X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

บทความ 5 นาที
ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

เชื่อไหมคะ ? ลูกดูดนิ้วมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่แล้ว ดังนั้น พฤติกรรมการดูดนิ้วของลูก ไม่ใช่เกิดจากลูกหิวนะคะ และไม่ใช่สิ่งที่จะบอกถึงอาการหรือความต้องการของเด็ก

ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ ??!! 

ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

ทำไมเจ้าหนูน้อยถึงชอบดูดนิ้ว

เชื่อไหมคะ ? ลูกดูดนิ้วมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่แล้ว  ดังนั้น พฤติกรรมการดูดนิ้วของลูก ไม่ใช่เกิดจากลูกหิวนะคะ  และไม่ใช่สิ่งที่จะบอกถึงอาการหรือความต้องการของเด็ก  แต่การดูดนิ้ว คือ

  1. การกระตุ้นประสาทการรับรส การกระตุ้นการทำงานของช่องปาก ต่อมน้ำลายต่างๆ
  2. นอกจากนี้ การดูดนิ้วของทารกน้อย บางครั้งก็เป็นการแสดงออกถึงความกังวลหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยเช่นกันค่ะ เช่น เมื่อเจ้าหนูมองไม่เห็นคุณแม่ และกำลังรู้สึกกังวลหรือไม่ปลอดภัย ลูกอาจจะใช้วิธีดูดนิ้ว เพราะเด็กเคยชินกับการดูดนิ้วตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพราะตอนอยู่ในท้องคุณแม่เด็กจะรู้สึกปลอดภัยและได้ใกล้ชิดกับคุณแม่
  3. ลูกมักจะเลิกดูดนิ้วไปเองเมื่อเขาเจอวิธีอื่น ๆ ที่ช่วยให้ตัวเองสงบและสบายใจได้ โดยปกติแล้วมักจะเลิกภายในช่วง 4-5 ขวบค่ะ ถึงแม้ว่าเด็กหลายคนอาจจะยังดูดนิ้วบ้างในตอนกลางคืน หรือในเวลาที่เขารู้สึกเครียด

กังวลลูกดูดนิ้ว : ลูกดูดนิ้ว มีข้อดีไหม หรือว่าจำเป็นต้องห่วง

ชอบดูดนิ้ว ปกติหรือน่ากังวล?

อย่างไรก็ตาม มีเด็กหลายคนติดดูดนิ้วต่อเนื่องจนถึงอายุ 5-6 ขวบ เด็กเหล่านี้ควรได้รับการตรวจรักษาก่อนที่การดูดนิ้วจะนำไปสู่ปัญหาการสบของฟันที่ผิดปกติ (Malocclusion) ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากเห็นด้วยว่าเด็กซึ่งเล็กกว่า 5 ขวบไม่ควรถูกบังคับให้เลิกดูดนิ้ว เด็กส่วนใหญ่จะเลิกติดดูดนิ้วไปเองก่อนจะเข้าเรียนชั้นอนุบาล ความจริงแล้ว มากกว่าสามในสี่ของเด็กทารกดูดนิ้วตลอดช่วงขวบปีแรกของชีวิต เด็กมักดูดนิ้วเมื่อรู้สึกเบื่อ ง่วงหรือหงุดหงิด นอกจากนี้ยังไม่ใช่เรื่องแปลกที่การดูดนิ้วอาจเกิดควบคู่ไปกับพฤติกรรมอื่น เช่น ใช้นิ้วพันผมเล่น จับหูตัวเองหรือลูบ “ผ้าห่มผืนโปรด”

การติดดูดนิ้วเรื้อรังอาจนำไปสู่ปัญหาการสบฟันหน้าไม่สนิทและฟันหลังสบไขว้ ผลกระทบของการดูดนิ้วขึ้นอยู่กับวัยของเด็ก ระยะเวลา ความถี่และความแรงของการดูดนิ้ว ตามปกติแล้วหากตรวจพบก่อนที่ขากรรไกรบนของเด็กจะเติบโตสมบูรณ์ ปัญหาการสบฟันอันเกิดจากการดูดนิ้วมักหายได้เอง แต่หากเด็กยังติดนิสัยนี้ต่อไปโดยไม่ได้รับการแก้ไข การสบฟันผิดปกติจากการดูดนิ้วอาจจำเป็นต้องได้รับการจัดฟันที่ยุ่งยากซับซ้อนต่อไปในอนาคต

