รู้หรือไม่ ! คนท้อง ร้องไห้ แม่เครียดเสี่ยงแท้ง ความคิดมากของแม่ กระทบลูกในท้อง ทำให้ทารกเติบโตช้าในครรภ์ เสี่ยงทารกติดเชื้อในครรภ์สูงขึ้นด้วย ไม่อยากดราม่า แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แม่เครียดขนาดนี้ กลัวลูกในท้องจะเป็นอันตราย
แม่ท้องเครียดเกินไปหรือเปล่า ?
คนท้องร้องไห้ทุกวัน จากปัญหาถาโถม ไหนจะมีเรื่องกับแม่สามี พอเครียดก็ไม่อยากแต่งตัว ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้โทรม จนสามีเมิน เผลอ ๆ สามีก็แอบไปมีกิ๊ก พอจับได้ก็ยิ่งเครียด ร้องห่มร้องไห้ไปกันใหญ่ ไม่ว่า ปัญหาอะไร ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนท้อง ไม่ใช่ว่าดราม่าไปเองหรอกนะ มันมีเหตุผล
ทำไมคนท้องร้องไห้บ่อย ร้องไห้ง่าย
คนท้อง ร้องไห้บ่อย ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เพราะระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้น อารมณ์แม่ก็จัดเต็มตามไปด้วย เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย อารมณ์สวิงไปมา และยากที่จะควบคุมได้ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสแรก หรือ 3 เดือนแรก ที่กำลังท้องอ่อน ๆ นอกจากนี้ อาการที่เกิดจากการตั้งครรภ์ อาทิ อาการคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ นอนน้อย ปวดหลัง ปัสสาวะบ่อย พวกนี้ก็ส่งผลทำให้คนท้องเบื่อ เหนื่อย เครียด!
สำหรับคนท้องบางคน ก็จะมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นครั้งคราว ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ นั่นก็เพราะตอนท้อง ร่างกายของแม่ท้องเปลี่ยนไปมากมาย ความรู้สึกไม่ชอบรูปร่างตัวเองก็เกิดขึ้น พบกับปัญหาผิวแตกลาย คอดำ รักแร้ดำ หัวนมดำ จนหงุดหงิด ไหนจะความเจ็บปวดของร่างกาย ปวดเมื่อยเนื้อตัว เดินไม่ถนัด เจ็บตรงโน้นตรงนี้ สิ่งเหล่านี้ก่อตัวเป็นความเครียดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 3 วิธีชนะการแท้งลูก การแท้งบุตร อาการแท้ง คุกคาม แท้งค้างคืออะไร
วิดีโอจาก : คนท้อง Everything Channel
อาการเครียดในระยะสั้นของคนท้อง
หากแม่เครียดเล็กน้อย และสามารถปรับตัวได้ จะไม่มีผลเสียต่อการตั้งครรภ์ แม่บางคนแปรเปลี่ยนความเครียดเป็นการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ให้ดีขึ้น ส่งผลให้สุขภาพแม่แข็งแรง ทารกในครรภ์เติบโตดี แต่ถ้าแม่ท้องเครียดมาก ๆ รู้หรือเปล่าว่า ผลเสียต่อตัวแม่ท้องและทารกในครรภ์นั้นรุนแรงมาก สำหรับอาการเครียดในระยะสั้นของคนท้องก็เช่น
- เกิดอาการเหนื่อย
- นอนไม่หลับ
- ตื่นเต้น
- เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
- ปวดศีรษะ และปวดหลัง
- ถ้าปล่อยให้เครียดนานจะทำให้ภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อลดลง ความดันโลหิตสูง และเกิดโรคหัวใจตามมาได้
ความเครียดของแม่ท้องส่งผลต่อทารกในครรภ์
ภาวะเครียดของแม่ ทำให้สารเคมีและฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียดหลั่งออกมามาก ส่งผลให้เส้นเลือดที่ไปยังมดลูกและรกเกิดการหดตัว ปริมาณออกซิเจนที่ไปยังทารกในครรภ์ลดน้อยลง จึงเกิดอันตรายและความเสี่ยงมากมาย ดังนี้
- เกิดการแท้ง
- ทารกเติบโตช้าในครรภ์
- ทารกติดเชื้อในครรภ์สูงขึ้น
