นับวันไข่ตก มูกไข่ตก มูกช่องคลอด (Cervical mucus) เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรรู้ เพื่อเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทั้งการป้องกันการตั้งครรภ์ และสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก จะลุ้นเอาวันไข่ตกเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีลูก ทั้งทางการมีเพศสัมพันธ์แบบธรรมชาติและการผสมเทียม วิธีนับวันไข่ตก คุณแม่หรือสาว ๆ ทราบหรือไม่ว่า ช่วงวัยเจริญพันธุ์ของคนเรานั้นมีโอกาสไข่ตกได้มากถึง 460 ครั้ง ดังนั้น วันนี้เราไปดูกันว่า จะสามารถทราบได้อย่างไรว่าไข่ตกเมื่อไร มูกไข่ตกมีกี่วัน รูปมูกไข่ตก มูกไข่ตกเกี่ยวข้องอย่างไร และนับวันไข่ตก วิธีตรวจวันไข่ตกได้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน
นับวันไข่ตก วิธีตรวจวันไข่ตก จากมูกจากช่องคลอด
เนื่องจากปากมดลูกของผู้หญิงจะมีการผลิตมูกตลอดวงจรการมีประจำเดือน โดยลักษณะและปริมาณของมูกจะมีความเหนียวข้นและความยืดหยุ่นตามอิทธิพลของฮอร์โมนเพศหญิงในแต่ละรอบเดือน ซึ่งมูกช่องคลอดมีบทบาทสำคัญในการปฏิสนธิของไข่ โดยในวันที่ไข่ตกนั้น เมือกที่ปากมดลูกจะมีส่วนช่วยให้สเปิร์มเคลื่อนที่เข้าสู่มดลูกได้ง่ายขึ้น และมีชีวิตอยู่ภายในร่างกายผู้หญิงได้นานขึ้น
- โดยปกติมูกจากช่องคลอดจะมีลักษณะแห้งและข้นเหนียว
- ช่วงใกล้วันตกไข่ ปากมดลูกจะผลิต “มูกไข่ตก” จากฮอร์โมนเอสโตรเจนจึงทำให้มูกปากมดลูกมีปริมาณมากขึ้น
- มูกไข่ตก จะมีลักษณะ ใส ลื่นและเปียก สามารถจับมูกยืดได้ยาว โดยเยื่อเมือกบริเวณปากมดลูกนี้ จะปรากฏระหว่าง 2 วันก่อนไข่ตก
ในขณะที่มีมูกออกจากปากมดลูก เราจะรู้สึกได้ที่บริเวณช่องคลอดเช่น รู้สึกแห้งหรือชื้นแฉะตรงปากช่องคลอดได้ตลอดเดือน ผู้หญิงเราสามารถจดบันทึกลักษณะของมูก และความรู้สึกที่ต่างกันในแต่ละวันเอาไว้ได้ ที่สำคัญ อย่าลืมให้ความสนใจกับมูก ตกขาว หรือสารคัดหลั่งใด ๆ ก็ตามที่ติดบนกางเกงชั้นในตลอดรอบเดือน เพื่อประเมินวันที่ไข่ตกได้ โดยกำหนดให้วันที่ 1 เป็นวันแรกของการมีประจำเดือน
ข้อดีของวิธีการสังเกต วิธีนับวันไข่ตก
- ดูจากมูกที่ติดกางเกงใน เราสามารถใช้วิธีสังเกตมูกจากปากมดลูก โดยไม่จำเป็นต้องวัดอุณหภูมิทุกเช้า เพียงแค่สังเกตลักษณะของมูกที่บ่งบอกถึงการตกไข่ ก็สามารถรู้วันที่ควรมีเพศสัมพันธ์ได้
- ใช้ความรู้สึก โดยไม่จำเป็นต้องตรวจภายใน เพียงแค่ใช้ความรู้สึกว่าแห้งหรือชื้นแฉะที่ช่องคลอดเท่านั้น
- ไม่ต้องคำนวณวันตกไข่ บางคนประจำเดือนมาไม่ตรงกัน จึงไม่เป็นต้องปวดหัวหาวันตกไข่ บางครั้งอาจพลาดได้
- จดบันทึกได้ง่าย คุณสามารถจดบันทึกลักษณะมูกที่เปลี่ยนแปลงในรอบเดือนลงบนปฏิทินที่คุณมีอยู่ที่บ้านก็ได้
ข้อเสียของการสังเกตมูกจากช่องคลอดหาวันไข่ตก
- มูกไข่ตกไม่สม่ำเสมอ ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น มูกปากมดลูกอาจไม่สามารถสังเกตได้ทุกคนเมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้วันตกไข่
- อายุมากสังเกตยาก ผู้หญิงวัย 30 ตอนปลาย และวัย 40 ขึ้นไป อาจมีมูกไข่ตกน้อยกว่าผู้หญิงที่อายุน้อย อาจจำเป็นต้องมีการตรวจภายในเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของมูกในโพรงมดลูก
- มีมูกไม่ได้หมายความว่าท้องได้ ตรงนี้ไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าการตกไข่โดยสังเกตจากมูกจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แม้ว่าการที่มูกมีปริมาณมากขึ้นเป็นสัญญาณว่าอาจจะมีการตกไข่ แต่ไม่การันตีว่า ไข่จะตกแน่นอน
สำหรับคู่ที่อยากมีลูก อาจใช้วิธีการวัดอุณหภูมิร่างกายในตอนเช้าร่วมกับการสังเกตมูกจากช่องคลอด จะช่วยให้การหาวันไข่ตกมีความแม่นยำมากขึ้นค่ะ หากอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ประกอบกับมีมูกใสปริมาณมาก และรู้สึกถึงความชื้นแฉะ นี่แหละคือช่วงที่เหมาะสมที่สุดที่จะปฏิบัติการ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องต้องรู้ อยากท้อง ไข่ตกสำคัญอย่างไร การนับวันไข่ตก
มูกไข่ตกมีกี่วัน นับวันตกไข่ยังไงให้แม่น ลูกมาเลย!
