รู้ไหมคะว่าพัฒนาการ ของเด็ก แต่ละคนนั้น ความเร็วความช้า มันแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของเด็กเหล่านั้น ว่าเขาจะได้เติบโตมาในรูปแบบไหน จะมีพัฒนาการช้า หรือ เร็วนั้น ทุกอย่างอยู่ที่สภาพแวดล้อมของลูกจริงๆ รวมถึงการพูด วันนี้เรามาดู 10 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด กระตุ้นลูกยังไงให้ลูกพูดเร็ว ทํายังไงให้พูดเก่งมาดูกันเลยค่ะ
ฝึกลูกพูดด้วย 10 วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด อยากให้ลูกพูดเก่งทำอย่างไร
1. วิธีพูดเก่ง ๆ ฝึกลูกพูดด้วยการฮัมเพลง
การศึกแสดงให้เห็นว่าลูกน้อยให้ความสำคัญกับเพลง มากกว่า การพูด เพราะฉะนั้น คุณแม่ควรจะฮัมเพลง เบา ๆ ให้ลูกฟัง เพราะมันจะดึงดูดความสนใจของลูกน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่กับลูก สองต่อสอง ก็จะสามารถกระตุ้นให้เขา มาฟังเพลง และ มีส่วนร่วมกับมันมากขึ้น เท่ากันว่า การฮัมเพลงนั้น เป็นการฝึกลูกพูด ไปในตัวด้วยค่ะ
2. ชี้ที่สิ่งของซ้ำ ๆ และพูด เป็นการฝึกลูกพูด
ชี้ไปที่สิ่งของต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันที่ คุณและลูก ใช้บ่อย ๆ การทำแบบนี้อาจจะดูตลกในทีแรก แต่ถ้าทำบ่อย ๆ รับรองได้เลยว่า ลูกจะเข้าใจภาษา และพูดได้เร็วขึ้น และคุณจะเซอร์ไพร์สกับการพูดคำเหล่านี้ของลูกคุณ เช่น นม นม นม แล้วชี้ที่ขวดนม หรือหน้าอกของคุณ
3. อ่านหนังสือคือการฝึกลูกพูด
การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง จะช่วยสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูก เป็นความรู้สึกดี ๆ ที่จะอยู่กับลูกไปจนโต และสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยังช่วยให้ครอบครัวอบอุ่น และจะช่วยเหนี่ยวรั้งลูกให้มีพฤติกรรมที่ดีได้ และในแง่ของการฝึกลูกพูด การอ่านนิทานจะทำให้ลูกจดจำคำพูดของพ่อแม่มากขึ้น และสามารถนำไปใช้ ในการพูดได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ฝึกลูกดูดนม ป้องกันการสำลัก ให้ลูกดูดนมอย่างไรถึงจะถูกวิธี
4. ยืดเสียงสระ คือการฝึกลูกพูด
การยืดเสียงสระให้ยาว จะช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจสิ่งที่คุณพูดมากขึ้น เช่น โนมมม บอลลล ลองหยิบคำศัพท์ง่าย ๆ มาเพิ่มเสียงสระให้ยาวขึ้น ก็จะทำให้รู้สึกอยากจะพูดตามมากขึ้น การศึกษาจากสหรัฐอเมริกา เผยว่า การทำแบบนี้ จะช่วยพัฒนาด้านภาษาของลูก
5. ฝึกลูกพูดด้วยการพูดกับลูกบ่อย ๆ
การพูดกับลูกบ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัยนั้น จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาการ ด้านการพูดของลูกเป็นอย่างดี โดยคุณพ่อ คุณแม่ สามารถพูดประโยคเดิม ๆ กับลูกบ่อย ๆ ก็จะทำให้ลูกจำการใช้ประโยคนั้นได้ เช่น อาบน้ำ หม่ำหม่ำ การพูดกับลูกบ่อย ๆ จะสามารถทำให้เกิด การพูด อย่างมีประสิทธิภาพได้เร็วขึ้น อย่าลืมชวนลูกคุยนะคะคุณพ่อคุณแม่
6. เปลี่ยนระดับเสียงเวลาพูดจะเป็นการฝึกลูกพูด
การฝึกฝนการพูดของลูกน้อย มีหลากหลายวิธี และหนึ่งในวิธีที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนระดับเสียง โทนเสียง หรือสำเนียงเสียง และการเปลี่ยนระดับเสียงก็จะยังให้ลูกเข้าใจได้อีกด้วยว่าควรพูดยังไง เช่น ถ้าอยู่ในบ้านก็ไม่ต้องพูดเสียงดังมาก และ วิธีฝึกลูกพูดโดยการใช้เปลี่ยนโทนเสียงที่น่าสนใจ คือ ให้พ่อแม่เปลี่ยนเสียง เป็นโทนต่าง ๆ เช่น เลียนเสียงเป็นหมีในการ์ตูน หรือเลียนเสียงเป็นเจ้าหญิง ดิสนีย์ ลูกจะให้ความสนใจ และอยากจะฝึกพูดกับเรามากขึ้น
7. ฝึกลูกพูดด้วยการเรียกชื่อลูกบ่อย ๆ
การเรียกชื่อลูกบ่อย ๆ เป็นวิธีช่วยให้ลูกฝึกพูด ด้วยการเริ่มพูดชื่อลูกก่อนประโยคต่าง ๆ รวมถึงพยายามสบตากับลูกขณะที่พูด เพราะจะทำให้ลูก เข้าใจได้ว่า นี่เรากำลังพูดกับเขาอยู่ และกำลังสื่อสารกับเขาอยู่นั้นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ฝึกลูกขับถ่ายได้ตอนกี่เดือน รู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมฝึกขับถ่ายแล้ว
8. ใช้ความสงสัยของลูกในการฝึกลูกพูด
คอยสังเกตให้ดีว่าลูกน้อยของคุณ สนใจอะไร เป็นพิเศษ บางทีลูกอาจจะสนใจ ตุ๊กตาหมี ขวดนม นาฬิกา รองเท้าของคุณพ่อ ก็เป็นได้ หากเรารู้ว่าลูกสนใจอะไร ให้นำสิ่งนั้นเป็นคำที่อยากจะให้ลูกพูด นักวิจัยเผยว่า ถ้าเด็กสนใจอะไร พวกเขาจะอยากเรียนรู้ และสงสัยว่าสิ่งสิ่งนั้นคืออะไร และเรียกว่าอย่าไงร
9. นัดให้ลูกเล่นกับเด็กคนอื่นเป็นการฝึกลูกพูด
การชวนให้ลูก ออกไปเล่น กับเด็กคนอื่น นั้นเป็นการกระตุ้น ให้พวกเขา ได้ฟังและพูด ตอบโต้ กับคนรอบตัว ซึ่งอาจจะฟังรู้เรื่องบ้าง พูดไม่รู้เรื่องบ้าง แต่มันก็เป็นช่วยให้ลูกเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมสังคมที่ทุกคนอยากจะพูด อยากจะคุย
10. ผลัดกันพูดกับลูกเป็นวิธีฝึกลูกพูด
การได้พูดกับลูกน้อยบ่อย ๆ นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การผลัดกันพูดจะเป็นการกระตุ้นได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นพยายามทำรูปประโยคให้สั้น และ คุณกับลูกจะสามารถตอบโต้กันได้ในส่วนของคำพูดนั้นเองนะคะ อย่าลืมผลัดกันพูดกับลูกบ่อยๆนะ
ที่มา: motherandbaby, urbanchildinstitute, Parents
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
จะรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนนี้ดี? คำแนะนำช่วยเลือกโรงเรียนให้ลูก
16 กิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการเด็กเล็ก เกมสำหรับเด็กที่พ่อทำเองได้ ไม่ต้องเสียเงิน
ลูกสมาธิสั้น หรือแค่ซนเป็นปกติ พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไร เด็กสมาธิสั้นมีอาการแบบไหน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
