TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์: สาเหตุ และ 5 วิธีบรรเทาอาการที่คุณแม่ทำได้

บทความ 8 นาที
ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์: สาเหตุ และ 5 วิธีบรรเทาอาการที่คุณแม่ทำได้

อาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ (Pelvic Girdle Pain – PGP) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยกว่าที่คุณแม่หลายคนคิด จากสถิติพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ใกล้คลอดถึง 1 ใน 5 ต้องเผชิญกับอาการนี้ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและสรีระเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดลูกน้อย

ถึงแม้จะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะต้องยอมทนกับความเจ็บปวดนะคะ เพราะอาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่สามารถจัดการและบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยวิธีที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการปรับท่าทาง การออกกำลังกายเบาๆ หรือการทำกายภาพบำบัด เพื่อให้คุณแม่สามารถมีความสุขกับการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่ค่ะ

 

ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ (Pelvic Girdle Pain: PGP) คืออะไร?

อาการปวดอุ้งเชิงกราน หรือ PGP คือ อาการปวดหรือไม่สบายตัวที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกและข้อต่อของอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในระหว่างการตั้งครรภ์ ในอดีตอาการนี้เคยถูกเรียกว่า ‘ภาวะอุ้งเชิงกรานไม่มั่นคง’ หรือ ‘ภาวะซิมฟิซิสพิวบิสทำงานผิดปกติ (SPD)’

ช่วงเวลาที่มักเกิดอาการ: ปวดอุ้งเชิงกราน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงของการตั้งครรภ์ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเริ่มมีอาการในช่วงสัปดาห์ที่ 14 ถึง 30 และในบางรายอาจมีอาการต่อเนื่องไปจนถึงหลังคลอดบุตรได้

ตำแหน่งที่มักเกิดอาการปวด: อาการปวดมักเกิดจากข้อต่อหลักๆ 2 ตำแหน่ง คือ:

  1. ข้อต่อกระดูกเชิงกราน (Sacroiliac joints): คือบริเวณที่กระดูกเชิงกรานมาเชื่อมต่อกับกระดูกสันหลังส่วนล่าง (มักจะรู้สึกปวดบริเวณหลังส่วนล่างหรือก้น)
  2. ข้อต่อหัวหน่าว (Symphysis pubis): คือบริเวณที่กระดูกเชิงกรานมาบรรจบกันที่ด้านหน้า (มักจะรู้สึกปวดบริเวณหัวหน่าว)

 

ปวดอุ้งเชิงกราน ต่างจากอาการ ปวดหลังทั่วไป อย่างไร?

เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่จะสับสนและแยกความแตกต่างของอาการปวดทั้งสองชนิดได้ยาก เนื่องจากเป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกัน คือ หลังส่วนล่าง สะโพก และอาจร้าวลงขาได้เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างที่พอจะสังเกตได้ดังนี้

อาการปวดหลังส่วนล่างทั่วไป

  • ตำแหน่งหลัก: จะรู้สึกปวดที่บริเวณแผ่นหลังมากกว่าอุ้งเชิงกราน
  • ลักษณะอาการ: อาจมีอาการปวดรุนแรง และมีลักษณะปวดแปลบๆ หรือปวดเสียวร้าวลงไปที่ก้น ขาหนีบ ต้นขา หน้าแข้ง จนถึงเท้าได้

อาการปวดอุ้งเชิงกราน

  • ตำแหน่งหลัก: ปัญหาเกิดจากข้อต่อกระดูกเชิงกราน ทำให้รู้สึกตึงที่บั้นท้ายและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
  • ลักษณะอาการ: โดยปกติแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บปวดตลอดเวลา แต่อาการปวดจะปรากฏชัดเจนขึ้นเมื่อทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น พยายามวิ่ง หรือออกกำลังกาย

สรุปง่ายๆ คือ ถ้าอาการปวดหลักๆ อยู่ที่แผ่นหลังและปวดรุนแรง อาจเป็นอาการปวดหลังทั่วไป แต่ถ้าอาการหลักเป็นความรู้สึกตึงที่ก้นและหลังขา และจะเจ็บก็ต่อเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย อาจมีแนวโน้มเป็นอาการปวดอุ้งเชิงกรานมากกว่าค่ะ

ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์

ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ อาการเป็นอย่างไร?

อาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ มีได้หลายระดับ ตั้งแต่รู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยไปจนถึงอาการปวดที่รุนแรงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกายได้ลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการปวดรุนแรง

ตำแหน่งที่สามารถรู้สึกปวดได้

อาการปวดอาจเกิดขึ้นที่อุ้งเชิงกรานและอาจขยายไปยังบริเวณอื่นๆ ได้แก่:

  • หลังส่วนล่าง
  • หน้าท้องส่วนล่าง
  • ขาหนีบหรือก้น
  • สะโพก
  • ต้นขา
  • ฝีเย็บ (บริเวณระหว่างอวัยวะเพศและทวารหนัก)
  • เข่าและขา

ลักษณะอาการอื่นๆ

นอกจากอาการปวดแล้ว คุณแม่อาจรู้สึกหรือได้ยินเสียงคลิกหรือเสียงเสียดสีบริเวณข้อต่อได้ด้วย

กิจกรรมที่ทำให้อาการปวดอุ้งเชิงกรานรุนแรงขึ้น

อาการปวดมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวในลักษณะต่อไปนี้:

  • เดินเร็วหรือเดินเป็นระยะทางไกล
  • ขึ้นหรือลงจากรถ
  • พลิกตัวบนเตียง
  • ขึ้นหรือลงบันได
  • ลุกขึ้นจากท่านั่ง
  • มีเพศสัมพันธ์

สาเหตุที่ทำให้ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์

สาเหตุที่แน่ชัดของอาการปวดอุ้งเชิงกราน ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและร่างกายของคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ โดยแบ่งสาเหตุหลักและปัจจัยเสี่ยงได้ดังนี้

สาเหตุหลักจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: ในระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เอ็นต่างๆ บริเวณอุ้งเชิงกรานคลายตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด ซึ่งการคลายตัวนี้อาจทำให้ข้อต่อในอุ้งเชิงกรานมีความมั่นคงลดลงและเกิดอาการเจ็บปวดได้
  2. การเปลี่ยนแปลงทางสรีระ: เมื่อมดลูกขยายใหญ่ขึ้น น้ำหนักตัวของคุณแม่จะถูกถ่วงมาที่ด้านหน้าของร่างกายมากขึ้น ทำให้ท่าทางการยืนและการเดินเปลี่ยนไปโดยธรรมชาติ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างแรงกดทับเพิ่มเติมให้กับกระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณกระดูกสันหลังและอุ้งเชิงกราน จนนำไปสู่อาการปวดได้

ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดอาการปวดอุ้งเชิงกราน

คุณแม่จะมีแนวโน้มที่จะมีอาการปวดอุ้งเชิงกรานมากขึ้น หากมีปัจจัยเหล่านี้ร่วมด้วย:

  • เคยมีประวัติปวดหลังส่วนล่างหรือปวดอุ้งเชิงกรานมาก่อนตั้งครรภ์ หรือในการตั้งครรภ์ครั้งก่อนๆ
  • เคยได้รับบาดเจ็บที่หลังหรือกระดูกเชิงกราน
  • เคยตั้งครรภ์มาแล้วหลายครั้ง
  • ทำงานที่ต้องใช้แรงกายหนัก
  • มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
  • กำลังเผชิญกับความเครียดหรือความทุกข์ทางอารมณ์
  • สูบบุหรี่

ปวดอุ้งเชิงกราน ตั้งครรภ์

วิธีบรรเทาอาการปวดอุ้งเชิงกรานด้วยตัวเอง ที่ปลอดภัยสำหรับแม่และลูก

แม้ว่าอาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ จะสร้างความไม่สบายตัวและรบกวนการใช้ชีวิตของคุณแม่ไปบ้าง แต่ข่าวดีก็คือมีวิธีง่ายๆ มากมายที่คุณแม่สามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อช่วยบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้ปวดรุนแรงขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มีความปลอดภัยสูง และสามารถช่วยให้ช่วงเวลาตั้งครรภ์ของคุณแม่สบายตัวขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ

