ปวดท้องหลังคลอด อาการแบบนี้ปกติไหม คุณแม่หลายคนคงคิดว่าอาการปวดต่างๆ เมื่อตั้งครรภ์น่าจะหายไปหลังจากที่ตัวเองคลอดลูก แต่พอคลอดลูกแล้วทำไมอาการเหล่านี้ยังอยู่อีก บางทีก็รู้สึกเจ็ยมากๆ อาการปวดแบบนี้จะเป็นอันตรายต่อแม่หลังคลอดหรือเปล่า แล้วคุณแม่ควรทำอย่างไรเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องได้บ้างน้า
อาการ ปวดท้องหลังคลอด เป็นอย่างไร
ปวดท้องหลังคลอด ปวดมดลูกหลังคลอดเกิดจากอะไร มีวิธีลดอาการปวดไหมหลังจาก ความปิติยินดีที่ได้เห็นหน้าลูกน้อยเป็นครั้งแรกแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณแม่จะงานยุ่งสุด ๆ ไหนจะต้องดูแลลูก ไหนจะต้องดูแลตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่หลังคลอดทั้งหลาย ยังต้องเผชิญกับอาการต่าง ๆ ที่จะตามมาหลังจากนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น อาการปวดเมื่อยต่าง ๆ มดลูกยังไม่เข้าที่ หรือแม้แต่ อาการแทรกซ้อน ที่บ้างก็ปกติทั่วไป บ้างก็อาจจะอันตราย ควรปรึกษาแพทย์
และอาการ ปวดท้องหลังคลอด เป็นหนึ่งในอาการที่คุณแม่จะต้องพบเจอ แต่ทราบหรือไม่คะว่า หลังจากคลอดลูกน้อยแล้ว อาการ ปวดท้องหลังคลอด ก็ถือเป็นเรื่องปกติ คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่า ไม่ได้คลอดเอง แต่ทำไมรู้สึกปวด บริเวณหัวหน่าว ปวดอวัยวะเพศ หรือเสียวตรงบาดแผลผ่าคลอด นานหลาย ๆ เดือนละ บางคนเป็นปี ๆ ยังเจ็บอยู่ก็มี
สาเหตุที่ ปวดท้องหลังคลอด
1. มดลูกหดตัวลง
ทันทีที่คุณแม่คลอด มดลูกจะเริ่มลดขนาดลงกลับไปสู่ขนาดเท่าเดิม ซึ่งในระหว่างที่มดลูกค่อยๆ หดตัวคุณแม่จะรู้สึกเจ็บปวด หรือชาๆ บริเวณมดลูกและหน้าท้อง โดยอาการนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นใน 2 – 3 วันแรกหลังจากคลอดค่ะ และจะกลับเข้าอู่ใช้เวลานานกว่า 6 สัปดาห์ค่ะ สำหรับคุณแม่ท้องสองหรือท้องสามจะมีอารการปวดมากกว่าคุณแม่ท้องแรก เพราะมดลูกยังแข็งแรงมากกว่า
2. อาการท้องผูก
มีคุณแม่หลายท่านที่เป็นท้องผูกหลังจากคลอดลูก อาการปวดท้องหลังจากท้องผูกมักเกิดจาการเคลื่อนไหว การบีบรัดของลำไส้ ทำให้คุณแม่รู้สึกปวดท้องค่ะ อีกทั้งยังเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ยังค้างอยู่ และผลจากยาบางชนิดทำให้คุณแม่เกิดอาการท้องผูกได้
3. เกิดจากผลข้างเคียงของการผ่าคลอด
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอดอาจทำให้เกิดการเจ็บปวดบริเวณรอบๆ แผลผ่าตัดได้ค่ะ ซึ่งวิธีการที่ช่วยบรรเทาได้ดีที่สุดคือการนอนราบและการผักผ่อนมากๆ และทานยาตามที่คุณหมอสั่งอย่างสม่ำเสมอ
บทความที่น่าสนใจ :อาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์ แบบไหนที่ต้องเจอ 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 9
แม่หลังคลอดจะปวดท้องนานแค่ไหน
ระยะเวลาที่คุณแม่เจ็บหลังคลอดมักจะขึ้นอยู่กับช่วงที่คุณแม่คลอดลูกค่ะ หากคุณแม่คลอดธรรมชาติ อาการปวดท้องหลังคลอดจะอยู่ไม่นานค่ะ ส่วนใหญ่จะรู้สึกเจ็บประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากคลอด ซึ่งช่วงที่คุณแม่เจ็บปวดนั้นจะมีความรู้สึกราวกับว่ามีอะไรมากด มาบีบมดลูก เหมือนมดลูกจะพัง แต่ไม่ต้องกังวลนะคะเดี๋ยวจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด คุณแม่จะมีอาการเจ็บท้องประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากคลอดเช่นเดียวกันค่ะ แต่บางครั้งความรู้สึกเจ็บอาจจะกินเวลานานมากกว่านั้นซึ่งอยู่กับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น หรือประวัติการผ่าตัดที่ผ่านมาค่ะ ซึ่งความรุนอรงของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันไป
ปวดท้องแบบไหนที่เรียกว่าอันตราย
