TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

แม่อย่าเผลอเชียวนะ อาจถึงตาย 8 อย่างนี้คือ ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

บทความ 5 นาที
แม่อย่าเผลอเชียวนะ อาจถึงตาย  8 อย่างนี้คือ ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

เรามาดูกันค่ะว่าข้าวของอะไรบ้าง ที่ขึ้นชื่อว่าติดอันดับของโปรดของเด็กๆ อยู่เสมอ

เพราะของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าของกิน เรื่อยไปจนถึงของเล่นใกล้มือ บางทีก็อาจกลายเป็นวัตถุต้องห้าม การที่หนู ๆ จะคว้ากลืนจนทำให้สำลัก หรือติดคออาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงที่อันตราย เรามาดูกันค่ะว่า ข้าวของอะไรบ้าง ที่ขึ้นชื่อว่าติดอันดับของโปรดของเด็ก ๆ อยู่เสมอ และนี่คือ ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

แม่อย่าเผลอเชียวนะ อาจถึงตาย 8 อย่างนี้คือ ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

1. ป๊อบคอร์น และถั่วชนิดต่าง ๆ

ถั่ว และข้าวโพดคั่วเป็นอาหารโปรดของเด็ก ๆ อยู่แล้ว ยิ่งเป็นขนมที่คว้ากินง่าย เข้าไปได้ถี่ ๆ แบบนี้ เด็ก ๆ ยิ่งชื่นชอบเป็นพิเศษ และเป็นอาหารตัวดี ที่มักติดคอ และชวนสำลักได้ง่าย ๆ ทางที่ดีคุณแม่ควรนั่งกินด้วยอย่างใกล้ชิด หรืออยู่ใกล้ ๆ เสมอยามลูก ๆทานอาหารจำพวกนี้

2. ฮอตด็อก

อาจเป็นเพราะฮอตด็อกมาเป็นท่อนยาว ๆ พร้อมกับขนมปังคำโต ทางที่ดีควรแยกสองสิ่งนี้ออกจากกัน เวลาเสิร์ฟ เพื่อให้เด็ก ๆ ไม่ต้องอ้าปากกว้างนัก และจะได้กินทีละอย่างได้อย่างปลอดภัย

ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

3. แครอทดิบ

สำหรับอาหารชนิดนี้ ขอแนะนำให้คุณแม่ทำปรุง และหั่นเป็นคำ ๆ ก่อนเสิร์ฟ และรูปทรงในการหั่นที่เหมาะสม คือหั่นเป็นทางยาว ไม่ใช่เป็นวงกลม ที่ติดคอได้ง่ายกว่า

4. ลูกกวาด

เราหมายถึงลูกกวาดเม็ดแข็ง ๆ ที่ไม่ละลายระหว่างกลืนแน่ ๆ ยิ่งเม็ดกลม ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งชวนติดคอได้อย่างน่าใจหาย ฉะนั้น ควรเลี่ยงการให้ลูกกวาดกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ขวบ เพื่อเลี่ยงการติดที่หลอดลม และควรดูแลไม่ให้เด็ก ๆ เดินไปด้วย เล่นไปด้วย ระหว่างที่ยังอมไว้ในปาก

5. แอปเปิล

แม้จะมีประโยชน์ และรสอร่อย แต่ด้วยความที่มีความแข็ง ก็อาจทำให้ติดที่หลอดลมได้ ควรดูลูก ๆ อย่างใกล้ชิดขณะกินอาหาร และตัดให้พอดีคำ ส่วนเด็กโต ก็เริ่มที่จะหั่นคำโตได้ และสามารถทานเปลือกได้ แต่ก็ควรเน้นให้ลูก ๆ เคี้ยวให้ละเอียด

ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

6. ของเล่นชิ้นเล็ก

ของเล่นโดยเฉพาะลูกบอล และลูกแก้วนั้น เป็นของอันตรายสำหรับเด็กไม่น้อย เรื่องแนะนำคือ อย่าให้ของเล่นที่มีขนาดใหญ่กว่าแกนทิชชู่กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 3 ขวบ บอกให้ลูกที่โตกว่าเก็บของเล่นให้ดี (เพื่อไม่ให้ตัวเล็กเห็น) และคุณแม่ ก็คอยสอดส่องตามใต้เตียง ใต้เก้าอี้อีกทาง สำหรับของเล่นชิ้นเล็ก ที่อาจพลาดสายตา

7. เหรียญ

แม้จะเป็นเด็กโต เหรียญก็สามารถทำให้คุณแม่ตกใจได้ หากลูกเผลอกลืนลงคอ ซึ่งส่วนใหญ่ มักเป็นอุบัติเหตุมากเสียกว่าจะตั้งใจกลืนจริง ๆ และจะไปอุดที่หลอดลมซึ่งหากเกิดขึ้น ต้องรีบพบแพทย์ ฉะนั้นแล้ว การไม่เผลอวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้านก็จะช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง

8. เนยถั่ว

หากกินในคำเล็ก ๆ คงไม่เท่าไร แต่หากเป็นคำโตแล้วละก็ อาจติดหลอดลมได้แน่ ฉะนั้นแล้ว คุณแม่ควรดูแลระหว่างกินอย่างใกล้ชิด โดยตักพอดีคำ เช่นการปาดบาง ๆ ลงบนแผ่นขนมปัง หรือแครกเกอร์ เป็นต้น

ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อลูกอาหารติดคอ

บทความ : อาหารติดคอเด็ก ภัยร้ายใกล้ตัว ที่ต้องคอยระแวดระวังอยู่เสมอ

วิธีที่ 1 สำหรับหนูน้อยอายุไม่เกิน 1 ปี

  1. หาที่นั่ง หรือ จะนั่งคุกเข่าลงกับพื้น แล้วนำเด็กนอนคว่ำหน้าลงไว้บนขา กดศีรษะให้ต่ำกว่าลำตัว ใช้มือจับบริเวณขากรรไกร พร้อมกับ ประคองคอไปด้วย
  2. ใช้มืออีกข้างตบบริเวณหลังของเด็ก บริเวณสะบักด้วยสันมือประมาณ 5 ครั้ง ต้องตบแรง ๆ นะคะ
  3. พลิกตัวเด็กให้นอนหงายขึ้น เอามือจับประคองลูกไว้ที่บริเวณท้ายทอย
  4. ใช้นิ้ว 2 นิ้ว ของมืออีกข้างกดลงบริเวณกึ่งกลางของหน้าอกลูกน้อย โดยอยู่ในระยะที่ห่างจากหัวนมเด็กเล็กน้อย กดแรง ๆ 5 ครั้ง
  5. ให้ทำการตบหลัง 5 ครั้ง และ กดหน้าอก 5 ครั้ง สลับกันไปมา จนกว่าลูกจะร้อง หรือพูดออกมาได้

วิธีที่ 2 สำหรับหนูน้อยอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

  1. ให้เข้าไปที่ด้านหลัง โดยให้ลูกยืน หรือนั่งคุกเข่าก็ลง จากนั้นโอบรัดจากด้านหลังใต้รักแร้มาบริเวณด้านท้อง
  2. ใช้มือข้างหนึ่งกำไว้ แล้ววางไว้บริเวณเหนือสะดือใต้ลิ้นปี่ ส่วนมืออีกข้างกำกำปั้นไว้อีกทีหนึ่ง
  3. ดันนิ้วหัวแม่มือข้างที่กำไว้เข้าไปด้านในท้องของเด็ก รัดให้แน่นแล้วกะตุกขึ้น ให้ทำพร้อมกัน แรงๆ จนกว่าสิ่งที่ติดคอจะหลุดออกมา หรือจนกว่าจะมีเสียงเล็ดลอดออกมา
  4. ในกรณีที่หมดสติ ให้รีบทำการช่วยชีวิตทันที ในระหว่างที่พาไปโรงพยาบาล หรือรอการส่งตัว
  5. หากช่วยเหลือให้สิ่งของหลุดออกมาแล้ว ควรพาไปหาคุณหมอ เพื่อตรวจเช็คร่างกายอีกครั้งหนึ่ง

วิธีที่ 3 สำหรับหนูน้อยอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป (กรณีหมดสติ)

  1. ให้รีบโทรแจ้งรถพยาบาลทันที
  2. จับลูกนอนลงกับพื้น ตรวจดูว่าเด็กยังหายใจหรือไม่ หากไม่หายใจ ให้ดันคางขึ้นให้ศีรษะแหงนไปข้างหลังให้มากที่สุด แล้วนำมือมาบีบจมูกไว้ จากนั้นเป่าลมเข้าไปในปาก 2 ครั้ง แลัวสังเกตดูว่าลมเข้าไปภายในปอดหรือยัง ดูจากการขยับขึ้นลงของหน้าอก เสร็จแล้วเป่าอีกครั้งหลังจากที่หน้าอกยุบลง
  3. ถ้าเด็กยิ่งคงนิ่ง ให้ดันค้างสูงกว่าเดิม จากนั้นเป่าลมทางปากอีกครั้ง ถ้าไม่สำเร็จให้นั่งคร่อมที่ตัวของเด็ก ในท่าคุกเข่า แล้วใช้สันมือวางลงที่ระหว่างสะดือกับลิ้นปี่ ใช่มืออีกข้างกดทับมือลงไป กระแทกให้เร็วในจังหวะขึ้นลง 6-10 ครั้ง
  4. เปิดปากลูกดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาหรือยัง โดยการนำมือไปจับบริเวณขากรรไกรและลิ้น ใช้งอนิ้วชี้ของมืออีกข้างในลักษณะเหมือนตะขอ กวาดเข้าไปในปากตั้งแต่กระพุ้งแก้มไปจนถึงโคนลิ้น หากไม่พบให้ทำซ้ำตั้งแต่เป่าปากอีกรอบ

ที่มา

www.webmd.com

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หวิดดับ! เด็กสองขวบกลืนถ่านลงคอ

บทความจากพันธมิตร
ที่สุดของความนุ่ม แห้งสบาย! DODOLOVE Premium Air Pro Ultra Dry คว้า Best Baby Diapers 2025
ที่สุดของความนุ่ม แห้งสบาย! DODOLOVE Premium Air Pro Ultra Dry คว้า Best Baby Diapers 2025
Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
BabyLove Talking Pants ผ้าอ้อมที่ "พูด" ได้! คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี theAsianparent Awards 2025
BabyLove Talking Pants ผ้าอ้อมที่ "พูด" ได้! คว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี theAsianparent Awards 2025
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง

อุทาหรณ์! หนูน้อย 2 ขวบเสียชีวิต คาดเพราะกลืนถ่านกระดุม

สิ่งของ ของเล่นอันตราย ถ้าไม่อยากเสียใจ อย่าปล่อยให้ลูกเล่นลำพัง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

ชลลดา วาดนิ่ม

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • แม่อย่าเผลอเชียวนะ อาจถึงตาย 8 อย่างนี้คือ ของที่ลูกชอบคว้าเข้าปาก
แชร์ :
  • ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

    ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

    วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

  • ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

    ทำไมเราถึงจำช่วงที่เป็นทารกไม่ได้? อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์สมอง

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

    วิจัยใหม่ชี้! ลูกมีสมาร์ทโฟนเร็ว เสี่ยงซึมเศร้า อ้วน และนอนไม่พอ!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว