หลายคนมักบอกให้คนท้องนั่งหรือนอนพักผ่อนเยอะ ๆ อย่าออกแรงมาก เพราะแม่ท้องมักจะเหนื่อยง่าย หากออกแรงมากไป ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง แต่สำหรับคุณแม่ที่ชอบทำงานบ้าน จะให้อยู่เฉย ๆ คงอึดอัดแย่ งานบ้านไหนพอทำได้ขอทำดีกว่า แถมยังเป็นการออกกำลังกายด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่า คนท้องทำงานอะไรได้บ้าง งานแบบไหนที่คนท้องทำได้และไม่ควรทำ มาดูกันเลย
คนท้องทำงานอะไรได้บ้าง
1. ล้างผักและหั่นผัก
สำหรับคุณแม่บ้านที่เมื่อก่อนเคยเป็นหัวหน้าคนครัว ต้องทำอาหารให้สามีกิน แต่พอตั้งท้องงานครัวคงต้องลดน้อยลงบ้างแล้ว คุณแม่ลองเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นลูกมือแทน แล้วมอบหน้าที่ทำอาหารให้กับพ่อครัวแทน โดยที่คุณแม่ช่วยล้างผัก และหั่นผัก เตรียมเครื่องในการประกอบอาหารจะดีกว่า ระหว่างนั้นอาจจะหาเก้าอี้ดี ๆ สักตัวมานั่งทำไปพลาง ๆ ด้วยก็ได้
2. กวาดบ้าน
การกวาดบ้านเป็นเหมือนการออกกำลังกายเบา ๆ ซึ่งคนท้องสามารถทำได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการยืดตัวหรือย่อตัวขณะกวาดบ้าน และควรเลือกไม้กวาดที่มีขนาดด้ามจับถนัดมือ ไม่สั้น ไม่ยาวจนเกินไป พยายามอย่าให้โค้งงอตัวมากเกินไป และถ้ากวาด ๆ พื้นอยู่รู้สึกเหนื่อย หน้ามืด หายใจแรง ควรหยุดโดยทันทีให้นั่ง หรือพักผ่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้นแล้วค่อยทำต่อ และไม่ควรยืนต่อกันนาน ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องทำงานบ้าน ได้หายห่วงเพียงเลี่ยง 5 ข้อ คนท้องทำงานบ้านต้องระวังอะไร
3. ทำความสะอาดห้องน้ำ
แม่ท้องคนไหนที่อยากจะทำความสะอาดห้องน้ำ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีจะดีกว่า เพราะหากคุณแม่สูดสารเคมีมากเกินไป อาจจะเกิดผลเสียต่อลูกในท้องได้ หรืออาจจะใช้น้ำส้มสายชูแทนก็ได้ และถ้ารู้สึกว่าเหนื่อยก็ควรหยุดทันที อย่าก้ม ๆ เงย ๆ มากเกินไป และอย่าลุกขึ้นพรวดพราดเพราะอาจทำให้หน้ามืด ที่สำคัญเวลาล้างห้องน้ำต้องระวังมากขึ้น เพราะพื้นห้องน้ำลื่นคุณแม่อาจจะลื่นล้มเอาได้
4. ล้างจาน
ถ้าคุณแม่เห็นว่าปริมาณจานชาม หรืออุปกรณ์งานครัวไม่มากเกินไปก็สามารถล้างได้ เพราะถ้ามีปริมาณมากเท่ากับว่าคุณแม่ต้องยืนล้างจานเป็นเวลานานซึ่งไม่ดีกับคนท้องแน่ และระหว่างที่ล้างจานควรที่จะสวมถุงมือกันน้ำด้วย
5. งานสวน
คุณแม่ที่ชอบทำสวนเบาใจได้เลย คุณแม่ยังสามารถทำได้ตามปกติ แต่อย่าไปยกถังน้ำหนัก ๆ ออกแรงดึงหญ้า ปีนตัดกิ่งไม้เข้าละ แนะนำให้คุณแม่พรวนดินเล็ก ๆ น้อย ๆ รดน้ำต้นไม้ด้วยสายยาง และควรเลือกเวลาทำสวนที่เหมาะสม ส่วนเรื่องใส่ปุ๋ยต้นไม้ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปก่อน ถ้าเป็นปุ๋ยชีวภาพก็ลุยได้เลย
