ลูกไม่ชอบทำการบ้าน ใช่ไหม! พ่อแม่ต้องจัดการด้วยวิธีนี้
การบ้านของลูกเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมากว่า ครูสั่งการบ้านมากหรือน้อยแบบไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลก็มีการสั่งให้ลดการบ้านเด็กลง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณครูแต่ละโรงเรียน แต่จำนวนการบ้านอาจไม่เป็นผลถ้า ลูกไม่ชอบทำการบ้าน นี่สิเรื่องที่พ่อแม่ควรจะใส่ใจเป็นพิเศา
หลายคนคิดว่า การเด็กทำการบ้านมากๆ ก็จะทำให้เขามีผลการเรียนที่ดีขึ้น เพราะได้ฝึกงานเยอะๆ ส่วนอีกกลุ่มกลับมองว่า การสั่งการบ้านเยอะๆ ทำให้เด็กมีเวลาเล่นน้อยลง รวมถึงเวลาที่สร้างความสัมพันธ์ร่วมกับพ่อแม่ หรือเพื่อนฝูงลง แต่การมอบหมายการบ้านก็ยังคงมีอยู่ต่อไป เพื่อให้เด็กเข้าใจบทเรียนมากขึ้นนั่นเอง เด็กบางคนไม่ชอบทำการบ้าน เพราะการบ้านเยอะหรือว่าไม่เข้าใจ ทำการบ้านไม่ได้ ทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดคิดว่าลูกทำการบ้านเสร็จแล้ว หรือไม่มีการบ้าน ก็จะทำให้เด็กมีผลการเรียนที่ไม่ดีได้ ดังนั้น พ่อแม่ควรมีส่วนร่วมในการทำการบ้านของลูก โดยมีวิธีการต่อไปนี้
1. คอยสอบถามเรื่องการบ้าน และกำหนดส่ง
พ่อแม่ต้องหาเวลาหลังจากกลับบ้าน คอยถามลูกว่าการบ้านมีอะไรบ้าง คุณครูสั่งเยอะไหม มีกำหนดส่งเมื่อไหร่ และถามว่าลูกเข้าใจไหม ทำได้หรือเปล่า และคอยชักชวนลูกทำการบ้าน พ่อแม่บางคนคาดหวังว่าจะให้ลูกทำการบ้านเสร็จภายใน 10 นาที แต่ในความเป็นจริงเด็กๆ อาจใช้เวลามากกว่านั้น อย่างเช่นเด็ก ป.2 อาจใช้เวลาถึง 20 นาที ส่วนเด็ก ป.5 อาจใช้เวลาถึง 50 นาทีเลยทีเดียว
2. จัดมุมทำการบ้านให้ลูก
พยายามสร้างมุมทำการบ้านให้ลูก โดยจัดโต๊ะ แสงไฟให้เหมาะสม เพื่อให้ลูกมีพื้นที่ในการทำการบ้านได้อย่างเต็มที่ และจะได้มีการจัดเก็บข้าวของที่ใช้ทำการบ้าน หรืออุปกรณ์ไปโรงเรียนได้อย่างที่เป็นทาง เพื่อที่จะได้หยิบนำไปใช้ทันทีเมื่อจำเป็นจะได้ไม่ได้ถามหาทีหลัง
3. ตรวจสอบเครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน
สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการทำการบ้านของลูกๆ คือ เครื่องเขียน ไม่ว่าจะเป็นดินสอ ยางลบ ปากกา หรือสี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าขาดหายไป เด็กมักจะใช้เป็นข้ออ้างว่าทำการบ้านไม่ได้และลูกก็จะไม่ทำการบ้านในที่สุด ดังนั้น พ่อแม่ต้องเตรียมพร้อมของเหล่านี้ให้เสมอ และต้องคอยดูว่าเวลาที่ลูกทำการบ้านเล่นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์หรือเปล่า ต้องบอกให้ลูกทำการบ้านให้เรียบร้อยก่อนค่อยเล่น ยกเว้นลูกเปิดเพื่อใช้ในการเรียน
4. ช่วยจัดเตรียมตารางเรียนให้ลูก
เมื่อพ่อแม่รู้ว่า พรุ่งนี้ลูกจะต้องเรียนอะไรบ้าง ลองถามย้ำว่าวิชาของพรุ่งนี้มีงานอะไรไหม ต้องเตรียมอะไรหรือเปล่า เพื่อเป็นการย้ำเตือนอีกที และให้แน่ใจว่าลูกจะได้ไม่พลาดกิจกรรมกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียนด้วย
สิ่งเหล่านี้ หากพ่อแม่ฝึกให้ลูกทำงานเป็นประจำ จะทำให้ลูกรู้ว่าเวลาไหนควรทำการบ้าน เวลาไหนควรเล่นจนติดเป็นนิสัย ซึ่งจะช่วยให้เขามีวินัยในการจัดการชีวิตของตนเอง รู้ว่าสิ่งไหนสำคัญก่อนหลัง ดีกว่าที่จะให้ลูกกลายเป็นคนที่ต้องมาเร่งรีบทำเอาตอนที่ใกล้กำหนดส่ง เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เด็กก็จะเลือกวิธีที่จะลอกมากกว่าคิดเอง สุดท้ายก็ไม่ได้ความรู้อะไรเลย
ที่มา : verywellfamily
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เปิดใจ แม่ “ตูน บอดี้สแลม” วิธีเลี้ยงลูกให้ดี แบบไหนที่ทำให้ลูกชายกลายเป็นฮีโร่กุมหัวใจคนไทยทั้งประเทศ
เปิดหัวใจ คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกสาวคนเดียวใครว่าไม่แฮปปี้!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!