การที่ผู้หญิงเรามีภาวะ ตกไข่ หรือ ไข่ตก มูกไข่ตก สามารถเกิดขึ้นทุกเดือน โดยแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 28-35 วัน โดยนับวันแรกของการมีประจำเดือน ปกติแล้วใน 1 เดือน จะมีการตกไข่เพียง 1 ครั้ง และไข่สมบูรณ์นี้จะพร้อมรอการผสมพันธุ์เพียงแค่ 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น เรียกว่า คู่รักต้องพร้อมเสมอหากถึงเวลาปฏิบัติการ เพราะช่วงเวลานี้ไข่ได้รับการปฏิสนธิแล้วจะไปฝังตัวกับเยื่อบุผนังมดลูกกลายเป็นตัวอ่อน ทำให้เกิดการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ ถ้าอสุจิเข้าไปแล้วไข่ยังไม่ตก อสุจิของผู้ชายสามารถอยู่ในมดลูกได้อีก 48-72 ชั่วโมงหรือราว ๆ 2-3 วัน ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันวันไข่ตก แต่ไปมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่ตก 1-2 วัน ผู้หญิงก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้าไปมีหลังวันไข่ตกไปแล้วโอกาสตั้งครรภ์จะน้อยกว่า เพราะไข่มีอายุสั้นกว่า ดังนั้นการคำนวณวันไข่ตกจะช่วยให้เราเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. การนับวันไข่ตก
การนับวันไข่ตกจะสามารถทำได้ ก็ต่อเมื่อก่อนหน้านั้น มีการบันทึกวันที่ ประจำเดือน มาในรอบก่อนหน้าอย่างน้อย 2 รอบเดือน ซึ่งคนที่ประจำเดือนประจำมาไม่สม่ำเสมอ อาจต้องบันทึกย้อนกลับไปนานกว่านั้น
- นำระยะห่างระหว่างรอบเดือนลบด้วย 14 เช่น ถ้าระยะห่างระหว่างรอบเดือนคือ 28 วัน ให้นำ 28 – 14 = 14 (จากลำดับการนับวัน ไม่ใช่วันที่ 14 ของเดือน ดังนั้นไข่จะตกในวันที่ 14 ของรอบเดือน
- ถ้าระยะห่างระหว่างรอบเดือนคือ 32 วัน ให้นำ 32-14 = 18 ดังนั้นจะตกไข่ในวันที่ 18 ของรอบเดือน สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ การคำนวณวันไข่ตกด้วยวิธีนี้อาจจะคลาดเคลื่อนได้
2. การวัดอุณหภูมิร่างกาย
โดยพบว่าเมื่อใกล้ก่อนวันไข่ตก อุณหภูมิร่างกายจะลดลงเล็กน้อย และอุณหภูมิจะสูงขึ้นประมาณ 0.5 องศาเซลเซียสจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนทำงานเมื่อไข่ตกไปแล้ว ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาวัดสังเกตหาวันไข่ตกจากอุณหภูมิ 2-3 รอบเดือน แต่ในผู้หญิงบางคนก็อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายในช่วงไข่ตก ก็จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
3. การสังเกตมูกที่ปากมดลูก
ผู้หญิงเราสามารถสังเกตจากมูกที่ปากมดลูกในช่วงวันตกไข่ จะมีลักษณะที่แตกต่างจากมูกปกติ คือ บริเวณปากมดลูกจะมีมูกใส ๆ ออกปริมาณค่อนข้างเยอะ ถ้าจับออกมาจะมีลักษณะยืดยาวหลายเซนติเมตร แต่ในผู้หญิงบางคนก็ไม่มีมูกลักษณะแบบนี้เช่นกัน
4. การตรวจปัสสาวะเพื่อหาวันตกไข่
เป็นการตรวจปัสสาวะเพื่อหาช่วงที่ฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ LH (luteinizing hormone) ขึ้นสูง โดยปกติ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน LH อยู่ในระดับต่ำ ๆ และจะขึ้นสูงอย่างรวดเร็วก่อนไข่ตก 12-24 ชั่วโมง
ดังนั้น เมื่อตรวจปัสสาวะว่าฮอร์โมนขึ้นแล้วให้มีเพศสัมพันธ์ใน 24-48 ชั่วโมง วิธีการใช้ชุดตรวจสอบมีหลายรูปแบบ จึงควรอ่านคู่มือคำแนะนำการใช้ให้ละเอียดก่อนเสมอ
5. การตรวจหาวันไข่ตกจากน้ำลาย