แม้จะได้ทราบถึงเหตุผลของลูกว่าทำไมชอบดูดนิ้ว แต่อีกใจคุณพ่อคุณแม่ก็อดกังวลไม่ได้ หากนิ้วหรือมือของลูกเกิดไปหยิบจับสิ่งต่าง ๆ จะทำให้เชื้อโรคติดเข้าปากลูกได้ จึงให้ “จุ๊บ” หรือจุกนมปลอมให้ลูกดูดแทนดีกว่า!!!

ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

 

วิธีการที่จะให้ลูกดูดนิ้ว 

ไม่ยากเลยละค่ะ แต่ก่อนอื่น คุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยกันสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกก่อน ทำให้ลูกรู้สึกว่า การไม่ดูดนิ้วนั้นดีอย่างไรก่อน และคอยชมและให้กำลังใจเวลาที่พวกเขาทำได้ ของแบบนี้ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปกันนะคะ อย่าไปหักดิบลูกเด็ดขาด และนี่คือวิธีการง่าย ๆ ที่เราเอามาฝากค่ะ

1. หลีกเลี่ยงให้ลูกนอนดูดนิ้ว เพราะลูกอาจจะเผลอดูดนิ้วไปตลอดทั้งคืน และนั่นส่งผลให้เกิดปัญหาฟันสบเปิด และแน่นอนค่ะว่า เมื่อพวกเขาโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ได้พาพวกเขาไปจัดฟันเป็นแน่

2. จับตาดูลูก คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะจับตาดูลูกเสมอ และพยายามเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการเอาของเล่นใส่มือทั้งสองข้างทันที

3. อย่าดุลูก เข้าใจค่ะว่า คุณพ่อคุณแม่อาจจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นลูกดูดนิ้ว แต่ของแบบนี้ต้องใช้เวลานะคะ การพยายามให้ลูกเลิกด้วยอารมณ์และบังคับเขานั้น จะทำให้ลูกไม่เข้าใจ เสียใจ และอาจจะดูดนิ้วหนักกว่าเดิม

4. หารูปเชื้อโรคมาให้ลูกดู วิธีนี้อาจจะเป็นการทำให้ลูกกลัวเสียหน่อย แต่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะได้ผลนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กที่เริ่มโตและรู้เรื่องแล้ว วิธีการก็คือ บอกเขาว่า นี่คือเชื้อโรคที่อยู่ตามนิ้วของลูก เพราะลูกไม่มีทางรู้เลยว่า สิ่งของหรือของกินที่ลูกจับต้องนั้น ปราศจากเชื้อโรคจริงหรือไม่ ดังนั้น การที่ลูกดูดนิ้วนั่นก็หมายถึง ลูกดูดอมเอาเชื้อโรคเข้าไปในร่างกายด้วย และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่สบาย

5. ลองใช้วิธีแบบโบราณ สิ่งที่คนสมัยก่อนมักใช้ในการห้ลูกดูดนิ้วนั้นก็คือ การนำบอระเม็ดมาทาที่นิ้วลูก และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาดูดเข้าไป เมื่อนั้นเขาจะได้สัมผัสกับรสชาติของความขม ที่พวกเขาจะรู้สึกเข็ดไปได้เอง โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยเลยละค่ะ

จุกหลอกดีหรือไม่ : จุกหลอก: ข้อดีและข้อเสียที่พ่อแม่ควรรู้

ดูดจุกนมหลอกดีอย่างไร

  1. ลดอาการร้องไห้เมื่อเจ้าหนูกินนมแล้ว แต่ยังร้องไม่เลิก
  2. ช่วยลด การเล่นน้ำลาย ดูดนิ้ว ดูดปาก
  3. การให้เด็กดูดจุกนมหลอก สามารถป้องกันการเกิดภาวะเสียชีวิตเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ หรือที่เราเรียกว่า SIDS (sudden infant death syndrome) ได้แนะนำให้รอจนลูกอายุอย่างน้อย 1 เดือนจึงค่อยเริ่มให้ใช้จุกหลอก เพื่อให้ทารกได้คุ้นเคยกับการดูดนมแม่ก่อน เพราะการใช้จุกหลอกอาจมีผลกระทบกับการให้นมของคุณแม่ได้
  4. จุ๊บสามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้ชั่วคราว เมื่อเด็ก ๆ หิว จุ๊บสามารถถ่วงเวลาให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งท่าให้นม หรือ เตรียมชงนม จุ๊บยังเหมาะกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เช่น ฉีดยา ตรวจเลือด หรือ การตรวจอื่น ๆ
  5. จุกนมหลอกยังอาจถูกใช้เป็นตัวแทนของคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดเพื่อลดอาการกังวลจากการแยกจาก เช่นเดียวกับ ผ้าห่ม ตุ๊กตา รวมทั้งเด็กบางคนอาจดูดจุกนมหลอกเพื่อกล่อมให้ตัวเองนอนหลับได้

ดูดจุกนมหลอกดีอย่างไร 1. ลดอาการร้องไห้เมื่อเจ้าหนูกินนมแล้ว แต่ยังร้องไม่เลิก 2. ช่วยลด การเล่นน้ำลาย ดูดนิ้ว ดูดปาก 3. การให้เด็กดูดจุกนมหลอก สามารถป้องกันการเกิดภาวะเสียชีวิตเฉียบพลันไม่ทราบสาเหตุ หรือที่เราเรียกว่า SIDS (sudden infant death syndrome) ได้แนะนำให้รอจนลูกอายุอย่างน้อย 1 เดือนจึงค่อยเริ่มให้ใช้จุกหลอก เพื่อให้ทารกได้คุ้นเคยกับการดูดนมแม่ก่อน เพราะการใช้จุกหลอกอาจมีผลกระทบกับการให้นมของคุณแม่ได้ 4. จุ๊บสามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้ชั่วคราว เมื่อเด็ก ๆ หิว จุ๊บสามารถถ่วงเวลาให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งท่าให้นม หรือ เตรียมชงนม จุ๊บยังเหมาะกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เช่น ฉีดยา ตรวจเลือด หรือ การตรวจอื่น ๆ 5. จุกนมหลอกยังอาจถูกใช้เป็นตัวแทนของคุณแม่หรือผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดเพื่อลดอาการกังวลจากการแยกจาก เช่นเดียวกับ ผ้าห่ม ตุ๊กตา รวมทั้งเด็กบางคนอาจดูดจุกนมหลอกเพื่อกล่อมให้ตัวเองนอนหลับได้ ข้อเสียของจุกหลอก 1. ลูกติดจุกนมหลอกจนไม่ดูดนมแม่ อาจส่งผลให้ปริมาณของน้ำนมแม่ลดลง เนื่องจากขาดการดูดกระตุ้น 2. จุกนมหลอกลูกมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคได้มากกว่า หากทำความสะอาดไม่ดีพอเช่น โรคติดเชื้อในหูชั้นกลาง 3. การติดจุกหลอกก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อโครงสร้างของเหงือกและฟันจนผิดรูปร่างไปอย่างถาวรซึ่งส่งผลต่อการสบฟันของเด็ก เมื่อมีปัญหาด้านการสบฟันก็จะทำให้มีผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร

การให้นมลูก แชร์ให้พ่อได้อ่าน 10 เรื่องที่คุณพ่อมือใหม่ช่วยได้ในเวลาที่แม่ให้นมลูก

 