- มีรายงานว่าทารกที่คลอดจากมารดาที่มีภาวะเครียด ในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในการตั้งครรภ์ช่วงแรกจะมีอารมณ์ซึมเศร้า และไวต่อการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
- ผลที่เกิดกับทารกในระยะยาว จะทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น
- ส่งผลถึงปัญหาทางจิตใจ และการปรับตัวทางสังคมตามมา
ลูกจะรู้สึกยังไง หากคุณแม่ร้องไห้ตอนท้อง
เวลาที่แม่ท้องเครียดรู้หรือไม่ว่า ลูกจะรู้สึกยังไง จากงานวิจัยของ Psychological Science พบว่า เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 6 ลูกในครรภ์จะสามารถรับรู้อารมณ์ของคุณแม่ได้ และผลกระทบนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นด้วยนะคะ เพราะอารมณ์ที่คุณแม่รู้สึกนั้นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดทัศนคติของลูกด้วย
เมื่อคุณแม่เครียด ร่างกายของคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา แม้ว่าอารมณ์ของคุณแม่จะส่งผ่านถุงน้ำคร่ำไปหาลูกไม่ได้ แต่ฮอร์โมนของคุณแม่สามารถทำได้ เครียดเป็นครั้งคราวลูกได้รับฮอร์โมนเป็นครั้งคราว ไม่เป็นไร แต่ถ้าลูกได้รับฮอร์โมนนี้บ่อย ๆ เข้า ลูกก็จะมีอาการเครียดเรื้อรัง แถมยังทำให้ลูกมีอาการโคลิคเมื่อคลอดออกมาแล้วด้วย โดยฮอร์โมนแห่งความเครียด หรือ คอร์ติซอล (cortisol) ถ้าร่างกายได้รับบ่อย ๆ หรือได้รับมากไป นอกจากจะทำให้เป็นโรคอ้วนแล้ว ยังส่งผลต่อการทำงานของสมองอีกด้วย ทำให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัส ที่เกี่ยวข้องการเรียนรู้ ความจำต่าง ๆ ทำงานลดลง
รู้ตัวไหมว่า แม่จ๋ากำลังเครียดอยู่
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่แม่ท้องจะรู้ตัวเองว่า ตอนนี้กำลังเครียดอย่างรุนแรง จึงจำเป็นต้องตรวจสอบตัวเองว่ามีอาการและความรู้สึกต่อไปนี้หรือไม่
- ฉันรู้สึกปวดศีรษะ
- ฉันรู้สึกหงุดหงิด
- ฉันรู้สึกวิตกกังวล
- ฉันรู้สึกตื่นเต้นและตกใจ
- ฉันมีปัญหากับการแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ
- ฉันรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ถูกต้อง
- ฉันไม่สามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตฉันได้
- ฉันกังวลว่าทารกในครรภ์จะผิดปกติ
- ฉันกังวลว่าฉันจะสูญเสียทารกในครรภ์
- ฉันกังวลว่าฉันจะคลอดยากหรือมีปัญหาจากการคลอด
- ฉันกังวลว่าฉันไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าดูแลรักษาได้
- ฉันอยู่คนเดียวไม่มีสามีคอยดูแล
- ฉันต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น
- ฉันมีปัญหาที่ทำงาน
- ฉันและสามีมีปัญหาระหว่างกัน
- ฉันเคยถูกขู่หรือถูกทำร้ายร่างกาย
*ถ้าตอบว่ามีบางครั้ง มากกว่า 3 ข้อขึ้นไปแสดงว่ามีภาวะเครียด ควรจะหาวิธีลดความเครียด
วิธีลดความเครียด แม่ท้องต้องทำตามนี้
คนท้องหรือแม่ท้องที่หมั่นดูแลตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง จะช่วยลดภาวะเครียดได้ สำหรับวิธีลดความเครียดของคนท้อง มีดังนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ และครบ 3 มื้อ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ลดการทำงานลง
- การพูดคุยหรือระบายความในใจหรือความเครียดกับสามี เพื่อนฝูงที่สนิทสนม หรือกับคุณพ่อคุณแม่
- ทำกิจวัตรประจำวันหรือสิ่งที่คุณชอบ อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที
- ออกไปเที่ยว ทำกิจกรรมนอกบ้านหรือพักผ่อน
- นั่งสมาธิ
- ฝึกโยคะสำหรับสตรีตั้งครรภ์
- ฝึกจินตนาการ แต่เรื่องที่ดีหรือทำให้เรามี
- หาความรู้ถึงอาการที่พบบ่อยระหว่างการตั้งครรภ์และวิธีการแก้ไข
- หลีกเลี่ยงการพึ่งสารเสพติด เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ หรือยาระงับประสาท
- หาโอกาสอบรมการตั้งครรภ์คุณภาพ เพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การคลอดและการดูแลบุตรหลังคลอด
คนท้อง ร้องไห้ ลดเครียดได้ด้วยดนตรี
ดนตรีบำบัดช่วยลดความเครียดคนท้อง โดยนักวิจัยพบความสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์โดยนักวิจัยจากสถาบัน Max Planck ประเทศเยอรมนีได้ทำการศึกษาโดยเปิดดนตรีที่มีความยาว 10-30 วินาทีให้คุณแม่ท้องที่เป็นอาสาสมัครฟัง จากนั้นเปลี่ยนเป็นเล่นถอยหลังและเสียงขาด ๆ หาย ๆ ผลการศึกษาพบว่า ดนตรีที่ไม่น่าฟังนั้นจะน่ารำคาญเป็นพิเศษสำหรับคนท้อง ส่วนดนตรีที่น่าฟังก็จะเพราะเป็นพิเศษเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ดนตรีที่ไพเราะเสนาะหูยังช่วยให้ความดันโลหิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่การฟังดนตรีน่ารำคาญเพียง 10 วินาทีก็สามารถทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจาก 30 วินาทีความดันโลหิตจึงลดลง จึงสรุปได้ว่า คนท้องมีปฏิกิริยาทางร่างกายต่อดนตรีอย่างชัดเจน
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ เพลงอะคูสติกมีผลต่อความดันโลหิตในแม่ตั้งครรภ์มากกว่าในผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ แม้ว่าจะยังไม่สามารถระบุเหตุผลที่แน่ชัดได้ว่า ผลที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะเกิดจากอะไร เพลงเพราะ ๆ ก็ช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในระหว่างตั้งครรภ์
นอกจากนี้ ทารกน้อยในครรภ์ยังสามารถได้ยินเสียงและมีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการดิ้น จากการศึกษาพบว่า ภายในสัปดาห์ที่ 28 ของการตั้งครรภ์ อัตราการเต้นของหัวใจลูกน้อยมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นเคย ดังนั้น หากคุณเปิดเพลงโมสาร์ทให้ลูกฟังเป็นประจำ ถือว่าคุณมาถูกทางแล้ว แต่เราก็ไม่อาจการันตีได้ว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกของคุณเป็นอัจฉริยะได้
คนท้อง ร้องไห้ หรือความเครียดเป็นสิ่งที่จัดการได้ยาก โดยเฉพาะแม่ท้อง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของแม่ ๆ แน่นอนค่ะ เมื่อคนท้อง ร้องไห้ ก็ขอให้นึกถึงลูกในท้องมาก ๆ ดูแลตัวเองให้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ และไปพบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง เพื่อวินิจฉัยอาการต่าง ๆ รวมทั้งประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
กินอะไรเสี่ยงแท้ง ห้ามกินสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่อยากแท้งลูก เรื่องอันตรายที่แม่ท้องต้องระวัง
5 สิ่งที่ คุณแม่ตั้งครรภ์ ต้องรู้ เพื่อยกระดับการดูแลตัวเอง
ทำไมตอนท้องตกขาวเยอะจัง บางคนก็บอกเป็นมูกตั้งครรภ์ เอ๊ะยังไงกันอันตรายมั๊ย
ที่มา : healthline
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!