X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

อาหารกลุ่มเสี่ยง ลูกเราจะแพ้ไหม ควรเริ่มให้ลูกทานอายุเท่าไหร่ดี

บทความ 3 นาที
อาหารกลุ่มเสี่ยง ลูกเราจะแพ้ไหม ควรเริ่มให้ลูกทานอายุเท่าไหร่ดี

อาหารกลุ่มเสี่ยง จำพวกแป้งสาลี ไข่ ถั่วเหลือง และนม ควรให้ลูกทานอาหารกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่อายุ 4 เดือน หรือหลัง 6 เดือน แบบไหนดีกว่ากัน

อาหารกลุ่มเสี่ยง ควรเริ่มให้ลูกทานอายุกี่เดือนดี?

อาหารกลุ่มเสี่ยง ต่อการแพ้อาหาร คุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงกังวลว่าลูกจะแพ้ และคงสับสนว่าจะให้ลูกเราทานอาหารในกลุ่มเสี่ยงจำพวกแป้งสาลี ไข่ ถั่วเหลือง และนมได้เมื่อไหร่ เพราะบางคนบอกว่าทานได้เลย บางคนบอกว่าอย่าเพิ่งดีกว่า ตกลงแล้วมันยังไงกันแน่ คุณหมอจากสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งประเทศไทยมีคำตอบมาฝากค่ะ

 

ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแพ้อาหารในเด็กก่อนค่ะ การแพ้อาหาร คือ ผลต่อสุขภาพ ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเกิดเนื่องจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจง และจะเกิดซ้ำได้เหมือนเดิมเมื่อรับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาการแพ้อาหารที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่น้อย ปานกลาง จนถึงรุนแรง ซึ่งมีผลถึงตายได้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลกันมาก และพยายามหาวิธีป้องกันไม่ให้ลูกเป็นภูมิแพ้ ซึ่งจากข้อมูลที่เผยแพร่ทั้งหมดคุณหมอได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก

  • บอกให้ลูกทานนมแม่อย่างเดียวจนอายุถึง 6 เดือน
  • โดยเลี่ยงอาหารที่เสี่ยงต่อการแพ้ และงดไปจนถึง 2 ขวบ

กลุ่มที่สอง

  • บอกให้ลูกทานในกลุ่มเสี่ยงเลยทันที
  • โดยเริ่มให้ทานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป

จะเห็นได้ว่าทั้งสองกลุ่มแตกต่างกันสิ้นเชิง คุณแม่หลายคนก็งงว่าตกลงแล้วฉันต้องทำยังไงดีล่ะ ควรให้ลูกกินเลยไหมหรือว่ารอไปก่อน แล้วตัวแม่ก็เป็นคนขี้แพ้อีก ลูกเราจะเป็นไหมน่ะ อันดับแรกคุณแม่ต้องเช็คก่อนว่าลูกน้อยอยู่ในกลุ่มไหนจะได้เลี้ยงลูกตามกลุ่มนั้น

อาหารกลุ่มเสี่ยง

อาหารกลุ่มเสี่ยง

ลูกเราอยู่ในกลุ่มเด็กขี้แพ้ไหมน่ะ?

คุณหมอของทางสมาคมภูมิแพ้ได้แนะนำวิธีการเลี้ยงลูกสำหรับเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงต่อการแพ้อาหาร ที่ได้รวบรวมจากหลักฐานทางงานวิจัย โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1: เด็กสุขภาพดี และครอบครัวไม่มีประวัติภูมิแพ้

ใครอยู่ในกลุ่มนี้ พ่อแม่สบายใจได้เลยจ้าเพราะคุณหมอบอกว่าทานได้ทุกอย่าง โดยเริ่มจากทานอาหารตามวัยหลังจากน้องอายุ 6 เดือนเป็นต้นไป และสามารถดื่มนมแม่ต่อเนื่องได้ไปจนถึงอายุ 2 ขวบด้วยน่ะ

กลุ่มที่ 2: เด็กสุขภาพดี และครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้

สำหรับคนท้องที่เป็นภูมิแพ้หรือมีคนในครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้ ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินของลูก ซึ่งคุณหมอแนะว่าให้เริ่มกินอาหาารในกลุ่มเสี่ยงได้ตั้งแต่อายุ 4-6 ปีได้

กลุ่มที่ 3: เด็กมีผื่นรุนแรง และครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้

น้องๆ ที่อยู่ในกลุ่มนี้ พ่อแม่ควรเข้ารับการปรึกษาจากกุมารแพทย์ทางโรคภูมิแพ้ก่อน เพื่อวางแผนการเริ่มและตัดสินใจให้ทานอาหารในกลุ่มเสี่ยงค่ะ จะได้ไม่ได้มาคาดเดาและลองผิดลองถูกเอง

อาหารกลุ่มเสี่ยงเด็กแพ้อาหาร

อาหารกลุ่มเสี่ยงเด็กแพ้อาหาร

วิธีให้ลูกเริ่มทานอาหารในกลุ่มเสี่ยง

  • กินนมแม่อย่างน้อย 4-6 เดือน
  • เริ่มให้ลูกได้ทานอาหารเสริมตั้งแต่อายุ 4-6 เดือน โดยเริ่มจากข้าว ผัก ผลไม้ แะเนื้อสัตว์ก่อน แต่ต้องเลือกที่เหมาะสมกับอายุของน้องด้วย
  • เริ่มให้อาหารใหม่ทีละชนิดทุก 3- 5 วัน
  • แนะนำให้คุณแม่หรือให้ผู้ปกครองทำอาหารเองจะดีกว่า
  • สำหรับอาหารพวกไข่ ถั่ว นม และขนมปัง ควรเริ่มให้หลังอายุได้ 4-6 เดือน รวมถึงสามารถให้อาหารเสริมอื่นๆ ได้ หากลูกน้อยไม่มีอาการแพ้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นขึ้น อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือดควรหยุดกินและปรึกษากุมารแพทย์ภูมิแพ้ต่อไป
  • ในช่วงขวบปีแรก ควรเลี่ยงอาหารพวก whole cow’s milk เนื่องจากมีผลต่อการทำงานของไต และธาตุเหล็กต่ำ และพวกถั่วที่เป็นเมล็ด เพราะอาจทำให้ลูกน้อยสำลักอาหารเข้าไปติดหลอดลมได้
  • อาหารงดอาหารทะเล ยกเว้นปลา และควรให้ลูกได้เริ่มทานหลังอายุครบ 1 ปี เป็นต้นไป

 

ที่มา: สมาคมโรคภูมิแพ้แห่งประเทศไทย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

บทความจากพันธมิตร
5 วิธี เสริมภูมิคุ้มกัน กุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกรักแข็งแรง พร้อมเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
5 วิธี เสริมภูมิคุ้มกัน กุญแจสำคัญที่ทำให้ลูกรักแข็งแรง พร้อมเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
ป้องกัน ลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ฉบับคุณแม่มือโปร ด้วย Breeze Baby
ป้องกัน ลูกแพ้น้ำยาซักผ้า ฉบับคุณแม่มือโปร ด้วย Breeze Baby
วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
วิธีดูแลผิวลูกหน้าร้อน ดูแลอย่างไรให้ห่างไกลปัญหาผดผื่น
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'

นมผงทารก นมผงดัดแปลง เลือกสูตรไหน แม่จะรู้ได้ยังไงว่าลูกแพ้นมผง

ลูกนอนกรนเพราะภูมิแพ้ แก้ง่ายๆ ถ้ารู้สาเหตุว่าลูกแพ้อะไร

ทราบได้อย่างไรว่าลูกแพ้อาหารผ่านนมแม่ ทารกเป็นผื่น ถ่ายมีมูกเลือด คือแพ้ใช่ไหม

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • อาหารกลุ่มเสี่ยง ลูกเราจะแพ้ไหม ควรเริ่มให้ลูกทานอายุเท่าไหร่ดี
แชร์ :
  • ลูกแพ้อาหารกลุ่มเสี่ยงที่แม่กิน ผ่านทางนมแม่ อุทาหรณ์ที่อยากเตือนแม่ให้นม

    ลูกแพ้อาหารกลุ่มเสี่ยงที่แม่กิน ผ่านทางนมแม่ อุทาหรณ์ที่อยากเตือนแม่ให้นม

  • เรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ ดูแลลูกอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง การแพ้อาหารในเด็ก วิธีสังเกตว่าลูกแพ้อาหารหรือไม่

    เรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ ดูแลลูกอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง การแพ้อาหารในเด็ก วิธีสังเกตว่าลูกแพ้อาหารหรือไม่

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • เล่าทั้งน้ำตา! ลูกชายวัย 4 ขวบ ตาบอดเฉียบพลัน โดยไม่มีสัญญาณเตือน!

    เล่าทั้งน้ำตา! ลูกชายวัย 4 ขวบ ตาบอดเฉียบพลัน โดยไม่มีสัญญาณเตือน!

  • ลูกแพ้อาหารกลุ่มเสี่ยงที่แม่กิน ผ่านทางนมแม่ อุทาหรณ์ที่อยากเตือนแม่ให้นม

    ลูกแพ้อาหารกลุ่มเสี่ยงที่แม่กิน ผ่านทางนมแม่ อุทาหรณ์ที่อยากเตือนแม่ให้นม

  • เรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ ดูแลลูกอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง การแพ้อาหารในเด็ก วิธีสังเกตว่าลูกแพ้อาหารหรือไม่

    เรื่องที่พ่อแม่ควรรู้ ดูแลลูกอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง การแพ้อาหารในเด็ก วิธีสังเกตว่าลูกแพ้อาหารหรือไม่

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • เล่าทั้งน้ำตา! ลูกชายวัย 4 ขวบ ตาบอดเฉียบพลัน โดยไม่มีสัญญาณเตือน!

    เล่าทั้งน้ำตา! ลูกชายวัย 4 ขวบ ตาบอดเฉียบพลัน โดยไม่มีสัญญาณเตือน!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