  1. การปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน

  • พยายามให้หัวเข่าชิดกันเสมอ: เพื่อลดแรงกดที่ข้อต่ออุ้งเชิงกราน เช่น เวลานั่งหรือลุกจากรถ และเวลาพลิกตัวบนเตียง
  • การแต่งตัว: ให้นั่งลงบนเก้าอี้หรือขอบเตียงเวลาใส่หรือถอดเสื้อผ้า กางเกง และรองเท้า เพื่อหลีกเลี่ยงการยืนขาเดียวซึ่งอาจทำให้เสียการทรงตัวและปวดมากขึ้น
  • การขึ้น-ลงบันได: ให้ก้าวขึ้นหรือลงทีละขั้น โดยใช้ขาข้างที่แข็งแรงกว่านำก่อนเสมอ
  • การยืน: พยายามลงน้ำหนักที่ขาทั้งสองข้างให้เท่าๆ กัน หลีกเลี่ยงการทิ้งน้ำหนักไปที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง
  1. การปรับเปลี่ยนกิจกรรมและหลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการ

  • เคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ: พยายามขยับร่างกายเท่าที่ทำได้ แต่ให้หยุดหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เริ่มทำให้รู้สึกเจ็บปวด
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนัก: ไม่ว่าจะเป็นถุงช้อปปิ้ง, เครื่องดูดฝุ่น, ตะกร้าผ้าเปียก หรือแม้แต่การอุ้มลูกคนโต
  • ลดภาระที่ไม่จำเป็น: ลองสั่งซื้อของออนไลน์ หรือขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวแทนการไปเดินซื้อของเอง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: เมื่อรู้สึกว่าต้องพัก อย่าฝืนร่างกาย หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ
  • หากต้องเดินกับลูกเล็ก: ลองใช้รถเข็นเด็กเป็นที่พยุงตัวขณะเดิน แต่ไม่ควรเดินไกลเกินไปจนทำให้ขากลับลำบาก
  1. การนอนหลับพักผ่อน

  • ใช้หมอนช่วย: นอนในท่าที่สบาย โดยใช้หมอนสอดรองไว้ใต้ท้องและระหว่างขา เพื่อช่วยพยุงร่างกายและจัดแนวกระดูกเชิงกรานให้เหมาะสม
  1. การออกกำลังกาย

  • ว่ายน้ำ: เป็นการออกกำลังกายที่ดี แต่ควรหลีกเลี่ยง “ท่ากบ” เพราะเป็นการแยกขาซึ่งอาจกระตุ้นอาการปวดได้
  • ปั่นจักรยาน: การปั่นจักรยานแบบอยู่กับที่เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมและปลอดภัย เพราะเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ และไม่ต้องกังวลเรื่องการทรงตัว
  1. เรื่องอื่นๆ ที่ช่วยได้

  • เลือกรองเท้า: สวมรองเท้าส้นแบนที่มีส่วนซัพพอร์ตเท้าที่ดี จะช่วยให้การทรงตัวและการเดินของคุณแม่ดีขึ้น
  • การมีเพศสัมพันธ์: ลองปรับเปลี่ยนท่าทาง เช่น ท่าคุกเข่าสี่ขา หรือนอนตะแคง เพื่อลดอาการปวด

หากลองดูแลตัวเองแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือปวดรุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิต ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด ซึ่งอาจให้การรักษาเพิ่มเติมค่ะ

 

ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์: สาเหตุ และ 5 วิธีบรรเทาอาการที่คุณแม่ทำได้

รับมืออาการปวดอุ้งเชิงกรานในไตรมาส 3 อย่างไร?

เป็นเรื่องปกติที่คุณแม่อาจรู้สึกว่าอาการปวดอุ้งเชิงกรานรุนแรงและชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งถือเป็นโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภ์ มาทำความเข้าใจว่าทำไมช่วงท้ายของการตั้งครรภ์อาการถึงรุนแรงขึ้น และมีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษกันค่ะ

ทำไมอาการปวดถึงรุนแรงขึ้นในไตรมาสที่ 3?

