อาการเริ่มต้นที่คุณแม่ควรสังเกต
อาการเจ็บท้องคลอด เกิดจากร่างกายหลังฮอร์โมนออกซีโตซินออกมากระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณมดลูกให้มีการหดรัดตัว และผ่อนคลายเป็นจังหวะ ดังนั้น มดลูกจะบีบตัวรุนแรงขึ้นขณะที่ศีรษะของเจ้าตัวน้อยเริ่มเคลื่อนต่ำลงมาบริเวณคอมดลูกรอคอยการออกมาดูโลกแล้วค่ะ
1. อาการเริ่มต้นเจ็บท้องคลอดในช่วงเริ่มต้น คล้ายกับการปวดท้องเวลาที่มีประจำเดือน อาจรู้สึกปวดท้อง ปวดหลัง
2. คุณแม่บางคนอาจจะมีอาการท้องเสียหรือคลื่นไส้อาเจียน มีมูกไหลออกมาทางช่องคลอด น้ำคร่ำเดินและเริ่มเจ็บท้องคลอดเพราะมดลูกเกิดการหดตัว
3. สำหรับบางท่านอาจจะไม่มีมูกเลือดออกทางช่องคลอดในระยะเริ่มต้นก็ได้นะคะ เพราะบางครั้งมูกจะออกมาในระยะอื่นของการเจ็บท้องคลอดก็ได้
4. สำหรับอาการน้ำเดิน คือ การมีน้ำคร่ำไหลออกมาทางช่องคลอด น้ำคร่ำทำหน้าที่รองรับตัวลูกน้อยในท้องคุณแม่ และเมื่อร่างกายคุณแม่พร้อมคลอดแล้ว ถุงน้ำคร่ำจะแตกออกและน้ำคร่ำจะไหลออกมาทางช่องคลอด ซึ่งคุณแม่บางท่านจะไหลออกมามากบางท่านไหลออกมาน้อย
5. อาการเจ็บท้องคลอดเกิดจากการหดรัดตัวและผ่อนคลายเป็นจังหวะ ๆ ของกล้ามเนื้อบริเวณท้องและหลังของคุณแม่ และคุณแม่จะรู้สึกเจ็บมากกว่าอาการท้องแข็งในช่วงตั้งครรภ์
6. หากเข้าสู่ระยะเจ็บท้องคลอดแล้ว มดลูกจะหดรัดตั้งรุนแรงขึ้น นานขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
อย่ารอช้า!!!ปฏิบัติตนแบบนี้เมื่อเจ็บท้องคลอด
1. ให้คุณพ่อหรือคนในบ้าน หากอยู่ที่ทำงานให้เพื่อนร่วมงานโทรแจ้งไปยังโรงพยาบาลว่า กำลังเริ่มเจ็บท้องคลอดในช่วงเริ่มต้นแล้ว ทางโรงพยาบาลซึ่งอาจจะเป็นนางพยาบาลแผนกสูติฯ จะสอบถามว่ามดลูกเริ่มบีบรัดตัวเป็นจังหวะทุก ๆ กี่นาที และควรรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
2. แน่นอนว่าช่วงเวลานี้คุณพ่อและคุณแม่ต้องตื่นเต้นมาก ๆ แต่ต้องพยายามควบคุมตัวเองให้สงบและผ่อนคลาย เพื่อให้คุณแม่รู้สึกอุ่นใจ เก็บกระเป๋าสัมภาระสำหรับคลอดที่เตรียมไว้เพื่อไปโรงพยาบาล ระหว่างทางชวนคุณแม่พูดคุยเพื่อให้คุณแม่คลายความกังวล
3. เมื่อถึงโรงพยาบาล คุณพ่อจัดการติดต่อกับทางแผนกสูติฯ ทางโรงพยาบาลจะดำเนินการเรื่องห้องเพื่อพาคุณแม่เข้าไปพักผ่อน คุณพ่อควรพูดคุยให้กำลังใจ คอยชักชวนให้คุณแม่เปลี่ยนท่านอน และคอยเตือนคุณแม่ให้อยู่ในท่าตัวตรงตั้งฉากกับพื้นจะช่วยเร่งปากมดลูกให้เปิดเร็วขึ้น
4. เตรียมน้ำดื่มเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้น เพราะมีอาการอ่อนเพลียจากการเจ็บท้อง ถ้ารู้สึกว่าลมหายใจคุณแม่มีกลิ่นแสดงว่าคุณแม่เริ่มขาดน้ำ ควรเตือนให้คุณแม่จิบน้ำบ่อย ๆ
5. คอยเตือนให้คุณแม่ผ่อนคลาย ให้หายใจช้า ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณแม่ปวดจนมีอาการเกร็ง
6. หากมีอาการปวดหลัง ให้คุณพ่อใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือผ้าขนหนูประคบบริเวณที่ปวด หรือใช้วิธีการนวด โดยกำมือหรือใช้สันมือกดนวดบริเวณที่ปวดและบริเวณใกล้เคียง
7. คุณพ่อควรควบคุมอารมณ์และความรู้สึก หากเวลาที่คุณแม่ร้องปวดท้องคลอด เพราะการร้องจะช่วยให้คุณแม่ระบายความเจ็บปวดได้
8. คอยบอกสถานการณ์ ความก้าวหน้าในการคลอดให้คุณแม่รู้เพื่อเป็นกำลังใจในการคลอด
9. ให้กำลังใจคุณแม่และชื่นชมคุณแม่เมื่อลูกคลอดแล้ว
บทความแนะนำ ความภูมิใจของคนเป็นแม่ในวินาทีแรกคลอด
จากบทความขั้นตอนต่าง ๆดำเนินมาจนเสร็จเรียบร้อย คราวนี้เหลือการปฏิบัติจริงที่คุณแม่จะต้องลงมือปฏิบัติ อย่ากังวลไปค่ะ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวแม้ว่าจะมีอาการเจ็บปวดบ้างแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขนะคะ นึกถึงหน้าเจ้าหนูเอาไว้ เดี๋ยวได้เจอกันแล้วค่ะ
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
หนังสือ เตรียมตัวคลอดอย่างไรให้ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ปากมดลูกเปิดเป็นยังไง สัญญาณใกล้คลอดที่ควรรู้
เชื่อไหมว่าฉันคลอดลูกเองที่บ้าน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!