การตรวจนี้ใช้เครื่องมือตรวจที่มีหลักการว่าในวันไข่ตกจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนขึ้นสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับเกลือแร่ในน้ำลาย จะพบว่าเมื่อนำน้ำลายช่วงใกล้ไข่ตกไปแตะลงบนเลนส์ของเครื่องมือตรวจ รอจนแห้งและเมื่อส่องดูจะพบลักษณะผลึกคล้ายใบเฟิร์น แต่ในกรณีที่ไม่ได้ตรวจหาวันไข่ตกด้วยวิธีใด ๆ เลย คู่สมรสที่ต้องการมีบุตรควรมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง : การนับวันไข่ตก หนึ่งเทคนิคสำคัญสำหรับคนที่อยากมีลูก
อาหารบำรุงไข่ของผู้หญิงให้แข็งแรง
- ไข่ มีโปรตีน วิตามิน A, B1, B2, D แคลเซียม และธาตุเหล็ก ผู้หญิงที่เตรียมตัวตั้งครรภ์ควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง
- น้ำเต้าหู้ มีโปรตีนสูงช่วยสร้างเนื้อเยื่อภายใน ผิวพรรณสดใส บำรุงสมอง
- งาดำ ควรรับประทานงาดำวันละ 3-4 ช้อนชาจะช่วยบำรุงไข่และมดลูกในแข็งแรง
- น้ำมะกรูด ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ให้ร่างกายผลิตไข่มากขึ้นและบำรุงมดลูก
- ผักใบเขียว ช่วยเพิ่มอัตราการตกไข่ให้มากขึ้น บำรุงครรภ์ ขับถ่ายสะดวก
- ถั่วต่าง ๆ มีโปรตีนจากธรรมชาติ เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์มากกว่า มากกว่าโปรตีนจากสัตว์
- ข้าวกล้อง คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดและบำรุงการทำงานของฮอร์โมนสืบพันธุ์
- กล้วยหอม ให้พลังงานสูง มีวิตามิน เกลือแร่ โพแทสเซียมสูง กรดอะมิโน ธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างระบบเจริญพันธุ์
- วิตามินบีและกรดโฟลิก มีมากในไข่แดง นม ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ซีเรียล โยเกิร์ต ช่วยให้ไข่ตกอย่างสม่ำเสมอ
- มะเขือเทศ มีสารไลโคปีนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผู้หญิงมีผิวพรรณสดใส สุขภาพดี
- ปลาทะเล อุดมไปด้วย โอเมก้า 3 เพิ่มการไหลเวียนของเลือด บำรุงฮอร์โมนในระบบสืบพันธุ์ให้แข็งแรง
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มีวิตามิน C สูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย บำรุงเซลล์สืบพันธุ์ให้แข็งแรง
- หอยนางรม มีสังกะสีและวิตามิน B12 ช่วยทำให้ร่างกายผลิตไข่ที่มีคุณภาพได้ดีและ ส่วนผู้ชายจะมีอสุจิแข็งแรง
- เมล็ดฟักทอง มีธาตุเหล็กที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ควรรับประทานแบบไม่ใส่เกลือ เพราะโซเดียมสูง
- มันฝรั่ง เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ดี ช่วยบำรุงรังไข่และปรับฮอร์โมนของผู้หญิงให้สมดุลและปกติ สามารถชะลอความแก่ได้ด้วย
นับวันไข่ตก อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณแม่มีลูกง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม วิธีตรวจวันไข่ตกนั้นอาจไม่ได้มีโอกาสตั้งครรภ์เสมอไป เพราะการตกไข่ของผู้หญิงแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่างกาย จำนวนวัน อาหาร และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้การตกไข่แต่ละเดือนไม่แม่นยำได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
การนับประจำเดือน คืออะไร แล้วนับประจำเดือนส่งผลดีอย่างไร
อยากท้องทำไงดี ทำไมถึงมีลูกยาก เคลียร์ทุกปัญหาคาใจ พร้อมวิธีแก้ไข
นับวันไข่ตกยังไงให้ท้อง พร้อมท่าเซ็กส์ วิธีนับวันไข่ตกที่ถูกต้อง แบบง่าย ๆ ท้องเร็วที่สุด ปล่อยยังไงให้ท้อง
คำถามจากประสบการณ์ตรงของคุณแม่ :
นับวันไข่ตกยังไง คุณแม่ท่านอื่นรู้ไหมคะ บอกเราหน่อยค่ะ
ที่มา : verywell, mahidol,worldwideivf
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!