ยากันแท้ง คืออะไร
ยากันแท้ง ป้องกันแท้งลูก ยากันแท้งคืออะไร หมอฉีดยากันแท้ง ตอนไหน ยากันแท้งช่วยได้จริงหรือ
สาเหตุของการแท้งลูก
โรงพยาบาลพญาไท 3 อธิบายถึงสาเหตุของการแท้งว่า แท้งหรือภาวะแท้งบุตร พบได้บ่อยในช่วงการตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ซึ่งมีได้หลายสาเหตุ การดูแลและรักษา หรือการเลือกใช้ยากันแท้ง แพทย์จะวินิจฉัย และเลือกใช้ตามสาเหตุที่เป็น เช่น
- การติดเชื้อ
- เคยมีประวัติแท้งมาก่อน
- มดลูกหรือปากมดลูกมีความผิดปกติ
- มีเนื้องอก มีติ่งเนื้อ ในโพรงมดลูก
- ปากมดลูกไม่แข็งแรง
- โรคทางระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ มารดามีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ
- มีโรคทางพันธุกรรมหรือโครโมโซม
- ตัวร้อนผิดปกติ
- โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ
- ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น
ข้อควรระวังสำหรับคนท้องจะได้ไม่ต้องฉีดยากันแท้ง
คนท้องต้องพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ ลดความเครียดและลดความวิตกกังวล รวมทั้งเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเบา ๆ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกดื่มเบียร์ เลิกเหล้า และต้องเลิกสูบบุหรี่ นอกจากนี้ หากคุณหมอมีคำเตือนห้ามมีเพศสัมพันธ์ก็ควรจะงดเว้นตามช่วงเวลาที่คุณหมอกำหนด
เมื่อไหร่ควรได้รับยากันแท้ง
พญ.กุลธิดา ทรัพย์สมุทรชัย สูตินรีแพทย์ ประจำโรงพยาบาลพญาไท 3 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับยากันแท้งไว้ว่า คุณแม่ท้องที่มีภาวะแท้งบุตร มีอาการปวดท้อง มีเลือดออก แต่หัวใจทารกยังเต้นปกติ แพทย์มักจะให้ฮอร์โมนกันแท้ง
ยากันแท้งคืออะไร
โดยทั่วไปยากันแท้งจะเป็นฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสเตอร์โรนตามธรรมชาติ หรือสังเคราะห์
ยากันแท้งมีทั้งรูปแบบการกิน การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือชนิดสอดเข้าช่องคลอด เพื่อป้องกันการแท้งบุตร ซึ่งจะได้ประโยชน์มากในกลุ่มการแท้งที่เกิดจากการขาดฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรนขณะตั้งครรภ์ แต่ถ้าเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ฮอร์โมนก็ไม่สามารถช่วยยับยั้งการแท้งได้
แม่ท้องต้องสังเกตอาการตัวเอง เพื่อจะได้รับยากันแท้งอย่างทันท่วงที
เมื่อมีอาการแท้งบุตร เช่น ปวดท้องผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอดขณะตั้งครรภ์ ควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุ เพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไป จนกระทั่งคลอดได้
แม่ท้องต้องรู้ ความจริงที่ทำให้แม่ท้องต้องเสี่ยงแท้ง
1.ปัญหาจากโครโมโซม
ความผิดปกติของโครโมโซมมีผลต่อการแท้งลูก เป็นสาเหตุสำคัญที่มักทำให้แท้งบุตร โดยมักจะแท้งในไตรมาสแรก มากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และแท้งในช่วงไตรมาสสอง 20 เปอร์เซ็นต์
สาเหตุนั้นเป็นไปได้จากทั้งเชื้ออสุจิจากพ่อ และความผิดปกติจากไข่ของแม่ ซึ่งการตั้งครรภ์ สามีภรรยาต้องมีโครโมโซม 23 คู่ ตัวอ่อนในครรภ์กับโครโมโซมทั้งหมด 46 แท่ง จึงจะถือว่า การตั้งครรภ์สำเร็จ แต่ถ้ามีโครโมโซมมากหรือน้อยเกินไป จะมีผลต่อการแท้ง
2.โรคภัยที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์
อาการเจ็บป่วยของแม่ท้องมีผลต่อลูกในท้องเสมอ อาทิ โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคหัวใจ และโรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงในการแท้ง
นอกจากนี้ ยังต้องระวังการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ ถ้าเกิดปัญหาสุขภาพตอนท้อง อย่านิ่งนอนใจต้องรีบไปพบแพทย์ ที่สำคัญ อย่ากินยาเอง ต้องให้แพทย์สั่งยาให้ทุกครั้ง
3.ฮอร์โมนในร่างกายแม่ท้องไม่สมดุล
ฮอร์โมนในร่างกายของแม่ มีผลต่อการแท้ง ถ้าร่างกายของแม่ตั้งครรภ์ผลิตฮอร์โมนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการตั้งครรภ์ ก็อาจจะจบลงด้วยการแท้ง เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและฮอร์โมนเอสโตรเจน มีผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ที่ซึ่งตัวอ่อนอยู่ภายใน
ถ้าฮอร์โมนเกิดไม่เพียงพอหรือไม่สมดุล ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่แข็งแรงพอ แน่นอนว่าจะมีผลต่อรกและทารกในครรภ์
4.บริโภคคาเฟอีนมากเกินไป
การบริโภคคาเฟอีนมากๆ ส่งผลเสียต่อร่างกาย และยังมีผลมากๆ ต่อแม่ท้อง ดังนั้น ชา กาแฟ และน้ำอัดลม เป็นสิ่งที่แม่ต้องระวังอย่าบริโภคมากเกินไป โดยผลการศึกษาจาก Kaiser Permanente เปิดเผยว่า ผู้หญิงที่บริโภคคาเฟอีนมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน (ปริมาณเทียบเท่ากาแฟ 2 แก้ว) มีความเสี่ยงต่อการแท้งสูงกว่าปกติถึง 2 เท่า
ไม่ใช่แค่คาเฟอีนเท่านั้น การดื่มแอลกอฮอล์มากๆ และการสูบบุหรี่ ก็มีผลต่อการแท้ง รวมไปถึงการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเช่นกัน ทางที่ดีจึงควรหลีกเลี่ยง ทุกสิ่งที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
อ่านเพิ่มเติม ไม่อยากแท้งต้องรู้ ความจริงที่ทำให้แม่ท้องต้องเสี่ยงแท้ง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คนท้องกินชาเย็นได้ไหม แล้วชาเขียวกินได้หรือเปล่า ลูกในท้องจะเป็นอันตรายไหม
สาเหตุ ตัวอ่อน ไม่พัฒนา ตัวอ่อนหยุดการเจริญเติบโต แท้งค้าง คนท้องแบบไหนเสี่ยงสูง
ภาวะ แท้งค้าง ยากที่จะรู้ได้ว่าทารกในครรภ์เสียชีวิตมานานเท่าไหร่แล้ว
ข้อห้ามสำหรับคนท้อง อะไรบ้างที่คนท้องห้ามทำ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!