีเด็กทำตามหลายคน และเกิดอาการป่วย โรตีเกิดจากการนำแป้งไปผสมกับส่วนผสมหลายอย่าง ต้องปล่อยไว้เป็นเวลานาน ซึ่งอาจมีแบคทีเรียที่เกิดจากยีสต์ได้เหมือนกัน สาร หรือ เชื้อโรคเล่านี้จะถูกทำลาย
เมื่อเจอความร้อนจากน้ำมัน นี่ยังไม่รวมไปถึงความสะอาดของคนทำโรตี ว่าเขาล้างมือสะอาดหรือไม่ ไปโดนอะไรสกปรกมารึเปล่า ความเสี่ยงที่เกิดจากการทานโรตีดิบมีเยอะมาก ควบตักเตือนลูกว่าไม่ให้ลองอย่าเด็ดขาด
มันฝรั่งดิบ
มันผสมมีสารกำจัดศัตรูพืชที่สารโดยธรรมชาติ ที่เรียกว่า Solanine ปริมาณของสารชนิดนี้ที่มี่อยู่ในตัวของพืชชนิดนี้ ไม่มากพอที่จะทำอันตรายให้ร่างกายได้ แต่เมื่อไหรที่มันฝรั่งโดนแสงแดด มันอาจจะเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว มันเป็นการบ่งบอกว่า สารชนิดนี้กำลังขยายตัว เมื่อทานมันฝรั่งดิบ คุณอาจจะเจออาการหลายแบบ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน และ ท้องเสีย
ถั่วแดงดิบ
ถั่วแดงที่นำมาทำให้สุกแล้ว เป็นอาหารที่ดีมีสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการ แต่เมื่อมันดิบแล้ว จะทำให้คุณเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และ ท้องเสียขั้นรุนแรง สารพิษในถั่วแดงดิบนั้นมีปริมาณที่สูงมาก ควรแช่น้ำให้เกิน 5 ชั่วโมงขึ้นไป และ นำไปต้มอีก 30 นาที ก่อนที่มันจะสามารถกินได้
ถ้าคุณไม่มีเวลานานนาดนั้น ให้ทานอาหารเป็นถั่วแดงกระป๋องก็ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าคุณผ่านช่วงตั้งครรภ์และให้นมลูกไปแล้ว เพราะอาหารกระป๋องมักจะมีส่วนผสมของโซเดี่ยม ที่ทำให้เก็บอาหารได้เป็นเวลานาน ผสมปนอยู่ด้วย และ มันไม่ดีกับแม่และลูกเท่าไหร
เมล็ดแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าคุณเผลอไปกิน เมล็ดแอปเปิ้ล จำนวนมากๆ ล่ะก็เตรียมเรียกคุณหมอด่วน เพราะมันมีฤทธิ์เป็นพิษ เช่นเดียวกับ ไซยาไนด์(Cyanide) ที่เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ร้ายแรงมากชนิดนึงเลยก็ว่าได้
นมดิบ
นมเป็นแหล้งแคลเซี่ยม และ โปรตีนชั้นดี นมที่เราได้ดื่มส่วนใหญ่ ที่หาได้ตามห้าง ร้านสะดวกซื้อ หรือ ซุปเปอร์มาเก็ตส่วนใหญ่จะผ่านการ ทำการฆ่าเชื้อมาแล้ว เชื้อที่การพาสเจอไรต์ ช่วยกำจัดได้ ก็มักจะเป็นพวก แบกทีเรียอันตราย ลิสทีเรีย แซลมอนเนล่า หรือ อีโคไล ตามงานวิจัยของ CDC กรมควบคุมโรคในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า นมดิบที่ไม่ได้ผ่านการ พาสเจอไรต์นั้น มีเชื้อโรคมากถึง 150 เท่า
อีกทั้งนมดิบยังแทบไม่มีประโยชน์ใดๆกับร่างกายเลย เมื่อทานแล้ว อาการที่อาจจะพบเจอได้ก็คือ ท้องเสีย ปวดลำไส้ อาเจียน นี่เป็นเพียงแค่อาการเริ่มต้นเท่านั้น
อาหารแสลงห้ามกินหลังคลอด มีอะไรบ้าง
อาหารแสลงห้ามกินหลังคลอด เป็นความเชื่อของคนโบราณที่มีการบอกต่อๆ กันมาว่า เมื่อรับประทานอาหารพวกนี้เข้าไปแล้วอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว ผิดสำแดง เลือดลมตี น้ำคาวปลาไม่ไหล ไม่มีน้ำนมให้ลูก เป็นไข้ง่าย หรือร้ายกว่านั้นคืออาจทำให้คุณแม่เกิดอาการชักได้ค่ะ สำหรับความเชื่อเรื่องอาหารแม่หลังคลอด ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยก็มักจะมีข้อห้ามที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้
