ความสวยมันห้ามกันไม่ได้ ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงก็ย่อมอยากสวยเป็นธรรมดา ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ป้ายแดงที่พอคลอดลูกปุ๊บ ก็อยากจะเนรมิตรูปร่าง หน้า ผม ให้สวยเป๊ะเหมือนเดิมจริงไหมคะ คุณแม่หลาย ๆ คน ที่เกิดความสงสัยว่า ช่วงให้นมทำโบท็อก หรือศัลยกรรม จะได้หรือไม่ หากทำแล้ว ตัวยา ตัวสิริโคน จะส่งกผลกระทบกับตัวเด็กไหม ? เรามีคำตอบให้ค่ะ
ทั้งนี้ ข้อจำกัดของคุณแม่หลังคลอดมีอยู่ตรงที่ว่าต้องให้นมบุตร ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ายาต่าง ๆ ที่ต้องรับประทานหลังการศัลยกรรมจะส่งผลต่อลูกผ่านทางน้ำนมหรือไม่ รวมถึงกรณีที่อยากศัลยกรรมหน้าอก ก็กลัวว่าจะให้นมลูกไม่ได้อีก แบบนี้หลังคลอดกี่เดือนถึงศัลยกรรมได้กันล่ะ ? วันนี้เรารวบรวมคำตอบว่า ช่วงให้นมทำโบท็อก หรือศัลยกรรม มาให้คุณแม่อยากสวยกันแล้ว
วางแผนสักนิด ก่อนทำศัลยกรรม
สำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่อยากทำศัลยกรรมเสริมความงาม ควรวางแผน และพิจารณาถึงสิ่งที่จะต้องรับมือ ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม ดังนี้
1. การพักฟื้นหลังทำศัลยกรรม
สำหรับการพักฟื้นหลังทำศัลยกรรมต่าง ๆ อาจต้องใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ในการนอนพัก ประคบเย็น ประคบอุ่น บางกรณีก็อาจจะต้องมีท่านวดระหว่างพักฟื้น ดังนั้นคุณแม่หลังคลอดต้องมั่นใจว่า จะสามารถพักฟื้น และทำตามที่แพทย์แนะนำได้ โดยไม่กระทบต่อการเลี้ยงลูก
2. ระวังการกระแทก
ในการศัลยกรรมบางอย่าง เช่น เสริมจมูก จำเป็นจะต้องระวังไม่ให้จมูก กระทบกระเทือน หรือกระแทก เพราะอาจมีปัญหาตามมาในภายหลังได้ ซึ่งระหว่างนี้ หากคุณแม่ยังต้องอุ้มลูก ให้นมลูก ก็เสี่ยงต่อการที่มือ แขน ขา หรือศีรษะของลูกจะกระแทกจมูกได้ ส่วนใหญ่แล้วจึงเป็นสิ่งที่ระมัดระวังยาก
3. ยาปฏิชีวนะที่ต้องรับประทานหลังศัลยกรรม
ยาที่ใช้ในคุณแม่สำหรับการศัลยกรรม ได้แก่ ยาชา (1% Lidocaine + adrenaline) และยากินหลังผ่าตัด ยาแก้ปวด (Paracetamol 500mg) ยาฆ่าเชื้อ (Dicloxacillin 500mg) ถึงแม้ว่ายากลุ่มนี้จะมีผลต่อลูกผ่านทางน้ำนมน้อยมาก แต่การที่ลูกได้รับยาเหล่านี้ผ่านทางน้ำนมในระยะเวลาต่อเนื่อง โดยที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย ก็อาจส่งผลในอนาคตได้ เช่น เกิดการดื้อยา
4. ปั๊มนมไว้ แล้วไปทำศัลยกรรม
จริง ๆ แล้ววิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำหรับคุณแม่อยากสวย แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าหลังทำศัลยกรรมแล้ว จะเกิดเหตุไม่คาดคิดที่ทำให้ต้องกินยาต่อเนื่องหรือไม่ ในเมื่อเราไม่รู้ว่าจะต้องกินยาไปนานเท่าไร ดังนั้นการสต็อกน้ำนมไว้ ก็อาจไม่เพียงพอสำหรับลูกน้อยก็ได้
หลังคลอดกี่เดือน ทำศัลยกรรมได้ ?
หลังจากที่พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ขั้นต้นแล้ว คุณแม่หลังคลอดคนไหนที่มีความพร้อมจะทำศัลยกรรมต่อไป เรามีข้อแนะนำถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำศัลยกรรมมาฝากค่ะ
Portrait of female doctor choosing mammary prosthesis with her patient over white background.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำศัลยกรรมใบหน้าของคุณแม่หลังคลอด
เนื่องจากหลังคลอดลูก รูปร่าง โครงสร้าง หน้าตาของคุณแม่จะเปลื่ยนไป บางท่านบวม อ้วน มากขึ้น ทำให้เลือกรูปทรงจมูก ตา ปาก คาง และอื่น ๆ ที่เหมาะกับรูปหน้าจริงได้ยาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ควรรอให้ยุบบวม หรือน้ำหนักลดลงเกือบปกติ อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี แล้วค่อยทำศัลยกรรมจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม หลังการศัลยกรรมเสริมจมูก การเลี้ยงลูกที่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ อาจทำให้เลือดมาคั่งที่จมูกได้ และคุณแม่ยังต้องระมัดระวังการกระแทก จะหอม จะเล่นกับลูกก็ลำบากกว่าที่คิด แต่หากรอให้ลูกเริ่มโตสัก 3 ขวบ ลูกก็จะเริ่มรู้เรื่องและระมัดระวังไม่ให้จมูกคุณแม่กระทบกระเทือนได้ง่ายขึ้น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการศัลยกรรมหน้าอกของคุณแม่หลังคลอด
หลังคลอดลูกแล้ว ขนาดเต้านมของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับต้องให้นมลูก ดังนั้นหากเป็นไปได้ ควรรอให้ลูกหย่านมจากเต้าเรียบร้อยแล้ว หน้าอกจึงจะเริ่มค่อย ๆ เข้าที่ จนกระทั่ง 6 เดือนหลังลูกหย่านม หน้าอกจึงกลับสู่สภาวะปกติ คุณหมอก็จะสามารถวิเคราะห์รูปทรงหน้าอกเพื่อทำศัลยกรรมได้ว่าควรเป็นไปในทิศทางไหน โดยคุณแม่ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น
ทำศัลยกรรมหน้าอก ยังสามารถให้นมลูกได้ไหม ? มีผลข้างเคียงหรือเปล่า ?
นพ.สุรสิทธิ์ อัศดามงคล ศัลยแพทย์โรงพยาบาลบางมด ได้ให้ข้อมูลสำหรับการทำศัลยกรรมหน้าอกและการให้นมลูกว่า ก่อนที่จะทำศัลยกรรมหน้าอก ศัลยแพทย์จะตรวจดูก่อนว่าไม่มีโรคแทรกซ้อนใด ๆ หรือเป็นโรคประจำตัวอะไรอยู่ก่อน เช่น เบาหวาน ความดัน ถ้าเป็นโรคเหล่านี้อยู่ก็จะต้องรักษาตัวก่อน
ส่วนคุณแม่ที่ให้นมลูกก็ต้องทำการแจ้งกับหมอด้วยเช่นกันว่า ต้องการจะให้นมลูกจากเต้า ซึ่งจะเป็นการทำศัลยกรรมใต้กล้ามเนื้อ หลังทำก็สามารถให้นมลูกได้ตามปกติ ไม่มีผลข้างเคียงอะไร
อย่างไรด็ตาม คุณแม่บางรายอาจเกิดปัญหาในขณะให้นมลูกได้ เช่น
– มีปัญหานมคัดตึงตอนให้นมลูก
เนื่องจากการผ่าตัดเสริมเต้านม อาจมีการทำลายต่อมน้ำนม ท่อน้ำนม เส้นเลือด เส้นประสาทบ้าง โดยเฉพาะแผลผ่าตัดที่อยู่ใต้ลานนม ทำให้ขณะให้นมลูก อาจรู้สึกคัดตึง รู้สึกไม่สบายมากกว่าปกติ
– ปริมาณน้ำนมอาจลดลง
คุณแม่ที่เสริมเต้าบางรายอาจรู้สึกชาหัวนมเมื่อลูกดูดนม นอกจากนี้ปฏิกิริยาของระบบประสาทที่กระตุ้นให้น้ำนมไหลพุ่งออกจากหัวนมอาจลดลง จึงทำให้นมไหลน้อยลงได้
– ระยะเวลาในการให้นมแม่
แม่ที่ทำศัลยกรรมหน้าอกมานั้นจะมีโอกาสให้นมแม่ได้น้อยกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้เสริมเต้าถึง 3 เท่า เพราะกลัวหน้าอกที่เสริมมาจะหย่อนคล้อย กังวลว่าสารซิลิโคนที่เสริมเต้ามาจะทำอันตรายต่อลูก หรือว่าอาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่อแม่และลูกได้หากเกิดการรั่วหรือแตก
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำเลเซอร์ปัญหาผิวของคุณแม่หลังคลอด
คุณแม่หลังคลอดมักมีความกังวลเรื่องของปัญหาผิวพรรณหลังคลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นผิวขาดน้ำ ผิวแตกลาย หย่อนคล้อย และมีรอยดำ ฝ้า กระ การทำเลเซอร์ชนิดต่าง ๆ จะปลอดภัยหรือไม่ เพราะยังจำเป็นต้องให้นมลูก
บอกเลยว่าการทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ หรือเลเซอร์ที่แก้ปัญหาเฉพาะที่ผิวสามารถทำได้เมื่อพร้อม แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์พิสูจน์ว่าพลังงานจากเลเซอร์เหล่านั้น จะสะสมในร่างกายแล้วผ่านน้ำนมจนก่อให้เกิดอันตรายต่อลูกได้
เพียงแต่ห้ามไม่ให้ฉีดสารหรือยาต่าง ๆ เข้าร่างกาย เช่น ฉีดเมโสหน้าใส เมโสสลายไขมัน การฉีดสารลดริ้วรอย การฉีดสารเติมเต็มใบหน้า การทำทรีตเมนต์ที่ผลักสารกลุ่มวิตามินเอเข้าสู่ผิวหน้า เป็นต้น
รู้อย่างนี้แล้ว หากคุณแม่หลังคลอดอยากกลับมาสวยเป๊ะและมีผิวพรรณที่สดใส ก็สามารถเลือกทำสวยได้ด้วยวิธีอื่น ๆ ไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ ออกกำลังกาย ดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ และเมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมและไม่มีปัญหาในการเลี้ยงลูกจริง ๆ การทำศัลยกรรมก็ยังไม่สายค่ะ
ที่มา :
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!