อาการปวดท้องแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. อาการปวดท้องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการนี้เกิดได้ในผู้หญิงทั่วไป อาทิ เกิดจากกลุ่มโรคทางลำไส้ เช่น โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ไส้ติ่ง หรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือทางเดินอาหาร หรือการติดเชื้อในระบบอวัยวะของผู้หญิง เช่น มดลูก ช่องคลอด เป็นต้น
2. อาการปวดท้องน้อยที่เกี่ยวเนื่องกับการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเฉียบพลัน หรือเกิดขึ้นหลังคลอดไปแล้ว ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น
- อาการปวดแบบเฉียบพลัน ซึ่งอาการนี้ มักจะเกิดภายใน 24 ชั่วโมงภายหลังจากคลอด อาการจะมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของร่างกายแต่ละคน และความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ในตอนที่คลอด ซึ่งความเสี่ยงนั้น ได้แก่ มดลูกมีขนาดใหญ่มากเกินไป (ในกรณีที่ตั้งท้องลูกแฝด) เพราะกรณีนี้ อาจทำให้เกิดปัญหาการรัดตัวของมดลูกที่ผิดปกติได้ หรือระยะเวลาการคลอดนั้น นานเกินไป (กรณีที่คลอดยาก) ทำให้เกิดการติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ หรือแม้แต่อาการเกิดเลือดคลั่ง หรือเลือดออกบริเวณแผลผ่าคลอด เป็นต้น
- ปวดหลังคลอด ในกรณีนี้อาจเกิดได้จากการตกเลือด หลังคลอดภาวะมดลูกเข้าอู่ช้า มดลูกเกิดการหย่อน ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อ ส่งผลให้ มีการปวดท้องน้อยได้ นอกจากนี้ การถูกลูกกระตุ้นด้วยการดูดนม ก็อาจทำให้ปวดท้องน้อยได้เช่นกัน
อาการแบบไหนที่ควรให้ความสำคัญ
- อาการปวดท้องที่มีไข้ร่วมด้วย
- ปวดท้องร่วมกับอาการตกเลือด
- ปวดท้องร่วมกับมีตกขาวมากผิดปกติ
- ปวดท้องร่วมกับการเจ็บบริเวณมดลูกหรือฝีเย็บ
ปวดท้องหลังคลอดต้องแก้ยังไง
วิธีบรรเทาอาการปวดท้องหลังคลอดของคุณแม่ มีดังต่อไปนี้
1. ดื่มน้ำสะระเหน่สด
อาการปวดเมื่อยหรืออาการปวดท้องมักจะส่งผลต่อกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจทำให้ระบบกระเพาะอาหารหรือลำไส้ของคุณแม่แปรปรวนเอาได้การดื่มสะระเหน่อาจช่วยให้คุณแม่รู้สึกคุณแม่ เพราะสะระเหน่จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการท้องผูก วิธีการคือ นำใบสะระเหน่ลงไปต้มแล้วเติมน้ำมะนาวลงไป จากนั้นก็ดื่มวันละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นค่ะ
2. ดื่มน้ำผึ้ง
หากคุณแม่รู้สึกปวดท้องบริเวณมดลูก มีอาการบวม หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจมีการติดเชื้อเอาได้ หากคุณแม่มีการติดเชื้อในมดลูก การดื่มน้ำผึ้งสามารถช่วยได้ค่ะ เพราะน้ำผึ้งมีสรรพคุณในการต่อสู้กับเชื้อเบคทีเรียและยังเป็นยาฆ่าเชื้อด้วยเช่นกัน วิธีทำ คือ ให้นำน้ำผึ้งใส่ไปในน้ำอุ่นและบีบมะนาวลงไป หากอยากให้ผลดีที่สุดให้ดื่มช่วยเช้า
3. แช่น้ำร้อน
เวลาที่คุณแม่รู้สึกปวดท้องรอบๆ มดลูก แนะนำให้ประคบด้วยความร้อน หรือจะลงไปแช่ในอ่างน้ำอุ่นสักวันละครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายลงได้
4. ใช้ถุงร้อนประคบ
หลังจากคลอดลูกกล้ามเนื้อหน้าท้องคุณแม่จะค่อยๆ หดตัวลง ทำใหคุณแม่รู้สึกปวดตึงและเจ็บมาก ดังนั้นการใช้ถุงร้อนหรือน้ำอุ่มประคบก็จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดลงได้ค่ะ เพราะถุงร้อนจะช่วยทำให้การหมุนเวียนเลือดดีขึ้นช่วยให้มดลูกคลายตัว ทำให้ความเจ็บปวดเริ่มทุเลาลงค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อาหารแสลงห้ามกินหลังคลอด กินแล้วน้ำนมหด เลือดลมตี แม่ลูกอ่อนต้องระวัง!!
เพศสัมพันธ์ ประจำเดือนและการคุมกำเนิดหลังคลอด ปัญหาคาใจที่คุณต้องรู้
วิธีดูแลตัวเองหลังคลอด 8 วิธีดูแลตัวเองของแม่หลังคลอดในเดือนแรก
ที่มา : parenting.firstcry.
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!