แม่ลูกอ่อนห้ามกินอะไร – ทางภาคเหนือ:
- อาหารต้องห้ามแม่หลังคลอด ได้แก่ ไข่ ปลา แกงทุกชนิด ของดอง พริก
- อาหารที่แม่หลังคลอดควรกิน ได้แก่ ข้าวกับเกลือหรือของแห้ง หมูปิ้ง แคปหมู ข้าวจี่ กล้วยน้ำหว้า น้ำต้มหัวไพลอุ่น เพราะจะทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และมีน้ำนมมาก
แม่ลูกอ่อนห้ามกินอะไร – ทางภาคใต้:
- อาหารต้องห้ามแม่หลังคลอด ได้แก่ มะละกอ ขนุน ฟักทอง ฟักเขียว ปลา หอย เห็ด เพราะเชื่อว่าทำให้ตัวเย็น รวมถึงหน่อไม้ ของดอง หัวหอม กล้วยหอม ข้าวเหนียว ยอดชะอม เนื้อวัว สัตว์ป่า เพราะอาจทำให้ปวดหัวได้
- อาหารที่แม่หลังคลอดควรกิน ได้แก่ พริกไทย กุ้งแห้ง เพราะจะทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว
แม่ลูกอ่อนห้ามกินอะไร – ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:
- อาหารต้องห้ามแม่หลังคลอด ได้แก่ น้ำร้อน ผักตำลึง ฟักทอง ชะอม กระถิน อาหารทะเล สัตว์ป่า ปลาชะโด ปลาหางแดง ข้าวเหนียว
- อาหารที่แม่หลังคลอดควรกิน ได้แก่ ข้าวกับเกลือ
แม่ลูกอ่อนห้ามกินอะไร – ทางภาคกลาง:
- อาหารต้องห้ามแม่หลังคลอด ได้แก่ อาหารทะเล ปลามีเกร็ด ชะอม เต้า อีเก้ง ปลาไหล ปลาดุก ถ้ากินจะทำให้เป็นไข้ได้ นอกจากนี้ ยังห้ามกินไข่เป็ด ไข่ไก่ เพราะอาจทำให้แผลหายช้า เนื้อหมูป่า ปลาบู่ ปลาไหล ปลาเกร็ดดำ ข้าวเหนียวดำ เห็ดโคน ถั่วฝักยาว ผักแว่น สะเดา มะรุม หน่อไม้ดอง แตงโม ส้มตำมะละกอ แกงบอน
- อาหารที่แม่หลังคลอดควรกิน ได้แก่ ปลาปิ้ง และข่าจิ้มเกลือ
ทั้งหมดนี้ เป็นความเชื่อของคนโบราณที่ว่าหากแม่ให้นมกินแล้วอาจทำให้ไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน อาเจียน อุจาระร่วง อ่อนเพลียง่าย น้ำนมไม่มา ปวดเมื่อยตามตัว โดยจะห้ามให้คุณแม่ระวังเรื่องอารแสดงประมาณ 3 เดือน แล้วค่อยๆ เริ่มกินทีละอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่ากินแล้วไม่ส่งผลอะไรถึงคุณแม่และลูกรน้อยค่ะ แต่มาถึงปัจจุบัน อาหารบางอย่างก็ไม่ได้ถูกห้ามอีกต่อไป แต่อาหารบางอย่างก็ยังคงห้ามอยู่ค่ะ โดยมีดังต่อไปนี้
- อาหารจำพวกเนื้อ ได้แก่ เนื้อควายเผือก เนื้อวัวสีดำ เป็ดเทศ กบ ปลาสวาย ปลานิล ปลาหมอ ปลาไหล ปลาหลด ปลาชะโด อาหารทะเล ปลากระป๋อง กุ้ง ปู แมงดา ปลาคางสวย ปลาไม่มีเกร็ด ปลากระทิง
- ผัก ได้แก่ ชะอม หอม หน่อไม้ แฟง ฟัก ผักชี ผักแว่น ตำลึง
- ผลไม้ ได้แก่ ขนุน กล้วย
- อาหารอื่นๆ ได้แก่ ปลาทะเล ไข่ เครื่องในหมู
ที่มา: vitacost
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
ระบบขับถ่ายของลูก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อึเหลว อึแข็ง แบบไหนอันตรายต่อลูกน้อย ?
แพทย์เตือน 9 สิ่งเด็กไม่ควรทาน เพราะเสี่ยงเป็นมะเร็ง
อาหารโซเดียมสูง แม่ท้องอย่ากิน ต้องระวังให้มากกินแล้วไม่ดี