  1. น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและแรงกดทับ: เมื่อมดลูกขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำหนักทั้งหมดจะกดทับลงบนอุ้งเชิงกรานโดยตรง ประกอบกับกระดูกหัวหน่าวที่เริ่มแยกตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด จึงยิ่งเพิ่มแรงกดทับมหาศาล ทำให้คุณแม่รู้สึกปวดหลังส่วนล่างและปวดเอ็นยึดมดลูกได้มากขึ้น
  2. ท่าของทารก: ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ ทารกส่วนใหญ่จะกลับศีรษะลงเพื่อเตรียมคลอด ทำให้ศีรษะของทารกกดลงบนกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานของคุณแม่โดยตรง ซึ่งจะเพิ่มความเจ็บปวดอย่างมากบริเวณหลังส่วนล่าง, กระดูกก้นกบ, ข้อต่อกระดูกเชิงกราน และข้อต่อหัวหน่าว คุณแม่อาจรู้สึก “หน่วง ตึง หรือเจ็บแปลบ” บริเวณฝีเย็บ ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อส่วนนี้ต้องทำงานหนักเกินไป
  3. ผลของฮอร์โมนรีแลกซิน: ฮอร์โมนนี้จะทำงานอย่างเต็มที่ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณอุ้งเชิงกรานให้ยืดหยุ่นที่สุด แต่ผลข้างเคียงคือ เมื่อเอ็นต่างๆ คลายตัว กล้ามเนื้อส่วนอื่นจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาความมั่นคง ส่งผลให้เกิดอาการตึงและปวดได้ง่าย

บทความที่เกี่ยวข้อง : อุ้งเชิงกรานแคบ กระดูกอุ้งเชิงกรานแคบ คนท้องคลอดเองได้ไหม

 

บทความจากพันธมิตร
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ  ยุงเล็ก เสี่ยงใหญ่ ทำไมเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ยุงเล็ก เสี่ยงใหญ่ ทำไมเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ
เจาะลึก การเสริมภูมิคุ้มกัน RSV ในหญิงตั้งครรภ์ ส่งผ่านภูมิคุ้มกันให้ทารกแรกเกิดได้อย่างไร
เจาะลึก การเสริมภูมิคุ้มกัน RSV ในหญิงตั้งครรภ์ ส่งผ่านภูมิคุ้มกันให้ทารกแรกเกิดได้อย่างไร
สร้างเกราะป้องกัน เตรียมพร้อมปกป้องลูกจากไวรัสอาร์เอสวี ในฤดูฝน
สร้างเกราะป้องกัน เตรียมพร้อมปกป้องลูกจากไวรัสอาร์เอสวี ในฤดูฝน
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกปลอดภัย ไกลยุงร้าย ง่ายนิดเดียว
Ask The Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกปลอดภัย ไกลยุงร้าย ง่ายนิดเดียว

ข้อควรระวังและวิธีรับมือเป็นพิเศษในช่วงไตรมาส 3

เพื่อช่วยประคองร่างกายและลดอาการปวดให้ได้มากที่สุด คุณแม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ได้ค่ะ:

1. รักษาสมดุลของอุ้งเชิงกราน

  • หลีกเลี่ยงการยืนขาเดียว: ให้นั่งลงบนเก้าอี้หรือขอบเตียงเสมอเวลาแต่งตัว และเวลาจะลงจากรถ ให้หมุนตัวแล้วเหวี่ยงขาทั้งสองข้างออกไปพร้อมกันก่อนลุกขึ้นยืน
  • จัดท่ายืน-นั่งให้ดี: เวลายืน ให้ลงน้ำหนักที่ขาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน เวลานั่ง ควรวางเท้าทั้งสองข้างราบกับพื้นเสมอ
  • สวมรองเท้าที่เหมาะสม: เลือกรองเท้าส้นเตี้ยที่รองรับอุ้งเท้าได้ดี เช่น รองเท้ากีฬา จะช่วยพยุงร่างกายได้ดีกว่า

2. บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegels)

การฝึกขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและช่วยพยุงน้ำหนักของทารกได้ดีขึ้น

วิธีทำ: เกร็งกล้ามเนื้อส่วนที่ใช้กลั้นปัสสาวะ ค้างไว้สักครู่แล้วคลายออก พยายามทำให้ได้วันละ 20-30 ครั้ง โดยอาจแบ่งทำเป็นเซต เซตละ 10 ครั้ง

3. พักผ่อนและใช้อุปกรณ์ช่วยพยุง

  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในท่าเดิมนานๆ: อย่ายืนหรือนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะจะยิ่งเพิ่มแรงกดทับ
  • จัดท่านอน: นอนตะแคงโดยใช้หมอนสอดไว้ระหว่างเข่า จะช่วยจัดแนวกระดูกสันหลังและอุ้งเชิงกรานให้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นกลางและสบายที่สุด
  • ใช้เข็มขัดพยุงครรภ์: เข็มขัดพยุงครรภ์ (Maternity Belt) หรือเข็มขัดพยุงอุ้งเชิงกราน (SI Belt) สามารถช่วยลดแรงกดทับและพยุงกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์

ปวดอุ้งเชิงกรานระหว่างตั้งครรภ์ อันตรายต่อลูกในท้องไหม?

แม้ว่าอาการปวดอุ้งเชิงกรานจะสร้างความเจ็บปวดและส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวร่างกายของคุณแม่เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ค่ะ ผลกระทบหลักๆ ของอาการนี้จะอยู่ที่ตัวคุณแม่เอง คือทำให้เกิดความเจ็บปวดและส่งผลต่อสมรรภาพทางกายในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกน้อย โดยปกติแล้ว อาการปวดเหล่านี้มักจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปได้เองภายใน 3 เดือนหลังคลอด อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าอาการอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีกในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปค่ะ

 

สัญญาณอันตราย: ปวดแบบไหนที่ต้องรีบไปพบแพทย์

โดยทั่วไปแล้ว หากคุณแม่มีอาการปวดอุ้งเชิงกราน ปวดหลัง หรือปวดสะโพกในระหว่างตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องว่าอาการนั้นเกิดจากภาวะปวดอุ้งเชิงกราน หรือสาเหตุอื่น

อย่างไรก็ตาม มีอาการบางอย่างที่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะอื่นที่รุนแรงกว่า ซึ่งคุณแม่ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการปวดร่วมกับอาการดังต่อไปนี้

  • ปวดรุนแรงมากแม้ไม่ได้ขยับตัว
  • มีไข้ โดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีเลือดออกหรือมีของเหลวรั่วซึม (น้ำเดิน) ผิดปกติทางช่องคลอด
  • น้ำหนักลดลง อย่างไม่ตั้งใจ
  • มีปัญหาในการควบคุมการขับถ่าย (ปัสสาวะหรืออุจจาระ)
  • รู้สึกชาหรืออ่อนแรงที่ขา
  • อาการปวดเกิดขึ้นหลังจากประสบอุบัติเหตุหกล้มหรือได้รับการบาดเจ็บ

การจัดการเมื่ออาการปวดรุนแรงมาก

หากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นอาการปวดอุ้งเชิงกราน ที่มีความรุนแรงมาก และการรักษาเบื้องต้นไม่ได้ผล อาจมีแนวทางการจัดการเพิ่มเติมดังนี้:

  • เมื่อเดินไม่ได้: หากอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถเดินได้ แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น ไม้ค้ำยัน หรือรถเข็น
  • การควบคุมความปวด: ในบางกรณีที่ปวดรุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อควบคุมและบรรเทาอาการปวด
  • การปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง: หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจส่งตัวไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านความปวดหรือศัลยแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาขั้นสูงต่อไป (แต่การผ่าตัดเพื่อรักษา PGP นั้นพบได้น้อยมาก)

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากอาการปวดอุ้งเชิงกราน

แม้อาการ ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์ จะไม่เป็นอันตรายต่อทารก แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณแม่ได้ เช่น

  • เกิดความยากลำบากในการทำกิจวัตรประจำวันและการดูแลลูก
  • อาจนำไปสู่ภาวะปวดเรื้อรังหลังคลอด
  • ส่งผลให้คุณภาพชีวิตโดยรวมลดลง

 

ปวดอุ้งเชิงกรานคลอดธรรมชาติได้ไหม ?

คุณแม่ที่มีอาการปวดอุ้งเชิงกราน ส่วนใหญ่สามารถคลอดแบบธรรมชาติผ่านทางช่องคลอดได้ค่ะ แต่อาจจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้า เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการคลอดบุตรกับคุณพ่อหรือคุณหมอไว้ก่อนค่ะ และที่สำคัญก็เพื่อลดอาการปวดของคุณแม่ลงด้วยนั่นเอง 

โดยสรุปแล้ว อาการปวดอุ้งเชิงกรานเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ไม่เป็นอันตรายต่อทารก และสามารถจัดการได้ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณแม่สามารถทำได้คือการนำเทคนิคการดูแลตัวเองต่างๆ ไปปรับใช้เพื่อบรรเทาอาการ ควบคู่ไปกับการสังเกตสัญญาณเตือนที่ต้องรีบไปพบแพทย์ และอย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม การดูแลและใส่ใจร่างกายของคุณแม่ในวันนี้ คือการสร้างรากฐานที่แข็งแรงเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวในวันข้างหน้าค่ะ

ที่มา: https://www.tommys.org/ , https://www.pregnancybirthbaby.org.au/ , https://www.wpbphysio.co.uk/

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เทคนิค ลดปวดเชิงกรานระหว่างตั้งครรภ์ด้วยตนเอง

ปวดอุ้งเชิงกราน ขณะตั้งครรภ์ เจ็บท้องน้อย ปวดจี๊ด จะเป็นอันตรายหรือไม่

การฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์สำคัญอย่างไร

อัปเดตล่าสุด 3 กันยายน 2568

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Weerati

  • หน้าแรก
  • /
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • /
  • ปวดอุ้งเชิงกรานขณะตั้งครรภ์: สาเหตุ และ 5 วิธีบรรเทาอาการที่คุณแม่ทำได้
แชร์ :
  • แคลเซียม ป้องกันครรภ์เป็นพิษ ได้จริงไหม? คนท้องต้องกินแคลเซียมเท่าไหร่?

    แคลเซียม ป้องกันครรภ์เป็นพิษ ได้จริงไหม? คนท้องต้องกินแคลเซียมเท่าไหร่?

  • แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

    แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

  • DKSH ผนึกกำลัง PacBio และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดโครงการ “LIFE-SEQ” จีโนมิกส์เพื่อการแพทย์แม่นยำครั้งแรกในเอเชีย

    DKSH ผนึกกำลัง PacBio และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดโครงการ “LIFE-SEQ” จีโนมิกส์เพื่อการแพทย์แม่นยำครั้งแรกในเอเชีย

  • แคลเซียม ป้องกันครรภ์เป็นพิษ ได้จริงไหม? คนท้องต้องกินแคลเซียมเท่าไหร่?

    แคลเซียม ป้องกันครรภ์เป็นพิษ ได้จริงไหม? คนท้องต้องกินแคลเซียมเท่าไหร่?

  • แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

    แม่แชร์ "อุทาหรณ์ลูกเป็นหวัด" แต่กลับต้องผ่าตัดที่เท้า!

  • DKSH ผนึกกำลัง PacBio และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดโครงการ “LIFE-SEQ” จีโนมิกส์เพื่อการแพทย์แม่นยำครั้งแรกในเอเชีย

    DKSH ผนึกกำลัง PacBio และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดโครงการ “LIFE-SEQ” จีโนมิกส์เพื่อการแพทย์แม่นยำครั้งแรกในเอเชีย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว