TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

เมื่อฉันจับได้ว่าลูกชายช่วยตัวเอง!

บทความ 5 นาที
เมื่อฉันจับได้ว่าลูกชายช่วยตัวเอง!

คุณแม่ชาวสิงคโปร์ท่านหนึ่งได้พบลูกชายวัย 10 ขวบกำลังช่วยตัวเอง เธอผ่านวินาทีแสนช็อคมาได้อย่างไร และทำอะไรเพื่อให้ลูกกล้าเปิดเผยในเรื่องเพศ บทเรียนดีๆ สำหรับคุณแม่ที่มีลูกชายทุกคน

เจมี่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีลูกชายสองคนคือลีออนวัย 10 ขวบ และมาร์คัสวัย 7 ขวบ เธออาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ที่มีห้องแยกให้ลูก ในแต่ละวันเจมี่ซึ่งเป็นพยาบาลจะทำกลับบ้านดึกเนื่องจากเธอต้องเข้ากะ โดยลูกชายทั้งสอง จะอยู่กับพี่เลี้ยงที่อาศัยอยู่ด้วยกัน เธอบอกว่า การเป็นแม่ที่มีลูกชายทำให้เธอผ่านอะไรมาเยอะ บ้านไม่เคยเงียบ ข้าวของแตกหักอยู่ตลอดเวลา เธอชินเสียแล้วกับอะไรแบบนี้ แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นล่าสุด เธอบอกว่าถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว เมื่อฉันจับได้ว่า ลูกชายช่วยตัวเอง

ลูกชายช่วยตัวเอง

ประสบการณ์คุณแม่ เมื่อฉันจับได้ว่า ลูกชายช่วยตัวเอง !

วันที่เกิดเหตุ

วันนั้นเป็นวันเสาร์ เธอกลับบ้านประมาณเที่ยงคืนหลังจากทำงานที่โรงพยาบาลมาทั้งวัน ปกติแล้วห้องนอนลูกชายจะปิด แต่เธอก็จะเปิดดูลูกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม เพื่อเข้าไปกอดลูกและส่งลูกเข้านอน สิ่งนี้เป็นกิจวัตรประจำวันที่ลูก ๆ รู้ดี เช่นเดียวกับคืนนั้นที่เธอกำลังเข้าไปกู้ดไนท์ลีออนเป็นคนแรก

เมื่อเธอเดินเข้าไป เธอเริ่มสังเกตว่าโคมโฟหัวเตียงเปิดอยู่ ห้องก็เปิดไฟสลัว ๆ แล้วเธอก็เห็นลูกช่วยตัวเองอยู่ เธอเห็นชัดแจ๋ว จนเธอตะลึงไป ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าจะแสดงออกยังไงดี เธอยืนตัวแข็งอยู่อย่างนั้นประมาณ 2-3 วินาทีโดยตายังจ้องอยู่ที่ลูก ลีออนเองก็ตกใจไม่แพ้กัน สักพักก็ตะโกนออกไปว่า “แม่! ออกไป” แล้วก็เอาผ้าห่มคลุมตัวทันที

เจมี่เริ่มร้องไห้ ตอนนั้นเธอรู้สึกสับสน และมีหลายอารมณ์เกิดขึ้น เธอทั้งโกรธ รู้สึกขยะแขยง ไม่มั่นใจ เธอพยายามปลอบตัวเองให้สงบลงและปล่อยให้ลูกมีเวลาเยียวยา แล้วค่อยเผชิญหน้ากับเธอทีหลัง เธอกลับไปที่ห้อง และค่อยๆคิดว่าจะพูดกับลูกอย่างไรดี เธอจะต้องไม่แกล้งปล่อยให้มันผ่านไป เธอจะต้องหาวิธีพูดกับลูกให้ได้ แต่คำถามในหัวของเธอก็คือ ลูกเพิ่งอายุ 10 ขวบเองนะ  ลีออนไปรู้มาจากที่ไหน ? แล้วมาร์คัสจะทำด้วยไหม ? และฉันต้องทำยังไงดี ?

ลูกชายช่วยตัวเอง

ประสบการณ์คุณแม่ เมื่อฉันจับได้ว่า ลูกชายช่วยตัวเอง !

