X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ระวัง! โรคไข้หวัดใหญ่คร่าชีวิตเด็กชายสุขภาพดีวัย 5 ขวบ

บทความ 3 นาที
ระวัง! โรคไข้หวัดใหญ่คร่าชีวิตเด็กชายสุขภาพดีวัย 5 ขวบ

โรคไข้หวัดหมู ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไปของไวรัส H1N1 ได้กลายมาเป็นโรคระบาดรุนแรงทั่วโลกในปี 2552 โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18,500 คนใน 214 ประเทศ และล่าสุดได้คร่าชีวิตเด็กชายชาวไอริชวัย 5 ขวบ ทั้งๆ ที่เด็กคนดังกล่าวมีสุขภาพแข็งแรงดีก่อนที่จะติดเชื้อไข้หวัดมรณะชนิดนี้

พ่อแม่ของเด็กชายวัย 5 ขวบที่เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ กล่าวถึงลูกชายของตนว่าเป็นเด็กที่ “ไม่เคยป่วยเลยตลอดช่วงชีวิตสั้นๆ ของเขา” แต่เมื่อได้ติดเชื้อโรคไข้หวัดหมู ผลกระทบกลับสร้างความสูญเสียที่รุนแรงและรวดเร็วมาก

หนูน้อยได้รับการรักษาเบื้องต้นจากแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่น Sligo และโรงพยาบาลเด็ก Our Lady’s ในครัมลิน นครดับบลิน แพทย์ได้รีบส่งตัวหนูน้อยไปยังห้องไอซียู แต่อาการของเขาทรุดลง และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาโดยมีสมาชิกในครอบครัวอยู่เคียงข้าง

กุมารแพทย์ท่านหนึ่งในโรงพยาบาลเด็ก Temple Street ได้ยืนยันว่าพบการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในเด็กเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม โดยรวมถึงเด็กเล็กที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและมีสุขภาพดีด้วย

“เด็กบางคนที่ติดเชื้อมีอาการหนักมาก” นายแพทย์กล่าว

โรคไข้หวัดหมู ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไปของไวรัส H1N1 ได้กลายมาเป็นโรคระบาดรุนแรงทั่วโลกในปี 2552 โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18,500 คนใน 214 ประเทศ ปัจจุบัน สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกัน

นอกจากนี้ แพทย์ยังให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ผู้ปกครองด้วยว่า หากต้องการความมั่นใจก็สามารถนำบุตรหลานที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปที่มีสุขภาพแข็งแรงมารับวัคซีนได้ ส่วนเด็กที่มีอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว เช่น โรคหลอดลมอักเสบหรือโรคหัวใจ จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีน

อาการของโรคไข้หวัดหมู H1N1

อาการของโรคไข้หวัดหมูคล้ายคลึงกับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งได้แก่:

  • มีไข้สูงฉับพลัน โดยมีอุณหภูมิร่างกาย 38 องศาเซลเซียส (100.4F) ขึ้นไป
  • รู้สึกเหนื่อย
  • ปวดกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ
  • ปวดศีรษะ
  • มีน้ำมูกไหลหรือคัดจมูก
  • ไอแห้ง

หากคุณมีอาการที่คล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่และมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดตามฤดูกาลสูงกว่าปกติ ให้ไปพบแพทย์ประจำตัวของคุณ โดยผู้มีความเสี่ยงสูง ได้แก่:

Advertisement
  • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
  • ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี
  • หญิงตั้งครรภ์
  • เด็กและผู้ใหญ่ที่มีภาวะทางสุขภาพที่เป็นอยู่แต่เดิม (โดยเฉพาะโรคหัวใจหรือโรคทางเดินหายใจระยะยาว)
  • เด็กและผู้ใหญ่ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

วิธีปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงไข้หวัดใหญ่ H1N1

  • ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอุ่นเป็นประจำ
  • ทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ เช่น แป้นพิมพ์ โทรศัพท์ และลูกบิดประตูเป็นประจำเพื่อกำจัดเชื้อโรค
  • ใช้กระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม
  • ทิ้งกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วลงในถังขยะทันที
  • วิธีรักษาตัวที่ดีที่สุด คือ การพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ทำร่างกายให้อบอุ่น และดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
  • รับประทานยาพาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟนเพื่อลดไข้และบรรเทาอาการปวด
  • หากจำเป็นต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติมหรือมีอาการแทรกซ้อน ให้ไปพบแพทย์ทันที

ที่มา: https://sg.theasianparent.com/

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ตั้งแต่แรกเกิด ด้วยนมแม่ที่มีคุณสมบัติเป็น H.A. (Hypoallergenic)
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก
พ่อแม่ต้องรู้! วิธีป้องกัน RSV ในเด็ก ช่วยลูกไม่ป่วยหนัก

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 อีกโรคที่แม่ควรรู้จักและป้องกันให้ลูก

5 โรคติดต่อควรเฝ้าระวังในปี 2559

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

หทัยกาญจน์ วอร์ด

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • ระวัง! โรคไข้หวัดใหญ่คร่าชีวิตเด็กชายสุขภาพดีวัย 5 ขวบ
แชร์ :
  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

  • หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

    หมอห่วง เด็ก 0-4 ขวบป่วยโควิดเยอะ ป่วยช่วงนี้ เสี่ยงโควิดสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

  • ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

    ลูกเป็นไข้ อาบน้ำได้ไหม วิธีไหนลดไข้เร็วที่สุด

  • เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

    เลี้ยงลูกปลอดภัย กินอย่างไร ไม่เสี่ยง โรคแอนแทรกซ์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว