จะรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนนี้ดี? คำแนะนำช่วยเลือกโรงเรียนให้ลูก
โรงเรียนเป็นสถานที่ ที่จะให้ความรู้แก่ลูกและเป็นที่ที่ เด็กทุกคนจะได้เรียนรู้วิชาการความรู้ทั่วไปแล้ว มันยังเป็นสนามแรกที่ลูกต้องออกไปเผชิญสังคมภายนอกโดยที่ไม่มีผู้ปกครองเป็นครั้งแรก เมื่อโรงเรียนหลายแห่งดูจากภายนอกก็มีความเคียงกันไปหมด ผู้ปกครอง จะรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนนี้ดี? คุณพ่อ คุณแม่ แต่ละคนก็มีความต้องการต่างกัน บางคนอยากให้ลูกได้เรียนต่อที่ดี ๆ มหาลัยระดับท้อป หรือ บางคนอาจจะอยากได้โรงเรียนที่เข้าใจ และ แคร์เรื่องสังคมของลูก วันนี้ TheAsianParent จะนำคุณมาอ่าน คำแนะนำเรื่องการเลือกโรงเรียน จาก ผู้อำนวยการโรงเรียนท่านหนึ่ง
ดูโรงเรียนที่ปฏิบัติดีกับครู
ผู้อำนวยการท่านนี้บอกว่ามีโรงเรียนจำนวนน้อยมากที่ไม่ดีเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอยู่ หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจก็ คือมีบางโรงเรียนที่ให้พนักงานทำงานหนัก ทำงานเกินหน้าที่ และ แสดงกริยาที่ไม่ดีกับพนักงานผู้สอน
จะ รู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนไหนเหมาะกับลูก
คุณครูที่เหนื่อยล้า และ ทุกข์ระทมไม่เป็นผลดีต่อลูกของ คุณแต่อย่างใด การสอนนั้นเป็นงานที่ยากลำบาก แต่บางโรงเรียนเองก็ไม่พยายามที่จะ พัฒนาคุณภาพชีวิตของคุณครูเลย เขาบอกว่าเขา ไม่อยากให้ลูกต้องไปเผชิญ กับสภาพแวดล้อมแบบนั้นเลย แม้ว่าโรงเรียนจะมีเชื่อเสียงแค่ไหนก็ตาม
สิ่งที่ควรจะถามโรงเรียนในกรณีที่คุณกำลังเลือกโรงเรียนให้ลูก
ฉันจะได้เห็นเกรดลูกบ่อยแค่ไหน?
การได้เห็นเกรดลูกบ่อย และอัพเดทอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ทำให้ลูกของคุณมีเกรดที่ดีขึ้น โรงเรียนหลายแห่งพยายามที่จะลดงานของคุณครูโดยการให้คุณครูทำงานเอกสารน้อยลง เพื่อให้คุณภาพชีวิตของคุณครูดีขึ้น
ฉันจะรู้พัฒนาการของลูกบ่อยแค่ไหน?
มันเป็นเรื่องดีที่ทางโรงเรียนจะอัพเดทพัฒนาการลูกของคุณ มันจะทำให้ผู้ปกครองทราบว่าลูกควรปรับเปลี่ยนอะไรตรงไหน ควรเสริมตรงไหน
จะรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนไหนเหมาะกับลูก
ปีนี้มีพนักงานใหม่เยอะหรือไม่?
บางครั้งบางโรงเรีนรก็จ้างครูใหม่เพื่อให้มีความ ใหม่และความสดชื่นให้กับโรงเรียน หรือโละหนักงานเก่าที่ไม่โอเคทิ้ง อย่างไรก็ตามถ้่ามีคนลาออกบ่อยนั่นแสดงว่า พนักงานไม่แฮปปี้กับโรงเรียน
ถ้ามีเหตุจำเป็นที่ต้องติดต่อ ทางโรงเรียนจะตอบกลับได้เร็วแค่ไหน
ทางโรงเรียนไม่สามารถตอบความข้องใจของคุณได้ในทันที ผู้ปกครองควรรอเวลาภายใน 24 ชั่วโมง มีโรงเรียนหลายแห่งที่แนะนำให้พนักงานเอาอีเมล์งานออกจากมือถือของตนเพื่อที่คุณครูจะได้ไม่ต้องทำงานตลอดเวลา
จะรู้ได้ยังไงว่า โรงเรียนไหนเหมาะกับลูก
คุณรู้สึกยังไงกับวิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการ?
พนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์การบริหารโรงเรียนจะมีความสุขมากกว่า ส่วนโรงเรียนไหนที่มีพนักงานรู้สึกว่าทิศทางของโรงเรียนนั้นไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่จะไม่ค่อยแฮปปี้ เราสามารถดูสภาพจากตรงนนั้นได้เช่นกัน
คุณทำงานที่นี่มานานแค่ไหน? และจะทำไปอีกนานมั๊ย?
ไม่ว่าจะเป็นคุณครูที่พึ่งเข้ามาทำงานใหม่ หรือ คุณครูที่อยู่มานานแล้ว การได้สอบถามคุณครูจะทำให้เรารู้ได้ว่าจริงๆแล้วเขารู้สึกอย่างไร เข้ากับสภาพของที่นี่ได้หรือไม่
ลูกเข้าโรงเรียน ใช้เอกสารอะไรบ้าง
ลูกเข้าโรงเรียน จำเป็นต้องใช้เอกสารอะไรในการสมัครอะไรบ้าง ถ้าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อเลี้ยงเดี่ยว ไม่มีเอกสารของพ่อ ไม่มีเอกสารของทางแม่ ต้องทำอย่างไร จำเป็นต้องมีเอกสารของพ่อแม่ให้ครบไหม สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังสงสัยถึงวิธีการสมัครเรียนของลูกทั้งระดับอนุบาล และระดับประถมศึกษา ควรทำอย่างไร เรามีคำตอบ
จะรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนไหนเหมาะกับลูก
เอกสารสมัครเรียนชั้นอนุบาล
- สำเนาทะเบียนบ้านหน้าที่มีชื่อนักเรียน 1 ฉบับ
- สำเนาสูติบัตรหรือใบเกิดของนักเรียน 1 ฉบับ
- รูปถ่ายหน้าตรงของนักเรียนขนาด 2 นิ้ว
- สำเนาบัตรประชาชนบิดา มารดา ผู้ปกครอง คนละ 1 ฉบับ
- หลักฐานการเรียนจากโรงเรียนเดิม (สำหรับ อ.2 และ อ.3)
ค่าเทอมจะรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนไหนเหมาะกับ ลูกอนุบาล
เอกสารสมัครเรียนชั้นประถม
- สำเนาทะเบียนบ้านหน้าที่มีชื่อนักเรียน 1 ฉบับ
- สำเนาสูติบัตรหรือใบเกิดของนักเรียน 1 ฉบับ
- รูปถ่ายหน้าตรงของนักเรียนขนาด 2 นิ้ว
- สำเนาบัตรประชาชนบิดา มารดา ผู้ปกครอง คนละ 1 ฉบับ
- ใบรับรองจากโรงเรียนเดิม 1 ฉบับ
- สมุดรายงาน ปพ.1 ปพ.6 และ ปพ.8
- ทะเบียนนักเรียน (ถ้ามี)
Source : theguardian
theAsianparent Thailand เชื่อว่าการศึกษาที่ดีจะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้างสภาะแวดล้อม ในการเรียนรู้ได้อย่างสมวัย และ เป็นไปตามที่ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องการการเลือกโรงเรียนให้กับลูก คือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริทสร้างพหุปัญญษทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ต่อเนื่องไม่จำกัด และ ทำให้เด็กค้นพบตัวตน และมีความสุขกับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
สิ่งที่ต้องรู้ก่อน ส่งลูกไปโรงเรียน จากคุณแม่ ที่เป็นทั้งคุณครูและคุณแม่
คุณแม่ต้องรู้!! 5 วิธี ปกป้องลูกน้อยจากโรคติดเชื้อ ในโรงเรียนอนุบาล
พ่อแม่รู้ไหม…ส่งลูกเข้าโรงเรียนเร็วเกินไปอาจทำให้ ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น !
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!