งานบ้านที่คนท้องห้ามทำ
1. ยกของหนัก
อย่าพยายามยกถุงชอปปิ้งใบใหญ่ ๆ และเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ท้องยิ่งใหญ่ หลังก็ยิ่งตึง คุณจึงบาดเจ็บได้ง่าย ๆ ลองให้เด็ก ๆ หรือสามีของคุณช่วยเหลืองานพวกนี้จะดีกว่า
2. ดูดฝุ่น
การลากเครื่องดูดฝุ่นไปรอบบ้านอาจทำให้คุณเหนื่อยมาก และอย่าเปลี่ยนถุงกรองฝุ่นขณะตั้งครรภ์ เพราะถุงกรองฝุ่นเต็มไปด้วยฝุ่นจำนวนมาก ละอองฝุ่น และเส้นผมอาจทำให้ตา และปอดของคุณระคายเคืองได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องทำงานเยอะ นอนดึก ทำงานตอนกลางคืน ลูกในท้องจะเป็นอะไรไหม
3. เก็บมูลสัตว์เลี้ยง
หลังจากที่คุณเปลี่ยนกระบะทรายแมว หรือเก็บอึน้องหมา คุณอาจรับเชื้อปรสิต และเชื้อโรคมาได้ อาจทำให้ลูกน้อยในครรภ์เป็นโรคท็อกโซพลาสโมซิส หรือการติดเชื้อจากโปรโตซัว Toxoplasma gondii ที่อยู่ในอุจจาระแมวได้ หากคุณต้องดูแลสัตว์เลี้ยงควรสวมถุงมือ และล้างมือให้สะอาด
4. ทำความสะอาดผ้าม่านหรือหน้าต่าง
ระมัดระวังในการทำความสะอาดหน้าต่างเพราะมีโอกาสลื่น และล้มง่ายมาก หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงทำความสะอาดกระจก และควรใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อเช็ดกระจกให้สะอาด และอย่าลองทำงานที่ต้องปีน หรือทรงตัวบนเก้าอี้หรือบันได สตรีมีครรภ์มีความเสี่ยงที่จะตกลงมา และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ อย่ายืนบนโต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้แต่ สเตปเตี้ย ๆ เด็ดขาด
5. ล้างรถ
เหมือนจะไม่ใช่งานบ้านที่ทำเองไม่ได้เลย ใช่ไหม แต่ถ้ามองในเรื่องของความปลอดภัย ก็ต้องบอกว่าอย่าดีกว่า เพราะการล้างรถ พื้นบ้านต้องเปียกมาก การเดินไปเดินมาบนพื้นที่มีน้ำ อาจเกิดอุบัติเหตุการลื่นล้มได้ง่ายจากการล้างรถนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องอย่างมีคุณค่า!! งานคนท้องสามารถทำได้ คนท้องสามารถทำงานอะไรได้บ้าง
อาหารและพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์
- เนื้อดิบและหอย : ก่อนอื่นเลย เราอยากจะมาเริ่มกับเรื่องอาหารการกินกันก่อน เพราะการกิน เป็นสิ่งสำคัญที่คนท้อง มักจะใส่ใจเป็นอย่างแรก อาหารสองชนิดแรกที่แม่ท้อง ไม่ควรจะกินเลยก็คือ เนื้อแดง หรือ หอย รวมไปถึง อาหารที่ปรุงไม่สุก อาหารดิบเช่นพวก ซูชิ แม่ควรจะงดไปก่อน
- ปลาที่มีสารปรอทในระดับสูง : ซึ่งรวมถึงปลาเช่น ฉลาม ปลาทูคิง ปลาดาบ และปลากระเบื้อง สงสัยเกี่ยวกับทูน่า โดยทั่วไปแล้วปลาทูน่ากระป๋องแบบกระป๋องจะมีระดับปรอทต่ำกว่า แต่ก็ยังฉลาดที่จะกินเท่าที่จำเป็น
