พ่อแม่เจ้ากี้เจ้าการ ทำชีวิตลูกดิ่งลงเหว!
เชื่อว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่หลายคนมีความรักลูกมาก อยากให้ลูกได้ดี ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการมากที่สุด แต่บางครั้งความต้องการของพ่อแม่อาจทำให้ลูกต้องเจ็บปวด เรื่องราวที่น่าเศร้านี้เป็นเรื่องจริงของหญิงสาวที่ต้องทนทุกทรมานเพราะ พ่อแม่เจ้ากี้เจ้าการ เป็นเจ้าของชีวิตลูกเกินไป ทาง TheAsianparent จึงอยากนำเสนอเรื่องราวนี้เป็นบทเรียนสำหรับพ่อแม่ค่ะ
ความเจ็บปวดที่พ่อแม่ไม่เข้าใจ
หญิงสาวนิรนามรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวของตนเองลงในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Subtle Asian Traits โดยให้เหตุผลว่าคนในกลุ่มน่าจะเข้าใจเธอ เพราะมีวัฒนธรรมที่คล้ายกัน และนี่คือข้อความของเธอ
“เฮ้ เพื่อน ๆ ชาวเอเชีย
ฉันต้องการคำแนะนำในการใช้ชีวิตหน่อยค่ะ ฉันรู้สึกอับจนหนทางแล้วในตอนนี้ว่าฉันควรจะทำอย่างไรดี
เรื่องของเรื่องก็คือว่า พ่อแม่ของฉันเจ้ากี้เจ้าการและเป็นห่วงฉันมากจนเกินไปแทบจะตลอดชีวิตที่ผ่านมา ตอนเป็นเด็ก ฉันไม่เคยได้รับอนุญาตให้ไปเล่นบ้านเพื่อนเลย”
หญิงสาวคนนี้เป็นคนออสเตรเลียเชื้อสายจีน เธอคิดว่าเป็นผู้อพยพเข้ามา โดยที่พ่อแม่เลี้ยงดูอย่างเข้มงวดมาก โดยเฉพาะลูกสาว เธอบอกว่าเธอรักพ่อแม่ แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำกลับทำให้เธอกลายเป็นคนขี้อาย เก็บตัว และคบใครได้ไม่นาน เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เธอรู้สึกเหงาหนักกว่าเดิม พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็หาเพื่อนยาก เพราะทุกคนล้วนมีเพื่อนสนิทไปกันหมดแล้ว ทำให้เธออยากมีเพื่อน
เมื่อปีที่แล้วเธอย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ แต่กลายเป็นว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเรื่องภายนอกเลย ไม่รู้จักการเล่นเกมในที่ทำงานหรือกับแฟน ใช้ชีวิตในสังคมก็ไม่เป็น ทั้งๆ ที่อายุจะเข้า 25 ปี แล้ว แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกว่าอายุเหมือนเด็ก 5 ขวบ เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ขณะย้ายออกมาแล้วเธอยังต้องกลับบ้านก่อน 3 ทุ่ม และต้องตอบคำถามว่า “ออกไปกับใคร ไปยังไง ใครมารับ”
แม่จะออกมาส่งที่ประตูบ้าน แล้วบอกว่า “กลับบ้านก่อน 3 ทุ่มนะลูก ไม่งั้นแม่จะแจ้งตำรวจ” พอใกล้ถึงเวลากลับบ้าน แม่จะส่งข้อความมาหาฉันไม่หยุด ส่วนพ่อก็จะอีเมลมาเหมือนกัน แต่เธอจะเห็นอีกทีก็วันรุ่งขึ้น โดยอีเมลที่พ่อส่งไปนั้นประมาณว่า “ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก!” หรือ “ข้าวเย็นพร้อมแล้วนะ”
เมื่ออายุ 21 ปี พ่อกับแม่เคยโทรหาตำรวจจริงๆ ตอนนั้นเธอย้ายไปฝึกงานนาน 3 เดือน พ่อแม่ให้ไปพักที่บ้านเพื่อนของเขา โดยมีเจ้าของบ้านเป็นคนจับตามองว่าเธอ ออกไปไหน กลับเมื่อไหร่ พอฝึกงานจบก็มีงานเลี้ยงเธอไม่ได้กลับบ้าน เพื่อนพ่อแม่เลยบอกที่บ้าน ทำให้พ่อกับแม่ส่งข้อความมาไม่หยุด ประมาณว่า “ทำไมยังไม่กลับบ้าน ลูกควรกลับเดี๋ยวนี้” เธอได้ส่งข้อความกลับไปบอกว่า อยู่ที่งานเลี้ยงของบริษัท และแม่ก็ไม่ยอมหยุดยังคงโทรหาเธอเรื่อยๆ
จนในที่สุดเธอก็ยอมรับสายแม่ แล้วแม่ก็ตะโกนมาว่า “พ่อกับแม่จะรู้ได้ไงว่า ลูกไม่ถูกจับเป็นตัวประกัน แล้วคนที่ส่งข้อความมาไม่ใช่คนที่ลักพาตัวหนูไป!” เธอบอกว่าสบายดี แต่แม่ก็ยังบอกว่า “มีคนจับลูกเป็นตัวประกันไปแล้ว!” พ่อแม่ทำตามที่ขู่ไว้ด้วยการโทรแจ้งตำรวจ ซึ่งทางตำรวจบอกพวกเขาว่า ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเธออายุ 21 ปีแล้ว
สิ้นปีที่ผ่านมา เธอออกไปฉลองกับเพื่อนจนถึงตี 1 พ่อแม่ก็ทำเหมือนเดิม และพยายามติดต่อทุกคนที่รู้จักว่าเธอเคยไปไหนบ้าง ทำให้เธอโมโหมากเพราะอายุ 21 ปี แล้ว แต่ไม่เคยได้ไปงานเลี้ยงเลย พอไปก็ไม่สนุก เพราะพ่อแม่โทรตามไม่หยุด เธอคิดว่า สิ่งที่พ่อแม่ทำส่งผลเธอไม่มีเพื่อน และก่อนที่จะคบใครเป็นเพื่อนต้องได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ก่อน ที่สำคัญต้องคบแต่เพื่อนผู้หญิงเท่านั้น!