 ข้อเสียของจุกหลอก

  1. ลูกติดจุกนมหลอกจนไม่ดูดนมแม่ อาจส่งผลให้ปริมาณของน้ำนมแม่ลดลง เนื่องจากขาดการดูดกระตุ้น
  2. จุกนมหลอกลูกมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคได้มากกว่า หากทำความสะอาดไม่ดีพอเช่น โรคติดเชื้อในหูชั้นกลาง
  3. การติดจุกหลอกก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อโครงสร้างของเหงือกและฟันจนผิดรูปร่างไปอย่างถาวรซึ่งส่งผลต่อการสบฟันของเด็ก เมื่อมีปัญหาด้านการสบฟันก็จะทำให้มีผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร

ทำอย่างไรให้ลูกเลิกดูดนิ้และ ดูดจุกหลอก

เมื่อติดได้ก็เลิกได้ “ดูดนิ้ว”

  1. ฝึกให้ลูกใช้มือในการทำอย่างอื่น หาของเล่นที่ต้องมีการฝึกทักษะมือให้ลูกเล่น เช่น ลูกบอล พอใช้มือมาก ๆ สุดท้ายลูกก็จะลืมเรื่องเอานิ้วเข้าปากไปเอง วิธีการนี้เป็นการช่วยเบี่ยงเบนพฤติกรรมลูกได้ ไม่นานพฤติกรรมนี้ก็จะหายไปได้ในที่สุด
  2. หากเห็นลูกดูดนิ้ว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรดุว่า หรือดึงมือออกจากปากทันที ควรปล่อยให้ดูดอีกสัก ค่อยเข้าไปพูดเล่นดี ๆ ด้วยและเบนประเด็นให้สนใจทำอย่างอื่นแทนการดูดนิ้ว

เมื่อติดได้ก็เลิกได้  ดูดจุกหลอก

  1. เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 8 เดือน สามารถเบี่ยงเบนความสนใจเด็กจากจุกหลอกได้หลายรูปแบบ เช่น การเล่นเปลโยก ร้องเพลง หรือการเปิดเพลงสบายๆ
  2. เด็กอายุประมาณ 7 – 18 เดือน สามารถให้เด็กทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น เล่นของเล่น หรือให้เด็กมีของเล่นติดมือเป็นของเล่นอื่น ๆ ตุ๊กตา ลูกบอล เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของลูกจากจุกหลอก
  3. ลูกอายุ 1 ขวบขึ้นไปคุณแม่ควร จำกัดการใช้จุกหลอกเฉพาะช่วงที่จำเป็นในแต่ละวัน เช่น เวลาเข้านอน หรือเวลาที่น้องไม่สบาย คุณต้องหนักแน่นหน่อยนะคะ รวมถึงให้รางวัลเจ้าตัวเล็กด้วยการเล่นกิจกรรมสนุกๆ หรือให้รางวัลโดยใช้แผ่นสะสมดาวหรือสติกเกอร์ อย่าให้ลูกกินขนมแทนการใช้จุกหลอกนะคะ

คำแนะนำในการใช้จุกหลอก

  1. ควรฆ่าเชื้อด้วยการต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที
  2. ควรมีจุกหลอกสำรองในกรณีที่อาจทำหายหรือหล่นพื้น
  3. ระหว่างเดินทาง ควรทำความสะอาดจุกด้วยการล้างน้ำอุ่น และน้ำสบู่
  4. ไม่ควรบังคับลูกให้ใช้จุกหลอก หากลูกไม่อยากใช้ ควรหาวิธีอื่นที่ทำให้ลูกหยุดร้องแทน
  5. เลือกจุกหลอกให้เหมาะกับอายุของลูก และเลือกที่หัวนุ่มๆ จะเหมาะที่สุด
  6. ไม่ควรผูกจุกไว้กับสายคล้องคอที่ยาวเกิน 6 นิ้ว เพราะอาจติดคอเด็กได้

สำหรับในต่างประเทศนั้นมีการศึกษาและได้ข้อสรุปว่า การใช้จุกนมหลอกนั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพียงแต่คุณแม่ควรที่จะต้องใช้อย่างถูกวิธี และไม่ใช้มากหรือบ่อยเกินไปค่ะ

