TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง แม่ท้องต้องทำอย่างไร

บทความ 3 นาที
ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง แม่ท้องต้องทำอย่างไร

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากให้ลูกคลอดออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยกันทั้งนั้น และสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะเกิดความวิตกกังวล เมื่อพบว่าลูกน้อยที่คลอดออกมามีภาวะตัวเหลือง ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับภาวะตัวเหลืองกัน

ภาวะตัวเหลือง คืออะไร

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง : รศ. พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน อธิบายถึงเรื่องภาวะตัวเหลืองไว้ว่า ภาวะตัวเหลืองในเด็ก เกิดขึ้นจากการแตกของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดสารสีเหลืองที่เรียกว่า “บิลิรูบิน” สารนี้จะอยู่ในกระแสเลือด ร่างกายต้องกำจัดออกทางตับ โดยเอนไซน์ในตับจะช่วยเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะส่งต่อไปยังลำไส้ และขับถ่ายสารเหลืองออกมาทางอุจจาระมากที่สุด ดังนั้นหากมีโรค หรือ ความผิดปกติใดๆของร่างกายที่มีผลต่อขั้นตอนเหล่านี้ก็จะส่งผลให้ทารกตัวเหลืองมากกว่าปกตินั่นเอง

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง ภาวะตัวเหลือง

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง

ทำไมลูกจึงมีภาวะตัวเหลือง

ภาวะตัวเหลือง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กแรกเกิด และอาจจะพบได้มากขึ้นหากทารกคลอดก่อนกำหนด โดยเด็กจะมีอาการตัวเหลืองที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งภาวะตัวเหลืองนั้น แบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่

1. ภาวะตัวเหลืองปกติ

เป็นภาวะตัวเหลืองที่พบบ่อยในทารกแรกเกิดเกือบทุกคน ทำให้ทารกตัวเหลืองเล็กน้อยตอนที่อายุได้ 3-5 วัน จากนั้นจะค่อย ๆ เหลืองน้อยลงจนหายได้เอง และมักจะไม่เป็นอันตรายต่อทารกแรกเกิด

ภาวะตัวเหลืองปกตินี้ มีสาเหตุมาจาก ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกปกติในทารกแรกเกิดเด็ก เมื่อเม็ดเลือดแดงแตกออกก็จะมีสารเหลืองออกมาด้วย

และด้วยความที่เด็กแรกเกิดมีเม็ดเลือดแดงมากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งเม็ดเลือดแดงในเด็กมีอายุสั้น และมีเม็ดเลือดแดงที่สร้างไม่สมบูรณ์ปริมาณมาก เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ และการทำงานของตับเด็กแรกเกิดก็ยังไม่สมบูรณ์จึงกำจัดสารเหลืองได้ช้า ทำให้เกิดภาวะตัวเหลืองปกตินั่นเอง

2. ภาวะตัวเหลืองผิดปกติ หรือตัวเหลืองเนื่องจากเป็นโรค

ภาวะตัวเหลืองผิดปกติ หรือตัวเหลืองเนื่องจากเป็นโรค จะมีลักษณะที่สังเกตได้ คือ เริ่มเหลืองเร็ว เมื่ออายุน้อยกว่า 24 ชั่วโมง และอัตราการเพิ่มของค่าสารเหลืองในเลือดเพิ่มขึ้นเร็วมาก และมีตัวเหลืองนานเกินกว่า 14 วัน โดยเฉพาะทารกที่ไม่ได้กินนมแม่

สาเหตุของภาวะตัวเหลืองผิดปกติ หรือตัวเหลืองเนื่องจากเป็นโรค ที่พบบ่อย ได้แก่

  • กรุ๊ปเลือดแม่และลูกไม่เข้ากันทำให้เม็ดเลือดแดงแตกมาก พบในแม่เลือดกรุ๊ป O และลูกเป็น กรุ๊ป A หรือ B
  • ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกมาก เนื่องจากโรคที่เม็ดเลือดแดงผิดปกติ ได้แก่ โรคธาลัสซีเมีย, โรคขาดเอนไซน์ G6PD เด็กที่คลอดโดยใช้เครื่องดูดช่วยคลอดจะมีเลือดออกใต้หนังศีรษะ ซึ่งเลือดที่ออกนี้ทำให้มีเม็ดเลือดแดงที่แตกเพิ่มขึ้น
  • เด็กที่มีการทำงานของตับไม่สมบูรณ์ หรือมีโรคกรรมพันธุ์บางอย่างของตับ ทำให้กำจัดสารเหลืองได้น้อยลง

นอกจากนี้ ความผิดปกติที่ลำไส้ เช่นภาวะลำไส้อุดตัน ทำให้มีการดูดซึมสารเหลืองกลับเข้ากระแสเลือดมากกว่าปกติแทนที่จะขับถ่ายออกไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กตัวเหลืองได้

ภาวะตัวเหลือง ส่งผลร้ายต่อทารกอย่างไร ?

  • หากทารกมีภาวะตัวเหลืองโดยที่ไม่ได้ดำเนินการรักษาจนระดับของบิลิรูบินในเลือดสูงมาก บิลิรูบินก็จะเข้าไปสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อสมอง และก่อให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาทได้
  • ถ้าหากเกิดขึ้นเฉียบพลัน ทารกจะมีอาการซึม ดูดนมน้อยลง ตัวอ่อนปวกเปียก หรือ อาจเกิดอาการเกร็งหลังแอ่น ชัก มีอาการไข้ และอาจร้องไห้เสียงแหลม
  • หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ในระยะเวลา 6-12 เดือนต่อมา ร่างกายและแขนขาของทารกจะมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ การได้ยินและการเคลื่อนไหวของลูกตาผิดปกติ พัฒนาการล่าช้า ระดับสติปัญญาลดลง ซึ่งอาการเหล่านี้ หากเกิดขึ้นในทารกแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แม้ว่าจะลดระดับของบิลิรูบินจนเข้าสู่ภาวะปกติก็ตาม

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง ทำอย่างไร ติดตามต่อหน้าถัดไป >>>

ภาวะตัวเหลือง รักษาอย่างไร

คุณหมอรวีรัตน์ กล่าวถึงวิธีการรักษาภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิดเอาไว้ว่า ภาวะตัวเหลืองในเด็กแรกเกิดมีวิธีการรักษาในโรงพยาบาลโดยการส่องไฟ และการเปลี่ยนถ่ายเลือดหากค่าสารเหลืองสูงมาก หลังจากการรักษาคุณหมอจะตรวจระดับค่าสารเหลืองซ้ำ ถ้าระดับบิลิรูบินลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง

ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง

คำแนะนำเกี่ยวกับภาวะตัวเหลือง

หากพบว่าลูกมีภาวะตัวเหลืองตั้งแต่แรกคลอด คุณหมอก็จะทำการรักษาตามวิธีมาตรฐานอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีการนัดตรวจติดตาม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยมาตรวจตามที่คุณหมอนัดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อกลับไปอยู่บ้านแล้วพบว่าลูกมีอาการตัวเหลืองเพิ่มขึ้น ควรนำลูกมาตรวจที่โรงพยาบาลทันที นอกจากนี้ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ ได้แก่

  • สังเกตสีอุจจาระ หรือปัสสาวะของทารก หากพบว่าผิดปกติ เช่น อุจจาระมีสีซีด หรือ ปัสสาวะมีน้ำตาลเข้ม ควรพาลูกไปพบคุณหมอทันที
  • สังเกตอาการ หรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีไข้ ซึม ไม่ดูดนม หรือท้องอืด หากพบอาการเหล่านี้ ควรพาลูกน้อยมาพบแพทย์ทันที
  • แนะนำให้เลี้ยงทารกด้วยน้ำนมแม่ และให้ลูกกินนมแม่ทันทีที่เป็นไปได้หลังคลอด

ควรปฏิบัติตัวอย่างไรดี

เพื่อความปลอดภัยและลดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ คุณแม่ท้องควรปฏิบัติดังนี้

  • ตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งหากพบว่ามีความผิดปกติใด ๆ คุณหมอก็จะประเมินพร้อมให้คำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยได้
  • เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ ควรไปฝากครรภ์เสียแต่เนิ่น ๆ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด
  • ให้ลูกดูดนมแม่หลังคลอด จะช่วยให้ลำไส้ของลูกเคลื่อนตัวได้ดี และเป็นการช่วยขับสารสีเหลือง หรือ บิลิรูบิน ได้อีกด้วย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สัญญาณอันตรายใกล้คลอด โค้งสุดท้ายก่อนเป็นแม่คน

เคล็ดลับคลอดง่าย ต้องกินอะไรก่อนคลอด

หลังคลอดกินยาสตรีได้ไหม อยากให้น้ำคาวปลาไหลดี มดลูกเข้าอู่เร็ว ทำอย่างไร

parenttown

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

theAsianparent Editorial Team

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • ไม่อยากให้ลูกคลอดมาตัวเหลือง แม่ท้องต้องทำอย่างไร
แชร์ :
  • นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

    นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

  • ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

    ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

  • อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

    อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

  • นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

    นิสัยง่ายๆ ของคนท้องที่ช่วย ลดความเสี่ยง ออทิสติก ให้ลูกได้

  • ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

    ลูกในท้องเป็น ทริปเปิ้ลเอ็กซ์ซินโดรม แม่ควรตั้งท้องต่อ หรือ พอแค่นี้?

  • อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

    อันตรายจากการคลอดก่อนกำหนด กรมอนามัยแนะ 8 วิธีป้องกันง่ายๆ ทำได้จริง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว