ลูกโดนงูเห่ากัด
อยู่ในบ้านก็ใช่ว่าจะปลอดภัย แม่เล่าวินาที ลูกโดนงูเห่ากัด ตอนเข้าห้องน้ำ พร้อมเตือนวิธีผิด ๆ ที่ห้ามทำ และแนะนำวิธีปฐมพยาบาลเมื่อลูกโดนงูเห่ากัดที่ถูกต้อง โดยคุณแม่ท่านนี้ ได้โพสต์ถึงเรื่องลูกโดนงูเห่ากัด ว่า
ประสบการณ์จริงลูกโดนงูเห่ากัด
เรื่องราวจากประสบการณ์จริง
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว เหตุเกิดกับลูกสาวเราเอง
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 เวลา 06:50 ตอนเช้าวันนั้น #น้องมีนา ได้เข้าห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำไปโรงเรียน และเราก็รีดเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็มีเสียงกรี๊ดอย่างดังเราตกใจมากเมื่อมองไปเห็นงูกำลังกัดเท้าลูกอยู่ เห็นงูดิ้นไปมา (ด้วยความกลัวมากของเด็กก็จับงูออกจากท้าวเอง) งูก็เข้าไปที่ท่อระบายน้ำทิ้งในห้องน้ำ เรารีบวิ่งปรี๊เข้าไปหาลูกแล้วอุ้มลูกออกมาจากห้องน้ำทันที จากนั้นก็มองไปที่เท้าของลูกก็เห็นแผลมีเลือดออกลักษณะแผลมี 2 เขี้ยวก็รู้ทันทีว่าเป็นงูมีพิษ เรารีบหาผ้ามาพันเหนือแผลทันที แล้วบอกให้ลูกอยู่นิ่ง ๆ ห้ามขยับ ลูกก็ร้องไห้ด้วยความตกใจและกลัว แล้วก็เรียกสามีที่กำลังกรีดยางอยู่หลังบ้าน บอกว่าลูกโดนงูกัด พอสามีมาถึงก็หาตัวงู เราก็โทรศัพท์ไปที่ #1669 ทันที แล้วสามีก็เจอก็ตีงูเพื่อนำไปด้วย จากนั้นหน่วยกู้ภัก็มาปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำส่งโรงพยาบาล
งูเห่ากัดลูก
เมื่อมาถึง รพ.ระยอง ก็เข้าห้องฉุกเฉิน เราร้องไห้ตลอดลูกก็ร้อง (แม่หนูเจ็บ ๆ ) เราเหมือนใจสลายเหมือนตายทั้งเป็น กลัวมากกลัวกังวลว่าลูกจะเป็นอะไร หมอก็ให้แอดมิดแล้วดูอาการ ซึ่งอาการน้องตอนนั้นจะง่วงจะหลับตลอดเวลา เราก็จะพยายามปลุกลูกตลอดไม่ให้หลับ หมอก็ดูอาการแล้วก็บอกว่าเป็น #งูเห่า เรานี่ตกใจมากกลัวไปหมด กว่าหมอจะวินิจฉัยว่าเป็นงูเห่าก็เป็นเวลาเที่ยง ด้วยความกลัวว่าลูกจะเป็นอะไรเราก็ว่าหมอทำไมไม่ฉีดยาเซรุ่มให้ลูกซักที ตอนนั้นหมอก็น่าจะเครียดเหมือนกัน หมอได้บอกกับเราว่า (คุณแม่ใจเย็นก่อนนะ ถ้าฉีดยาให้น้องเลยถ้าน้องแพ้ยาก็เสียชีวิตใด้เลยนะ)
- จากนั้นหมอก็นำยาเซรุ่มมาเทสที่แขนน้องดู 5 นาที น้องไม่แพ้ไม่มีผื่น หมอก็ฉีดเซรุ่มให้ทันที ตอนนั้นเวลา 12:17 น.
- หมอก็ยังสังเกตอาการหลั่งฉีดเซรุ่มเข้าไป อาการน้องตอนนั้นก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ น้องโชคดีมากไม่มีอาการอะไรให้น่าเป็นห่วง
- 23:00 น. น้องก็เข้าห้องผ่าตัด จากนั้นอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ
- อยู่ รพ.เป็นเวลา 2 เดือน 2 วัน เราจะเอาวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เราก็เพิ่งได้รับความรู้จากประสบการณ์ครั้งนี้เพื่อเป็นวิทยาทานให้ความรู้กับทุกคนนะคะ
ลูก งูเห่ากัด ลูกโดนงูเห่ากัด ทำอย่างไร ลูกถูกงูกัด วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด ดูดพิษได้ไหม
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อลูกโดนงูเห่ากัด
วิธีการปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด
อันดับแรกเมื่อถูกงูกัด คือต้องมีสติก่อนเลยค่ะ ควรให้คนที่โดนกันอยู่นิ่ง ๆ พยายามไม่ให้ขยับมากที่สุด นำสำลีที่สะอาดปิดปากแผลเพื่อไม่ให้เชื้อโรคเข้าแผล จากนั้นให้เอาไม้ดามส่วนที่โดนกัด นำผ้ามาพันไม้กับแขนหรือขาที่โดนกัด ดามเหมือนคนแขนขาห้ก #ห้ามทำอะไรกับบาดแผลหรือใช้ปากดูดพิษ เพราะไม่ใด้ทำให้พิษออกมาอาจเป็นอันตรายกับคนที่ดูดแผลแล้ว บาดแผลอาจติดเชื้ออีก แล้วโทร 1669 แล้วถ่ายรูปงูหรือจำลักษณะงูที่กัด ให้อยู่ห่างงูแล้วนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แล้วโทร 1699 เป็นหน่วยงานที่จับงูโดยตรง เพื่อไม่ให้โดนงูกัดซ้ำ
งูมีระบบทำลายร่างการอยู่ 2 ระบบคือ
- ระบบปราสาท มี งูเห่า จงอาง ทับสมิงคลา สามเหลี่ยม
- ระบบเลือด มี งูกะปะ งูแมวเซา งูเขียวหางไหม้
อาการคนที่โดนงูเห่ากัด เป็นกลุ่มงูทำลายระบบปราสาท
จะมีอาการปวดที่บาดแผลร่วมด้วยอาการบวม จะมีอาการหนังตาตก ระบบร่างกายล้มเหลวหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ เสียชีวิตในที่สุด
การรักษา
สังเกตอาการ ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบากก็จะให้เครื่องช่วยหายใจโดยการหย่อนสายลงไปที่ลำคอ ฉีดยาเซรุ่ม
ฝากเป็นวิทยาทานเป็นความรู้กับคนที่ยังไม่เข้าใจกับเรื่องงูเห่าด้วยนะคะ เราก็เพิ่งเข้าใจ เพราะแต่ก่อนก็เข้าใจผิดมาตลอด ว่าต้องพันเชือกเหนือแผล ซึ่งมันจะทำให้เนื้อส่วนที่พันตายเพราะไม่มีเลือดไปเลี้ยงนั่นเอง อาจถึงต้องตัดส่วนนั้นทิ้งเลยนะ การดูดพิษเราก็คิดว่าจะดูดพิษเหมือนกัน555เพราะเห็นในละคร แต่เป็นความรู้ที่ผิด พิษจะฝังเข้าสู่ร่างกายแล้วเราก็ทำอะไรไม่ใด้หรอก หากมีข้อผิพลาดประการใดหรือมีอะไรแนะนำก็เม้นมาคุยได้เลยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ ตบมือให้ตัวเองรัวๆๆๆๆ ค่ะ
ที่มา : https://www.facebook.com/
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูกงูกัด
เพจงูพิษชิดใกล้ Thailand Snakes : Close Encouters อธิบายว่า การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องครับ เพิ่มเติมคือถ้าเป็นพิษงูที่ทำให้เกิดการบวมมาก ๆ ควรคลายผ้าเป็นระยะเพื่อไม่ให้การบวมทำให้ผ้ารัดแน่นจนเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ หรือถ้ามั่นใจว่าเป็นงูในกลุ่มพิษที่ทำให้เกิดการบวมมากๆ เช่น งูกะปะ งูเขียวหางไหม้ เป็นต้น ก็ไม่จำเป็นต้องพันผ้ากระชับกล้ามเนื้อ เพียงแค่ลดการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด เพื่อชะลอการดูดซึมพิษเป็นสิ่งที่สำคัญครับ
- ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือทันที ใช้ผ้าพันแผลหรือผ้าพันเคล็ดชนิดยืดหยุ่นได้ เริ่มพันจากรอยแผลถูกกัด แล้วพันต่อไปจนถึงข้อต่อ หรือสูงเหนือบาดแผลให้มากที่สุด
- หาไม้กระดานหรือวัสดุที่มีความแข็งมาดามแล้วพันด้วยผ้าพันแผลทับอีกครั้ง เพื่อให้อวัยวะส่วนที่ถูกกัดเคลื่อนไหวน้อยที่สุด เป็นการชะลอการดูดซึมพิษงูเข้าสู่กระแสเลือด
- นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการรักษาด้วยเซรุ่มแก้พิษงู
ที่มา : https://www.facebook.com/thailandsnakescloseencounters
เรื่องนี้ต้องขอขอบคุณคุณแม่ที่มาแชร์ประสบการณ์ลูกโดนงูเห่ากัด พร้อมกับเตือนเรื่องการดูดพิษ และแนะนำวิธีปฐมพยาบาลเมื่อลูกโดนงูเห่ากัดด้วยนะคะ
รู้กันไปแล้วถึงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อลูกโดนงูเห่ากัด มาโหวตกันหน่อยว่า คุณวางแผนมีลูกทั้งหมดกี่คน ถ้ากดโหวตไม่ได้ คลิกที่นี่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีปฐมพยาบาลคนท้องตกเลือด แม่ท้องตกเลือด พ่อควรทำยังไง ก่อนส่ง รพ.
ลูกหัวกระแทกพื้น ลูกล้มหัวโน หงายหลังหัวฟาดพื้น แบบไหนอันตราย ต้องไปหาหมอ
ล้างจมูก วิธีล้างจมูกให้ลูก ลูกป่วยภูมิแพ้ เป็นหวัด มีน้ำมูก ล้างจมูกให้ลูกโล่ง ช่วยให้ทารกหายป่วยไว
อุบัติเหตุในเด็ก อุบัติเหตุเกิดขึ้นกับลูก ได้ง่ายๆ พร้อมวิธีป้องกันอุบัติเหตุในเด็ก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!