แม่-ลูก เปิดอกคุย

2-3 นาทีต่อมา เจมี่ตัดสินไปเคาะประตูห้องลูก ลีออนซุกตัวอยู่ที่มุมของขอบเตียง สีหน้าดูเป็นกังวลและเขินอาย เจมี่รู้สึกเสียใจต่อลูก เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกผิด เธอกล่าวว่า นี่คือสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เธอก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เธอนั่งลงข้าง ๆ ลีออน เอามือลูกมากุม และบอกลูกว่า “ไม่เป็นไรนะลูก เราแค่ต้องคุยนิดหน่อยเท่านั้นเอง แม่รู้ว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กผู้ชายก็ทำกัน  แม่แค่ไม่ทันตั้งตัวว่าลูกพร้อมแล้ว สำหรับเรื่องนี้”

ลีออนเริ่มกล้าพูดเปิดเผยกับแม่ เขาบอกว่า “แม่ มันน่าอาย อย่าบอกมาร์คัสนะ” เจมี่ให้คำรับปาก  ระหว่างการสนทนา ลีออนก็ยังไม่กล้าสบตาเธอ เธอเองก็วางตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่สุดท้าย ลูกก็ขอโทษเธอ ลีออนเล่าว่าที่โรงเรียนมีการสอนเรื่องเพศกันแล้ว เขารู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร และเคยช่วยตัวเองมาก่อนนั้น 2-3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาถามเธอว่า ผิดหรือที่ช่วยตัวเอง

เจมี่บอกว่าไม่ผิดหรอก มันเป็นกระบวนการทางธรรมชาติและไม่ใช่เรื่องน่าอาย ลูกกำลังโตขึ้นและสิ่งนี้ย่อมต้องเกิดขึ้น แม้ควรทำในที่ลับแต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาป  เจมี่รู้สึกขอบคุณโรงเรียนในใจเหมือนกัน ที่สอนให้เด็กเข้าใจเรื่องเพศ เรื่องร่างกาย เรื่องการปกป้องร่างกายตัวเอง ตลอดจนเรื่องเพศสัมพันธ์ มันทำให้การสนทนาระหว่างเธอและลูกง่ายขึ้นมาก

ลีออนรู้สึกดีขึ้นมากที่เธอไม่ทำโทษและเข้าใจในตัวเขา เจมี่เองก็ปรับอารมณ์และเข้าใจอะไร ๆ ขึ้น กับความเป็นธรรมชาติของเพศ มันไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิด หากพูดกับลูกอย่างตรงไปตรงมา

ลูกชายช่วยตัวเอง

ประสบการณ์คุณแม่ เมื่อฉันจับได้ว่า ลูกชายช่วยตัวเอง !

พูดเรื่องเพศกับลูกอย่างไร

แม้เรื่องที่ลูกช่วยตัวเองจะเป็นเรื่องน้ำท่วมปากสำหรับพ่อแม่  แต่สักวันหนึ่งเมื่อถึงวัยของเขา เราก็จะต้องผ่านจุดนี้กันให้ได้ จึงดีเสียกว่าที่จะสอนให้เขารู้จักเรื่องเพศ เรื่องความแตกต่างของเพศตั้งแต่เล็กๆ สอนให้เขารู้จักร่างกายตนเอง สอนเรื่องอวัยวะเพศ สอนว่าอย่าให้ใครมาสัมผัส (ในวัยเด็กเล็ก) เรื่อยไปถึงเรื่องความต้องการทางเพศ เรื่องสืบพันธุ์ เมื่อเขาโตขึ้น

บางทีอาจใช้หนังสือเป็นตัวช่วย อาจวางในห้องเขา ให้เขาลองอ่านคนเดียวเงียบๆก่อน และค่อย ๆ สอนเขา เช่น สงสัยอะไรไหม มีคำถามไหม นอกจากนี้ ควรสอนว่าการฝันเปียก ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ นั่นเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ และแปลได้ว่าลูกกำลังจะเป็นหนุ่มแล้ว

ทำให้เขามั่นใจว่า เราไม่เห็นว่าเป็นความผิดแปลก และนั่นจะเป็นกุญแจสำคัญ ให้ลูกกล้าเปิดเผยเรื่องเพศกับพ่อแม่ต่อไป เรามี 6 วิธีที่จะทำให้การคุยเรื่องเพศกับลูกง่ายขึ้นมากค่ะ

1. ให้มองเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติ

เมื่อหนูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พร้อมมีครอบครัว  เซ็กส์ เกิดจากความรักของพ่อกับแม่ และ การมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องที่ผิด เมื่อทำในเวลาที่เหมาะสม เช่น พ่อกับแม่ มีการชอบกัน รักกัน จึงแสดงออกถึงความรักด้วยการมีเซ็กส์ เป็นขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้หนูเกิดมา โดยหากว่าลูกของคุยยังอยู่ในวัยที่ยังไม่สามารถเข้าใจเรื่องราวได้มากนัก ก็ให้คุณพ่อคุณแม่นั้นอธิบายแต่ยังไม่ต้องลงรายละเอียดในเชิงลึกและปรับคำอธิบายต่าง ๆ ไปตามช่วงอายุวัยของพวกเขาอย่างเหมาะสม

2. หาเวลาส่วนตัวคุยกับลูก

ถ้าลูกถามถึงการมีเพศสัมพันธ์ให้พูดคุยกับลูกอย่างตรงไปตรงมา ถ้าลูกถามถึงการมีเพศสัมพันธ์ของคนที่มีเพศเดียวกัน ก็ให้ตอบตรง ๆ ว่า พวกเขาก็ทำเพื่อความรัก เช่นกัน ลองหาหนังสือ สื่อการสอนสมัยใหม่ที่สอนลูกเกี่ยวกับการปฏิสนธิ การร่วมรักของชายหญิง รักในเพศ LGBT และสอนว่าความรักที่มีความหลากหลาย ไม่ได้จำกัดเพศใดเพศหนึ่ง อย่าลืมที่จะสอนลูกว่าโลกเปิดกว้างมาก และสมัยนี้ก็มีเพศทางเลือก จะเป็นการดีถ้าคุณพ่อคุณแม่เปิดใจคุยเรื่องเพศกับพวกเขาตั้งแต่แรกเพราะมันจะทำให้พวกเขากล้าที่จะเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้คุณฟัง

3.ให้ลูกรักร่างกายตัวเอง ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิแตะต้องตัวลูกได้

สอนให้ลูกรู้จักส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และ หน้าที่ของมัน ทำให้สภาพแวดล้อม ในบ้าน และ ความสัมพันธ์ของคุณกับลูก เต็มไปด้วยความ ปลอดภัย ความไว้เนื้อเชื่อใจ ถ้าลูกไม่เชื่อใจคุณ เขาอาจจะไม่เล่าอะไรให้ฟังเลยก็ได้ บอกลูกว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถจับตัวลูกได้ และ ไม่ให้ใครจับอวัยวะเพศ ให้ลูกรู้ว่ามีคนที่คอยสนับสนุนเขาอยู่

4.  ลองใช้ละครหรือภาพยนตร์ในการเริ่มคุย

ปกติเรื่องเพศอยู่ในสื่อต่าง ๆ เช่นละครหลังข่าว คุณพ่อคุณแม่สามารถยกตัวอย่างเรื่องเพศที่เหมาะสม ให้เป็นตัวอย่างได้  เช่น การคบหา การแสดงออกถึงความรัก ศีลธรรมในการครองรักกัน การมีความสัมพันธ์และสร้างครอบครัว

5.สอนลูกป้องกันตัวเอง เมื่อลูกเข้าสู่วัยที่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้แล้ว

เริ่มสอนพวกเขา เกี่ยวกับการป้องกันตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ยาคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย การคุมกำเนิดที่ถูกต้อง เซ็กส์แบบไหนปลอดภัย และผลกระทบของการไม่คุมกำเนิด การต้องเป็นแม่วัยใส หรือพ่อวัยเรียน จะส่งผลต่ออนาคตอย่างไร

6. ทำให้ลูกสบายใจที่จะพูดคุยเรื่องเพศกับเรา

เมื่อพ่อแม่เป็นเหมือนเพื่อน ลูกก็จะสนิทใจ ที่จะพูดคุยเรื่องเพศกับเรา รับฟังเรื่องราวของลูกอย่างเปิดใจ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่จะต้องไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เมื่อลูกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ก็ควรรับฟังและโต้แย้งอย่างมีเหตุผลไม่ควรเอาอารมณ์โต้แย้ง สิ่งนี้จะทำให้ลูกอยากแบ่งปันเรื่องราวของพวกเขากับพ่อแม่ได้สนิทใจ

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

อ้างอิง : www.healthychildren.org

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ :

“เพศศึกษา” พ่อแม่ควรสอนลูกอย่างไร

6 บทบาทเพศหญิงที่แม่ควรสอนลูกสาว

TAP-ios-for-article-footer-with button

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

อิสราภรณ์ บุนนาค

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • เมื่อฉันจับได้ว่าลูกชายช่วยตัวเอง!
แชร์ :
  • ดราม่า พ่อฝึกลูกขาไถ เมื่อความคาดหวัง ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็ก

    ดราม่า พ่อฝึกลูกขาไถ เมื่อความคาดหวัง ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็ก

  • วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

    วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

  • วิทยาศาสตร์ยืนยัน ผู้หญิงต้องการนอนมากกว่าผู้ชาย เพราะใช้สมองมากกว่า

    วิทยาศาสตร์ยืนยัน ผู้หญิงต้องการนอนมากกว่าผู้ชาย เพราะใช้สมองมากกว่า

  • ดราม่า พ่อฝึกลูกขาไถ เมื่อความคาดหวัง ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็ก

    ดราม่า พ่อฝึกลูกขาไถ เมื่อความคาดหวัง ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็ก

  • วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

    วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

  • วิทยาศาสตร์ยืนยัน ผู้หญิงต้องการนอนมากกว่าผู้ชาย เพราะใช้สมองมากกว่า

    วิทยาศาสตร์ยืนยัน ผู้หญิงต้องการนอนมากกว่าผู้ชาย เพราะใช้สมองมากกว่า

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว