โรคฟันผุจากขวดนม คืออะไร
โรคฟันผุจากขวดนม (Baby Bottle Tooth Decay: BBTD) เกิดจากน้ำตาลในนมที่ค้างอยู่ในช่องปากเป็นเวลานานถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์ในช่องปากและเกิดเป็นกรด ซึ่งสามารถทำลายแคลเซียมในฟัน และนำไปสู่ปัญหาฟันผุในเด็ก
ช่วงวัยที่เสี่ยงต่อ โรคฟันผุจากขวดนม
ปัญหาฟันผุจากขวดนมตอนกลางคืนไม่ค่อยพบในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากฟันยังขึ้นเพียงไม่กี่ซี่ (เด็กอายุ 6-12 เดือนมีฟันประมาณ 8 ซี่ เป็นฟันหน้าด้านบนและล่างอย่างละ 4 ซี่ จึงง่ายต่อการทำความสะอาด)
ปัญหาฟันผุจากขวดนมส่วนใหญ่เกิดกับเด็กวัยเตาะแตะอายุระห่าง 1-2 ปีที่ไม่ยอมเลิกขวดนมตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังเป็นวัยที่คุณแม่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับสุขภาพฟัน ซึ่งในวัยนี้เจ้าตัวน้อยจะมีฟันประมาณ 18 ซี่แล้วและฟันน้ำนมจะขึ้นครบทั้ง 20 ซี่เมื่ออายุประมาณ 33 เดือน
สาเหตุ ลูกติดขวดนม
- อาจเป็นเพราะลูกรู้สึกมีความสุขหรือสบายใจเมื่อได้ดูดนมจากขวด หรืออาจเป็นเพราะลูกยังไม่มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง หรืออาจเคยชินกับขวดนมมากจนเกินไป
- คุณพ่อคุณแม่ใจไม่แข็งพอ เมื่อพยายามฝึกเลิกขวดนมไม่สำเร็จก็ยอมให้ลูกกลับไปดูดขวดนมอีก ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความสับสน และยิ่งทำให้ลูกเลิกขวดนมยากขึ้นอีก
- ไม่ฝึกลูกเลิกขวดนมในจังหวะเวลาที่เหมาะสม หากปล่อยให้ลูกดูดขวดนมเกินกว่าอายุ 18 เดือน แนวโน้มที่ลูกจะติดขวดนมย่อมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเลิกขวดนมของลูกในอนาคต
ผลเสียของการปล่อยให้ ลูกติดขวดนม
ปัญหาเด็กติดขวดนมอาจเป็นต้นเหตุของ “โรคฟันผุ” ที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในเด็กที่ไม่สามารถเข้านอนในเวลากลางคืนได้โดยไม่มีขวดนม ทั้งนี้ การที่เด็กดูดนมจากขวดในเวลากลางคืนทำให้มีน้ำนมค้างอยู่ในช่องปากเป็นเวลานาน น้ำตาลในนมจะกลายเป็นกรดที่ทำลายผิวฟันจนเกิดฟันผุ
โรคฟันผุจากขวดนม เป็นปัญหาฟันผุชนิดรุนแรงในเด็กปฐมวัย มักเกิดบริเวณด้านหลังของฟันหน้าและฟันกรามล่าง ซึ่งเป็นฟันส่วนที่สัมผัสจุกนมมากที่สุด รวมถึงเป็นส่วนที่น้ำนมติดค้างอยู่มากที่สุด หากปล่อยให้ลูกฟันผุจนถึงขั้นต้องถอนฟัน อาจเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ปัญหาในการเคี้ยวและกลืนอาหาร ปัญหาการพูด รวมถึงส่งผลกระทบต่อการงอกของฟันแท้ เช่น ฟันแท้อาจไม่ขึ้น หรือเกิดปัญหาฟันคุด และอาจทำให้ฟันแท้เรียงตัวไม่สวยงามอีกด้วย
นอกจากนี้จุกนมจะมีผลทำให้ฟันหน้าบนยื่น ฟันล่างหลุบเข้าไปในปาก ในบางคนอาจมีฟันหน้าไม่สบกัน ซึ่งจะมีผลต่อใบหน้าและบุคลิกภาพไม่สวยงาม ทำให้ระบบการบดเคี้ยวไม่ดี และระบบย่อยอาหารก็ไม่ดีเช่นกัน
วิธีป้องกัน โรคฟันผุจากขวดนม เมื่อลูกติดขวดนมก่อนนอน
กุมารแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำว่า พ่อแม่ควรให้ลูกเลิกขวดนมได้ตั้งแต่ในช่วงอายุ 6 เดือน และให้เลิกได้อย่างเด็ดขาดภายในอายุ 2 ขวบ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับลูก
อย่างไรก็ตาม เด็กแต่ละคนมีความพร้อมในการเลิกขวดนมต่างกัน หรือบางคนอาจเลิกขวดนมได้เองตามธรรมชาติโดยที่พ่อแม่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ
สำหรับเด็กที่ยังไม่พร้อมเลิกขวดนม คุณแม่สามารถช่วยให้การเลิกขวดนมของลูกประสบความสำเร็จได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ค่อยๆ เพิ่มปริมาณน้ำเมื่อชงนมผง เพื่อเจือจางน้ำตาลในนม อาจใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้แต่ขวดน้ำเปล่าโดยไม่ต้องใส่นม แต่หากคุณแม่สังเกตว่าเจ้าตัวน้อยนอนหลับไม่สนิท เพราะหิวจนต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ก็ควรให้นมเจ้าตัวน้อยตามเดิม เพื่อให้เขาอิ่มท้องและหลับสนิทตลอดคืน
- ไม่ปล่อยให้ลูกหลับไปพร้อมกับขวดนม หลังจากที่คุณให้ลูกดูดนมจากขวดตามปกติ ควรให้ลูกดูดน้ำตาม หรือหลับไปพร้อมกับขวดน้ำแทน โดยน้ำจะช่วยชะล้างคราบนมที่ติดในปากได้
- หลังจากดูดนมจากขวดก่อนนอนแล้ว คุณแม่ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำพันที่นิ้ว เช็ดฟันและเหงือกบริเวณที่ฟันยังไม่ขึ้นให้ลูกทุกคืน เพื่อเช็ดคราบนมออกจากฟันเจ้าตัวน้อย ควรพยายามทำก่อนที่ลูกจะหลับสนิท
- แปรงฟันให้ลูกวันละสองครั้งเช้า เย็น ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ การแปรงฟันตอนเช้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในเด็กที่ยังตื่นมากินนมมื้อดึก คุณแม่ควรแปรงฟันให้ลูกทันทีที่ตื่นนอนตอนเช้า เพื่อกำจัดคราบนมที่ติดอยู่ที่ฟันตลอดทั้งคืน
- พาเจ้าตัวน้อยไปตรวจฟันทุก 6 เดือนตั้งแต่ฟันขึ้นซี่แรก เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลฟันให้เจ้าตัวน้อยอย่างถูกวิธี รวมถึงเคลือบฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุด้วย
- ถ้าฟันชิดกันแล้วควรใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดบริเวณซอกฟันด้วย
วิธีฝึกลูกเลิกขวดนมตอนกลางคืน
- แทนที่ขวดนมในเวลาก่อนนอนด้วยการดื่มนมจากถ้วย การฝึกลูกเลิกขวดนมโดยการไม่ให้ขวดนมเจ้าตัวน้อยก่อนนอนนั้นถือเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุด แต่หากคุณแม่ตัดสินใจให้เจ้าตัวน้อยเลิกขวดนมอย่างเด็ดขาดแล้ว ต้องไม่ใจอ่อนเด็ดขาด ไม่ว่าลูกจะร้องสักแค่ไหน เพราะหากคุณแม่ยอมให้ลูกกลับไปใช้ขวดนม ยิ่งทำให้การเลิกขวดนมยากขึ้นกว่าเดิม
- สร้างกิจวัตรก่อนนอนอย่างอื่น แทนการดื่มนมจากขวดนม เช่น ให้ลูกดื่มนมจากถ้วย ก่อนจะให้ลูกแปรงฟัน ตามด้วยการเล่านิทานเรื่องโปรด การแสดงความรัก การกอด การหอม เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยให้เจ้าตัวน้อยคล้อยตามการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น
หากคุณแม่มีเคล็ดลับวิธีการฝึกลูกเลิกขวดนมก่อนนอน สามารถบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์แก่คุณแม่ท่านอื่นๆ ได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างนะคะ
ที่มา taamkru.com, webmd.com, parenting.com
ภาพประกอบ pinterest
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ระวัง! ฟันไม่เหลือ เมื่อลูกติดขวดนม
แก้อย่างไร?ลูกไม่เอาเต้าเฝ้าแต่ขวดนม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!