พ่อแม่เจ้ากี้เจ้าการ เข้มงวดกับลูกมากเกินไป ยิ่งทำให้ชีวิตลูกดิ่งลงเหว!
เมื่อตอนอายุ 13 ปี พ่อแม่แกะรอยทุกคนที่คุยด้วยทางออนไลน์ พออ่านจบก็ลบอีเมลทิ้งไปเลย ตอนอายุ 15 ปี แม่ยังจูงมือข้ามถนน ซึ่งเธอบบอกว่าในบรรดาพี่น้องทั้งหมด พี่ชายคนโตโดนหนักสุด เคยสอบได้ 96 เต็ม 100 พ่อแม่ก็ยังดุด่าบอกว่ายังทำไม่ไดีพอ
ขณะนี้เขาอายุ 30 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ทำงานอยู่แต่บ้านเล่นเกมทั้งวัน เขาไม่ยอมทำงานด้านธุรการที่ได้เงินเดือนน้อย เพราะเขาจบปริญญาโท มหาวิทยาลัยดี ซึ่งแม่ก็เห็นด้วย ส่วนพ่อก็พยายามหางานที่ร้านฟาสตฺฟ้ดให้ แต่แม่ไม่เห็นด้วย เพราะบอกว่าลูกจบตั้งปริญญาโท อีกทั้งพี่ชายไม่สามารถทนการถูกปฎิเสธได้ เพราะเขาขาดทักษะการสื่อสาร การใช้ชีวิตในสังคม ทำให้มีปัญหาทางอารมณ์
พี่คนรองเป็นคนเรียนไม่เก่ง ไม่ได้เขามหาวิทยาลัย จึงไม่ค่อยถูกกดดันอะไร และเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 16 ปี อนนี้เขาเป็นนักวิเคราะห์การเงินและมีเงินเดือนสูงกว่าค่าเฉลี่ย และไม่ได้อยู่ใกล้กับพ่อแม่ น้องสาวคนเล็ก มีความเชี่ยวชาญในการหลอกพ่อแม่ มีวิธีพูดเอาใจพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่ตายใจและใช้ชีวิตอิสระได้ เพราะเธอเห็นว่าพ่อแม่ทำกับพี่ๆ ยังไงบ้าง
หลังจากที่ได้โพสต์ไป มีชายคนหนึ่งเล่าให้เรื่องของเขาให้ฟังว่า พ่อแม่ของเขาก็เข้มงวดเหมือนกัน เขาก็เลยต่อต้าน เขาออกไปข้างนอก ลองทุกอย่างที่เขาไม่เคยลอง ทั้งยาเสพติด เหล้า เซ็กส์แบบฉาบฉวย และเธอคิดว่าเขาจะให้คำแนะนำกับเธอได้ และก็มีคำแนะนำต่างๆ ตามมามากมายทั้งให้เธอหางานอดิเรกทำ ปรึกษาจิตแพทย์ อ่านนิยาย ซึ่งเธอก็บอกว่าจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อเป้าหมายสูงสุด คือ การมีความสุข และเพื่อก็เป็นผลผลอยได้
จากเรื่องราวที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เชื่อว่าน่าจะแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตที่หญิงสาวคนนี้ได้รับจากการที่พ่อแม่เข้ามาจัดการ จัดแจง และบีบบังคับลูกเกินไป ถ้าพ่อแม่ไม่อยากให้อนาคตของลูกเป็นคนแบบนี้ เติบโตเป็นแบบนี้ พ่อแม่ต้องเริ่มรู้จักปล่อยวาง ควรถามลูก และเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง ทุกคนต่างรักลูก แต่อย่าลืมให้ลูกมีทางเดินของตัวเองนะคะ เป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนค่ะ
หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากจะแชร์เรื่องราวของตน ไม่ว่าการเลี้ยงลูก ชีวิตคู่ หรือคำแนะนำต่างๆ สามารถ Inbox มาที่เพจได้เลยนะคะ
ที่มา: bbc
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
พ่อแม่รู้ไหม! ส่งลูกเข้าโรงเรียนเร็วเกินไปอาจทำให้ ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น !
ลักษณะนิสัยของพ่อแม่ที่ทำร้ายลูก ทำให้ลูกเป็นเด็กก้าวร้าว คุณเป็นแบบนี้ไหม!
ลูกทำผิดพ่อแม่อย่าซ้ำ ลูกมีสิทธิทำพลาดได้ แล้วแบบนี้พ่อแม่ต้องทำยังไง?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!