- ไข่ดิบ : คุณแม่คนไทย อาจจะไม่นิยม กินไข่ดิบสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าคุณแม่ คนไหน เป็นสายทานอาหารญี่ปุ่นล่ะก็ ไม่แน่ คุณแม่อาจจะเคยลิ้มลองรสชาติของไข่ดิบมาบ้าง แต่ถ้าคุณแม่ท้องอยู่ล่ะก็ นี่เป็นอาหารอีกชนิดที่เราแนะนำว่าควรจะพักก่อน เพราะว่า มันอาจจะมีพยาธิก็เป็นได้
- ดื่มกาแฟ ดื่มกาแฟมาก ๆ ก็ไม่ดีต่อร่างกายของคนท้อง เช่นกัน เพราะมันมีคาเฟอีนผสมอยู่ มันอาจจะทำให้ การเต้นของหัวใจ ความดันเลือด สูงขึ้นได้ คาเฟอีน นอกจากใน กาแฟแล้ว ยังผสมอยู่ในอาหารอีกหลายชนิด เช่น ชา ช็อกโกแลต หรือ โซดา อีกด้วย
- อย่าใส่ส้นสูง คนท้องสายแฟชั่น คุณแม่ที่รักการแต่งตัว อาจจะต้องหยุดไปก่อน เรื่องการใส่รองเท้าส้นสูง เหตุผลก็เพราะว่า พอคุณท้อง แรงโน้มถ่วงจะเปลี่ยนไป ทำให้คุณแม่ อาจจะเสียการทรงตัว ล้มเอาได้ง่าย ๆ
- อย่าดื่มเหล้า คุณแม่ที่ดื่มเหล้าระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะช่วงปฏิสนธิ หรือในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาระบบประสาท และอวัยวะต่าง ๆ จึงมีความเสี่ยงอย่างมาก ที่จะให้กำเนิดลูกน้อย ซึ่งมีความผิดปกติในกลุ่มอาการของทารก ความผิดปกตินั้นเรียกว่า Fetal Alcohol Spectrum Disorder (FASD) ซึ่งความรุนแรงของผลกระทบ ก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังรบกวนการรับออกซิเจน และสารอาหารสำหรับการเจริญเติบโตของสมอง และ อวัยวะต่าง ๆ ของเด็กในครรภ์อีกด้วย
- อย่ากินยาบางชนิด ไม่ว่าคุณแม่จะทานยาอะไรก็ตาม จะเป็นยารักษาโรค หรือ อาหารเสริม คุณแม่ควรจะปรึกษาแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะเราไม่รู้เลยว่า ยาแต่ละชนิดมีผลข้างเคียง หรือ ผลกระทบใด ๆ กับคนท้องบ้างหรือไม่ บางอย่างอาจอันตรายมากก็ได้
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณแม่ก็คงทราบกันแล้วนะคะว่า คนท้องทำงานอะไรได้บ้าง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของลูกในครรภ์ คุณแม่อย่าลืมสวมถุงมือและหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นด้วยนะคะ หากเกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ มีอาการคล้ายจะเป็นลม ควรหยุดทำงานบ้านแล้ว แล้วให้ผู้อื่นทำแทนจะดีกว่า หรือไม่ก็รอหลังจากคลอดลูกแล้วค่อยลงมือทำงานบ้านจะดีที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องนอนไม่หลับ นอนหลับยาก แก้ปัญหาอย่างไรดี?
คนท้องยืนทำงานนาน ๆ มีผลต่อลูกในท้องไหม คนท้องต้องยืนทั้งวันทำยังไงดี
อยู่ให้ห่างจากบันไดไว้ คนท้องนั่งขวางบันได เป็นเหตุให้คลอดลูกยากจริงหรือ?
ที่มา : parenting.firstcry
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!