พัฒนาการของเด็กแต่ละคนเป็นไปตามช่วงวัยค่ะ แต่การ “เดิน” นับเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต่างรอคอย ที่จะได้เห็น “ก้าวแรก” ของลูกน้อย ซึ่งเมื่อลูกมีอายุถึงวัยที่ควรจะก้าวเดินได้ แต่กลับไม่ยอมเดิน หรือเดินได้ไม่คล่องแคล่ว ก็อาจสร้างความกังวลใจให้กับพ่อแม่ไม่น้อย บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับพัฒนาการการเดินของลูกน้อย ลูกยังไม่ยอมเดิน ทำไงดี??? พ่อแม่ช่วยังไงได้บ้าง มาดูคำแนะนำวิธีที่พ่อแม่สามารถช่วยเหลือและส่งเสริมให้ลูกน้อยก้าวเดินได้อย่างมั่นใจกันค่ะ
เข้าใจพัฒนาการ “การเดิน” ของลูก
ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนค่ะว่า เด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ทำใจให้ร่มๆ อย่าเพิ่งกังวลไป ถ้าลูกจะเดินช้ากว่าเพื่อนวัยเดียวกันสัก 3-4 เดือน เพราะแม้แต่พี่น้อง หรือฝาแฝด ก็ยังมีพัฒนาการที่ต่างกัน แม้ลูกจะทำอะไรได้ช้าไปบ้างจนน่าห่วง หรือเร็วปุบปับไปจนน่าใจหาย หากยังไม่มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าห่วงค่ะ ท้ายที่สุดแล้วลูกน้อยจะเดินได้เอง และพอคุณพ่อคุณแม่รู้ตัวอีกทีลูกอาจวิ่งเร็วจนน่ากลัว หรือเตะฟุตบอล และกระโดดโลดเต้นได้อย่างคล่องแคล่วแล้วละค่ะ
ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากศูนย์ของทารก เด็กจะเริ่มก้าวเตาะแตะในอายุระหว่าง 9-12 เดือน และจะเริ่มเดินได้เอง เมื่อมีอายุ 14 หรือ 15 เดือน แต่ถ้าเด็กบางคนใช้เวลามากกว่านี้อีกหน่อยก็ไม่ต้องกังวล เพราะเด็กหลายคนกว่าจะยอมเดินก็อายุได้ราว 16 หรือ 17 เดือนแล้ว ฉะนั้น หากลูกน้อยอายุได้ 18 เดือน แล้วยังไม่เริ่มตั้งไข่นี่สิ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องกังวล ควรจะเข้าไปปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกน้อยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกไม่ยอมเดิน ไม่ตั้งไข่ อายุเท่าไหร่ควรพาไปหาหมอ

ปัจจัยที่ทำให้ ลูกยังไม่ยอมเดิน
1. ลูกยังไม่พร้อม
เด็กบางคนนั้นมีความระมัดระวังและมีกระบวนการเก็บข้อมูลที่ละเอียดและมากกว่าเด็กคนอื่น ในตอนนี้ลูกกำลังดูคุณพ่อคุณแม่เดินอยู่ค่ะ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวเองให้ก้าวผ่านพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งขั้น
2. ลูกน้ำหนักเยอะ
อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเดินเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้วมีความเกี่ยวข้องกันอยู่นะคะ เพราะเด็กที่น้ำหนักมาก จะเดินช้ากว่าเด็กที่น้ำหนักน้อยกว่าค่ะ
3. ลูกอยากพูดก่อน
เด็กที่พูดน้อย หรือพูดช้า จะเดินได้เร็วกว่าเด็กที่เริ่มพูดเร็วค่ะ ทั้งนี้ เนื่องจากการพูดและการเดินต่างก็เป็นพัฒนาการแต่ละขั้นที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ลูกต้องใช้เวลาเรียนรู้ ลองทำ และปรับตัว ดังนั้น ถ้าลูกพูดก่อนเดิน ให้เวลาลูกสักพักค่ะ ให้ลูกได้ทำสิ่งนั้นจนชิน จนเริ่มคล่อง เมื่อได้พูดจนหนำใจแล้ว ลูกน้อยจะพร้อมในการเริ่มพัฒนาการต่อไป นั่นคือ “การเดิน” นั่นเองค่ะ
4. ลูกไม่มีโอกาส
หากคุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกบ่อยเกินไป ลูกไม่มีโอกาสได้นอนเล่น นั่งเล่นที่พื้นมากนัก ซึ่งก็มีแนวโน้มที่เป็นไปได้ว่าลูกจะเดินช้านะคะ
5. กล้ามเนื้อหลังลูกน้อยไม่แข็งแรง
จะสังเกตได้จากเวลาอุ้ม ลูกมีอาการคอพับคออ่อน หันไปมา อยู่ไม่นิ่ง การเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก ลุกนั่งตัวเอนไปเอนมา เดินได้นิดเดียวก็ล้ม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจคิดว่าลูกตัวอ่อน พอโตขึ้นก็คงจะหายไปเอง ทำให้มองข้ามความสำคัญของพัฒนาการที่เป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต ทำให้ลูกทรงตัวไม่ดี มีผลให้ลูกไม่ยอมเดิน

ลูกจะเดินเมื่อไหร่ ? ตั้งไข่ได้ตอนไหน
เด็กส่วนใหญ่จะเดินเมื่ออายุได้ 8-18 เดือนค่ะ หากเกิน 18 เดือนไปแล้วและลูกยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมเดิน ถ้าคุณพ่อคุณแม่กังวล สามารถพาไปหาคุณหมอเพื่อตรวจหาความผิดปกติได้นะคะ โดยในช่วงขวบปีแรก ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่จะเรียนรู้การทำให้ร่างกายสมดุล รวมถึงการควบคุมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เริ่มแรกทารกจะพยายามทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ ศีรษะ ไหล่ และลำตัวให้มั่นคง แข็งแรง จากนั้นก็จะเริ่มใช้แขนและกล้ามเนื้อมือให้มีความชำนาญมากขึ้น ก่อนที่จะไปพัฒนาบริเวณสะโพกต้นขา เข่า ทำให้ลูกน้อยเริ่มคลานได้ พออายุประมาณ 9-10 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มนั่งได้นานขึ้นจากการใช้มืออีกข้างพยุงตัวเองไว้ ถัดไปอีก 3-6 เดือน ลูกน้อยของคุณก็จะเริ่มฝึกหัดตั้งไข่ และเริ่มเดินในที่สุดค่ะ
ลูกเดินได้ตอนกี่เดือน พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไร
ลูกเดินได้ตอนกี่เดือน เมื่อไหร่ลูกถึงจะเริ่มเดิน ปกติแล้วทารกจะเริ่มหัดเดินเมื่อมีความพร้อมทางด้านร่างกายค่ะ ถ้าถามว่าจะรู้ได้ยังไงว่าลูกเราพร้อมแล้วหรือยัง พ่อแม่สามารถสังเกตได้จากการแสดงพฤติกรรมออกมา ถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกเดินได้เร็วๆ ก็ไม่คราวอุ้มลูกบ่อย ปล่อยให้ลูกได้มีโอกาสได้คลานหรือยืนด้วยตัวเองบ้าง เพื่อให้ลูกน้อยได้มีพัฒนาการทักษะด้านการเคลื่อนไหว และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อค่ะ

ลูกยังไม่ยอมเดิน พ่อแม่ช่วยอะไรได้บ้าง
- ปล่อยลูกอยู่บนพื้นบ้าง : การปล่อยลูกให้นอนเล่นบนพื้นหรือบนแผ่นรองคลานที่มีคอกกั้น ลูกจะมีโอกาสทดลองสิ่งต่าง ๆ สำหรับก้าวแรกของเขา
- สร้างแรงจูงใจ : วางของเล่นชิ้นโปรดหรือของที่ลูกชอบไว้บนโซฟาหรือโต๊ะเตี้ย ๆ ที่ลูกสามารถมองเห็นได้ เมื่อลูกมองเห็น ย่อมเกิดความรู้สึกอยากได้ แต่ของที่อยู่บนที่สูง แน่นอนว่าลูกจะต้องพยายามเดินค่ะ
- ชวนลูกกระโดด : การกระโดดโดยมีคุณพ่อคุณแม่ช่วยประคองนั้น จะทำให้กล้ามเนื้อขาของลูกแข็งแรงขึ้น และพร้อมสำหรับการเดินและวิ่งต่อไปค่ะ
- ให้ลูกมีที่เกาะ : เช่น รถที่เกาะยืนหรือเดิน ควรมีล้อที่ไม่ลื่นมากนัก สำหรับลูกเวลาเกาะยืน และพอออกแรงให้รถเคลื่อนตัวไป จะเป็นการทำให้ลูกต้องเคลื่อนตัวตาม และนั่นแหละค่ะที่ทำให้ลูกเริ่มที่จะเดินได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- ยังไม่ต้องสนใจรองเท้า : ปล่อยให้เท้าลูกสัมผัสพื้นผิวที่แตกต่างกันออกไป อย่างพื้นดิน พื้นหญ้า พื้นทราย ลูกจะรู้ถึงความแตกต่าง และการเรียนรู้นั้นจะทำให้ลูกน้อยอยากที่จะเดินค่ะ

วิธีกระตุ้นให้ลูกก้าวเท้าเดิน
- คุณพ่อคุณแม่ยืนตรงข้ามกับลูก แล้วจับมือทั้งสองข้างลูกไว้
- ค่อยๆ ถอยหลังทีละเล็กละน้อย ลูกจะค่อย ๆ ก้าวเท้าออกมาข้างหน้า
- หากลูกปฏิเสธ ให้คุณพ่อคุณแม่ร้องเพลง หรือสื่อสารกับลูก เพื่อให้ลูกจดจ่อที่รอยยิ้มของคุณพ่อคุณแม่แทน
- ใช้อุปกรณ์ช่วยเดินที่มีหลักการเหมือนคุณพ่อคุณแม่พาเดิน ตามคำแนะนำข้างต้น
- ไม่แนะนำให้ใช้รถหัดเดินค่ะ เพราะนอกจากไม่ช่วยให้ระบบการทรงตัวและการเคลื่อนไหวของร่างกายลูกน้อยพัฒนาไปตามปกติแล้ว ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้นด้วย
theAsianparent ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการช่วยฝึกให้ลูกทรงตัวได้ดี และเริ่มตั้งไข่ไว ๆ นะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกไม่ยอมตั้งไข่ ทรงตัวไม่ดี มีผลต่อพัฒนาการสมองของลูก
รถหัดเดิน อุบัติภัยใกล้ตัวเด็ก อันตรายที่แม่คาดไม่ถึง
ทำอย่างไรเมื่อลูกวัยเตาะแตะไม่ยอมเดิน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!