คำถามจากลูกที่ทำเอาพ่อแม่ใบ้กิน รับมือคำถามของเด็กๆ ยังไงดี
คำถามจากลูกที่ทำเอาพ่อแม่ใบ้กิน รับมือคำถามของเด็กๆ ยังไงดี โบราณบอกว่าเด็กช่างถามคือเด็กฉลาด เเต่ถ้าลูกถามคำถามแบบนี้ คุณพ้อคุณเเม่จะตอบยังไงดีนะ
คุณพ่อคุณเเม่ที่มีลูกเล็กๆ อาจจะยังไม่คิดฝันที่จะเจอคำถามอะไรเเบบนี้จากลูก ไม่ได้ขู่ เเค่บอกด้วยความหวังดีนะคะ ว่าคุณพ่อคุณเเม่ต้องเจอเเน่ๆ ทางที่ดีคือเตรียมพร้อมรับมือตั้งเเต่วันนี้เลยดีที่สุดค่ะ
1.พ่อจ๋าแม่จ๋า หนูมาจากไหน
คำตอบที่ดีที่สุดคือบอกไปตามความจริง เเต่ถ้าลูกยังไม่ถึงวัยที่จะเข้าใจอะไรซับซ้อนได้ ก็อย่าเพิ่งลงลึกถึงรายละเอียด ยกตัวอย่างคำตอบเช่น เมื่อคนสองคนรักกันมากๆ เเบบพ่อกับเเม่ พ่อจะให้ส่วนหนึ่งในร่างกายของพ่อ เมื่อสิ่งนั้นมารวมกับของเเม่ เด็กทารกจะเริ่มโตขึ้นภายในท้องเเม่ เขาจะตัวเล็กๆ ว่ายไปว่ายมาในท้องแม่ จากนั้นเขาจะโตขึ้น ตัวใหญ่จนในไม่มีที่เหลือในท้องเเม่เเล้ว จากนั้นก็จะเกิดมาเป็นเด็กทารกยังไงละคะ
2.พ่อจ๋าแม่จ๋า ทำไมข้างล่างของชายกับหญิงไม่เหมือนกัน
คำถามยอดฮิตที่ทำเอาพ่อแม่ไปไม่เป็น เเต่เเนวทางที่ถูกต้องคือ ตอบลูกเหมือนกับที่ตอบเรื่องอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เด็กผู้ชายมีอวัยวะเพศชายเเละลูกอัณฑะ เด็กผู้หญิงมีช่องคลอดเเละมดลูก ซึ่งวันหนึ่งพวกเธอจะมีลูก เมื่อเด็กผู้ชายเเละเด็กผู้หญิงโตขึ้น ถ้าพวกเขารักกัน เเละต้องการมีลูก ความเเตกต่างของพวกเขาจะรวมกันเพื่อให้กำเนิดเด็กทารก
3.โตขึ้นหนูจะเเต่งงานกับพ่อ / โตขึ้นผมจะเเต่งงานกับแม่ ได้ไหม
แม้จะเป็นเรื่องที่น่ารักน่าเอ็นดู เเต่การปฏิเสธอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ลูกเสียใจ สามารถทำได้นะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างมีกฎเกณฑ์ของมัน น้องของลูกไม่สามารถเป็นคุณพ่อได้ เเละคุณพ่อก็ไม่สามารถเป็นคุณยายได้ เเละลูกก็ไม่สามารถเป็นสามีของแม่ได้ วันนึงเมื่อลูกโตขึ้น เเม่ก็จะเเก่ลงมาก ลูกยังรักเเละห่วงใยเเม่ได้เสมอ เเต่ลูกจะต้องเเต่งงาน (หรือไม่จำเป็นต้องเเต่งงาน) กับคนอื่นที่ยังสาวเเละสวยเเทน จากนั้นลูกก็จะมีลูกเป็นของตัวเองนะจ๊ะ
4.ทำไมพ่อกับแม่ต้อง เถียง/ทะเลาะ กันด้วย
รู้ไหมคะว่า เด็กๆ จะรู้สึกผิดเมื่อผู้ใหญ่ทะเลาะกัน (เเม้บางเรื่องต้นเหตุจะไม่ได้มาจากตัวเขาเองก็ตาม)
อธิบายลูกประมาณว่า คนเราเเต่ละคนมีความคิดที่เเตกต่างกันได้ เเละนั่นก็ทำให้เเต่ละคนมีความต้องการที่เเตกต่างกันไป เเม้พ่อกับเเม่จะเถียงจะทะเลาะกัน เเต่ท้ายที่สุดเเล้ว เราก็จะคืนดีกัน เพราะเรารักกัน เเละเราทั้งคู่ก็รักลูก ซึ่งคุณพ่อคุณเเม่อาจจะยกตัวอย่างตอนที่ลูกทะเลาะกับเพื่อนก็ได้เช่นกันค่ะ
5.ทำไมคนนั้นอ้วนจัง
ไม่ว่าลูกจะถามถึงลักษณะทางกายภาพ เช่น อ้วน ผอม ผิวขาว ผิวเข้ม ผมสั้น ผมยาว ผมดำ ผมทอง สูง หรือเตี้ย ให้อธิบายลูกไปถึงเรื่องลักษณะทางกายภาพที่มีความเเตกต่างกัน เช่น เขาอาจจะไม่สบาย หรือเขาอาจจะชอบกินหรือไม่ชอบกิน เเต่มันคือเรื่องธรรมชาติเเละเป็นเรื่องธรรมดา ที่คนทุกคนจะดูเเตกต่างกัน นั่นก็เพราะเราไม่มีใครที่เหมือนกันสักคน เเต่ไม่มีใครสักคน ที่จะชอบเวลาที่หนูชี้ไปที่เขานะจ๊ะ ถ้าลูกสงสัยให้ถามเเม่ทีหลังเมื่อเราอยู่กันสองคนจ๊ะ
6.ทำไมพ่อกับแม่ต้องไปทำงานด้วย
คำถามนี้ถ้าลูกถามด้วยความอยากรู้ ขอให้อธิบายไปตามจริงค่ะ เช่น แม่ไม่อยากจากลูกไปไหน เเต่เเม่ก็ต้องทำ เเละถ้าไม่ทำ (อะไรจะเกิดขึ้น เช่น ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีรถนั่ง ไม่มีอาหารให้ลูกกิน) เเต่เเม่จะกลับมา (ตอนกี่โมง) เเละเราจะได้เจอกัน อาจจะหยิบยกกิจกรรมที่จะทำกับลูกหลังจากนั้น เช่น ลูกจะช่วยเเม่ทำกับข้าว หรือเเม่จะพาลูกไปขี่จักรยาน เเต่คุณพ่อคุณเเม่ต้องดูด้วยว่า เวลาที่อยู่กับลูกในเเต่ละวันมันมากน้อยเเค่ไหน เเละเป็นเวลาที่มีคุณภาพจริงหรือไม่ หรือกลายเป็นว่าคุณพ่อคุณเเม่กลับมาบ้านก็จริง เเต่ไม่ได้ใช้เวลากับลูก เพราะเอางานกลับมาทำที่บ้านต่อเป็นต้นค่ะ
7.ทำไมหนูถึงไม่มี แม่/พ่อ
ถ้าเป็นซิงเกิลมัมหรือซิงเกิลเเด็ด เจอคำถามเเบบนี้ไม่ใช่เรื่องเเปลกค่ะ เพียงต้องบอกลูกไปตามความจริงเท่านั้น เช่น พ่อของลูกกับเเม่เราเคยรักกันมาก จนมีหนูขึ้นมา เเต่วันนึงเมื่อเราไม่ได้รักกันเเล้ว เราก็เลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน เเม่ทำงานเลี้ยงหนู พ่อของหนูก็รักกับคนอื่นเเละมีลูกของพวกเขาเอง ทั้งนี้ถ้าลูกยังถามต่อว่า เเล้วพ่อของหนูไม่รักหนูเหรอ หรือไม่รักเราเเล้วเหรอ อย่าโกหกลูกค่ะ เช่น พ่อเขารักเรา เเต่เขาอยู่กับเราไม่ได้ ทั้งที่จริงเเล้ว เขาไม่สนด้วยว่าคุณกับลูกจะเป็นยังไง ให้เลี่ยงการตอบเเบบนั้นไป เเต่ถ้าไม่รู้จริงๆ ว่าเขายังรักคุณเเละลูกอยู่ไหม ให้ตอบว่า เเม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก เเต่ในกรณีที่หย่าร้างกัน เเต่ยังมีการไปมาหาสู่ต่อกันบ้าง ให้ตอบเฉพาะความรู้สึกของตัวเองเเละเหตุผลของตัวเองค่ะ ลูกจะถามอีกฝ่ายเองถ้าเขาอยากรู้
8.ทำไมเราไม่มี บ้านใหญ่/รถสวย/เงินเยอะ เเบบ … บ้าง
คุณพ่อคุณเเม่สามารถอธิบายเหตุผลของเเต่ละครอบครัวได้ เช่น ถ้าลูกอยากให้เรามีบ้านใหญ่กว่านี้ เเม่จะต้องทำงานหนักกว่านี้ เเละอาจจะไม่มีเวลาอยู่กับลูก เป็นต้น หรือลูกคิดว่าเราจะหาเงินเยอะๆ ได้ยังไงละ เพราะเเม่ก็ทำงานเต็มวันเเล้ว บางทีอาจจะได้ความคิดเห็นเเบบเด็กๆ ที่อาจจะทำได้จริงก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ลองถามลูกกลับว่า ทำไมลูกถึงอยากได้บ้านใหญ่ รถสวย หรือเงินเยอะ เเละเมื่อลูกบอกเหตุผลของเขามา คุณพ่อคุณเเม่อาจจะมีคำอธิบายเพิ่มเติม เช่น ถ้าลูกบอกว่า หนูชอบรถสวยๆ คุณพ่อคุณเเม่อาจจะบอกว่า รถสวยๆ เเต่ราคาเเพงมาก กินน้ำมันมาก ค่าบำรุงรักษามาก ทำให้ต้องใช้เงินเยอะ เเทนที่จะเอาเงินมาซื้อของเล่น หรือพาหนูไปเที่ยว เราก็เเค่มีรถสวยๆ เเต่หนูจะอดของเล่นเเละอดไปเที่ยวนะ เเล้วปล่อยให้ลูกคิดเองต่อค่ะ
9.หนู/พ่อ/แม่ จะตายไหม
ยังไงเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่คนทุกคนต้องเจออยู่เเล้วค่ะ คน สัตว์ หรือเเม้เเต่ต้นไม้ วันนึงก็ย่อมกลับสู่ธุลี นั่นหมายความว่าจะมีที่สำหรับเด็กคนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมาอีก ยังไงสักวันนึงเราก็ต้องตายสักวัน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว นอกจากจะสอนลูกถึงเรื่องอายุ เรื่องโรคภัย (เเถมมีทริคให้กินผักผลไม้อีก ร่างกายจะได้เเข็งเเรง) ยังต้องบอกลูกถึงเรื่องอุบัติเหตุทั้งหลายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วยนะคะ ทั้งที่มันเป็นคำถามที่ดีมากๆ ลูกเเละคุณพ่อคุณเเม่เอง จะได้ใช้ชีวิตให้ไม่ประมาท ให้ไม่มีเรื่องต้องเสียใจภายหลัง
10.พ่อกับแม่ รักหนูมากกว่าน้อง/พี่ ไหม
จริงๆ คงจะโกหก หากคุณพ่อคุณเเม่ที่มีพี่น้อง เเล้วรู้สึกว่าพ่อแม่รักลูกเท่ากันทุกคน เเต่ก็นั่นเเหละ เเม้จะเป็นเรื่องจริง เเต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะออกจากปากของพ่อแม่ค่ะ เเละถ้ารู้ตัวว่าตัวเองชอบเปรียบเทียบลูกกับลูกอีกคน สิ่งที่ควรทำที่สุด คือเลิกซะ
อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า คุณทั้งคู่รักลูกทุกคนเท่าๆ กัน เเต่มีเรื่องที่ห่วงต่างกันไปออกไป เเม้ว่าจริงๆ เเล้วคุณจะรักลูกคนโตมากกว่า หรือรักลูกคนเล็กมากกว่า นั่นคือสิ่งที่คุณรู้สึกเเต่ห้ามเเสดงออกมาให้ลูกๆ รู้สึกถึงความเเตกต่าง หรือรู้สึกว่าคุณเกิดการลำเอียง หรือรักเเละเอ็นดูลูกคนไหนเป็นพิเศษค่ะ
ตอบคำถาม เจ้าหนูจำไม ยังไงดี
- พยายามตอบคำถามให้เข้าใจง่ายที่สุด เเละตอบเเต่เรื่องจริงค่ะ
- อย่าหลอกลูก โดยคิดว่าเป็นเรื่องที่เด็กไม่เข้าใจ เพราะหากลูกมารู้ความจริงทีหลัง เขาจะไม่เชื่อคำพูดของคุณอีก
- อย่าล้อลูก หรือใช้น้ำเสียงที่บอกว่า คุณถูกที่สุด เพราะนั่นไม่มีหรอก ถูกที่สุดน่ะ ความสงสัย ความอยากหาคำตอบ คือทักษะที่จะช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่ใฝ่เรียนนะคะ
- ถ้าไม่รู้ ให้บอกไม่รู้ เเล้วชักชวนลูกหาคำตอบไปพร้อมกัน บางเรื่องอาจจะยากเกินความสามารถ ส่วนตัวเเล้วเจอคำถามยากๆ เช่น โลกทำมาจากอะไร หรือโลกทำมาจากอะไร หากมีผู้รู้ให้ถามเขาเเทนค่ะ หรือจะลองค้นหาคำตอบในอินเตอร์เน็ตไปด้วยกันกับลูกก็ได้เช่นกัน
ที่มา Brightside
บทความที่น่าสนใจ
พัฒนาการทารก ทารกแรกเกิด 1 เดือนถึง 1 ปี มีพัฒนาการอะไรบ้าง
6 ข้อต้องรู้ ถ้าอยากให้ลูกวัยเบบี๋เป็นเซเลบตัวน้อย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!