ลูกชอบดูดนิ้วเพราะอะไร : ทำไมลูกชอบกัดเล็บ ดูดนิ้ว ดึงผม นิสัยแบบนี้แก้หายไหม

ได้ทราบถึงสาเหตุของการดูดนิ้ว  รวมไปถึงข้อดี ข้อเสียของการดูดจุ๊บหรือจุกหลอก คงจะพอช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจได้นะคะว่าดูดจุ๊บหรือดูดนิ้วดีกว่า บทความนี้ขอให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณพ่อคุณแม่นะคะ  ที่สำคัญอย่าให้ติดอะไรเลยจะดีกว่านะคะ  ค่อย ๆ เลิกทีละน้อยอาจปฏิบัติตามวิธีการที่แนะนำมาหรือมีวิธีดี ๆ มาบอกเล่ากันก็ยิ่งดีนะคะ

ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์   คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ  หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ

 

บทความจากพันธมิตร
มารู้จักกับ Phenomenon-Based Learning กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษานอกห้องเรียนมากกว่าการท่องจำ
มารู้จักกับ Phenomenon-Based Learning กระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษานอกห้องเรียนมากกว่าการท่องจำ
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
BASIS Bangkok โรงเรียนนานาชาติชั้นนำระดับโลก ที่ปูพื้นฐานความเป็นเลิศตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็ก
BASIS Bangkok โรงเรียนนานาชาติชั้นนำระดับโลก ที่ปูพื้นฐานความเป็นเลิศตั้งแต่ระดับชั้นเด็กเล็ก
เช็กให้ชัวร์ลูกสูงตามเกณฑ์
เช็กให้ชัวร์ลูกสูงตามเกณฑ์

ข้อมูลอ้างอิงข้อมูล

https://www.thelittlegymrama3.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

วิธีบีบเต้า ช่วยลูกดูดนม

เลือกจุกนม ให้ลูกดูด จ๊วบ ๆ อย่างสบายใจ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Weerati

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • ดูดจุกนมหลอกหรือดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ
แชร์ :
  • ดูดจุ๊บ VS ดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

    ดูดจุ๊บ VS ดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

  • ลูกดูดนิ้ว กัดเล็บ ข้อดีของการดูดนิ้ว ทารกดูดนิ้ว ดีอย่างไร ต้องจับลูกเลิกหรือไม่ วิธีเลิกดูดนิ้ว วิธีเลิกกัดเล็บ

    ลูกดูดนิ้ว กัดเล็บ ข้อดีของการดูดนิ้ว ทารกดูดนิ้ว ดีอย่างไร ต้องจับลูกเลิกหรือไม่ วิธีเลิกดูดนิ้ว วิธีเลิกกัดเล็บ

  • 400 ชื่อเล่นไทยๆ แต่เก๋ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ชื่อเล่นไทยๆ ในปี 2023

    400 ชื่อเล่นไทยๆ แต่เก๋ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ชื่อเล่นไทยๆ ในปี 2023

  • ดูดจุ๊บ VS ดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

    ดูดจุ๊บ VS ดูดนิ้วให้ลูกดูดอะไรดีกว่ากันนะ

  • ลูกดูดนิ้ว กัดเล็บ ข้อดีของการดูดนิ้ว ทารกดูดนิ้ว ดีอย่างไร ต้องจับลูกเลิกหรือไม่ วิธีเลิกดูดนิ้ว วิธีเลิกกัดเล็บ

    ลูกดูดนิ้ว กัดเล็บ ข้อดีของการดูดนิ้ว ทารกดูดนิ้ว ดีอย่างไร ต้องจับลูกเลิกหรือไม่ วิธีเลิกดูดนิ้ว วิธีเลิกกัดเล็บ

  • 400 ชื่อเล่นไทยๆ แต่เก๋ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ชื่อเล่นไทยๆ ในปี 2023

    400 ชื่อเล่นไทยๆ แต่เก๋ ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ชื่อเล่นไทยๆ ในปี 2023

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